ขออนุญาตสอบถามครับ แล้วในกรณีที่ปืนเป็นชื่อของบิดาที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่ลูกหลานยังไม่ได้ทำการโอน ต้องทำอย่างไรบ้างครับ
ขออนุญาตตอบแทนท่านผู้อาวุโสฯ ไปพลางก่อนนะครับ.
แนะนำให้รีบ คัดเลือกกันในหมู่ทายาท หาผู้จัดการมรดก เมื่อตกลงกันได้แล้ว จ้าง, แต่งตั้งทนาย
ยื่นคำร้องต่อศาล ตั้งผู้จัดการมรดก ทนายทุกคนรู้ดี ค่าแรง 4-5 พันบาท รอคำสั่งศาล 45-60 วัน.
เมื่อได้คำสั่งศาลแล้ว สามารถโอนออกจากชื่อผู้ตายไปเป็นชื่อทายาทผู้ที่ต้องการ หรือใครที่ต้องการซื้อ
โดยไม่ต้องโอนเป็นชื่อ ผจก.มรดกก่อน เอกสารประกอบการโอน ทำได้โดยใช้สำเนาบัตรประชาชนและ
สำเนาทะเบียนบ้านของ ผจก.มรดก สำเนาคำสั่งศาลฯ สำเนาใบมรณบัตร เอกสารประกอบตัวปืน เซนต์รับรองสำเนาถูกต้อง ครับ.
ขอสอบถามคุณ mob133 อ่านแล้วรู้สึกขัดๆกันอย่างไรไม่ทราบครับ....เท่าที่ได้ข่าวมาเรื่องการระงับออกใบอนุญาติให้มีและใช้อาวุธปืนในขนาด เช่น .223 .308 .338 แต่ในเมื่อศาลมีคำสั่งให้แต่งตั้งผู้จัดการมรดก และผู้จัดการมรดกจะโอนอาวุธปืนให้แก่ทายาท กรณีเช่นนี้จะทำอย่างไรครับ???
แยกกันให้ออกสิครับ กรณีนี้เป็นการหาผู้จัดการมรดก (ผจก.มรดก) เพื่อจัดการกับทรัพย์สินของผู้ตาย
เมือได้ ผจก.มรดกแล้วทรัพย์สินที่เป็นปืน เมื่อจะโอนให้ใคร ผู้ใด ผู้ที่รับโอนต้องมีใบอนุญาตฯ ( ป3 )
(อนุญาตให้ซื้อหรือรับโอน) กฏหมายไม่ได้ระบุว่าต้องโอนภายในกี่วัน กี่เดือน กี่ปี หากช่วงนี้ห้ามโอน
ก็ยังไม่ต้องโอน จะทอดเวลาห้ามโอน ออกไปนานจนถึงฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครั้งที่ 3 ก็ย่อมต้องรอ
อีกอย่างผู้ใดได้รับใบอนุญาต ป 3 ( อนุญาตให้ซื้อหรือรับโอน) ไปซื้อหรือรับโอนปืนแล้ว ตัดโอนมาแล้ว
หากยังไม่มีเวลาเอาชุดตัดโอนไปดำเนินการเปลี่ยนเป็นใบ ป 4 กรณีนี้กฏหมายไม่ได้ระบุวันสิ้นสุดเอาใว้
ผู้ใด ผู้นั้นสามารถเก็บปืนพร้อมเอกสารชุดนั้นใว้คู่กัน ตั้งแต่ลูกชายเกิดยันลูกบวช ก็ย่อมได้ไม่ผิด กม. ครับ.