เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 21, 2024, 12:46:05 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ตา-ยาย ชีวิตที่ต้องสู้ กับปลาตะเพียน 10 บาท  (อ่าน 2414 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
RMAY
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2011, 10:36:20 AM »



แม้สังขารจะร่วงโรยจนทำอะไรไม่ไหวแล้ว แต่ “2 ตายาย” นายบุญและนางทิพย์แก้ว ผาทอง ก็ยัง

หยุดพักไม่ได้ ยิ่งในสภาพเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพงเช่นนี้ ทั้งตาและยายก็ยิ่งต้องปากกัดตีน

ถีบ หาเลี้ยงตนเองรวมทั้งลูกและหลานรวม 4 ชีวิต

ปลาตะเพียนสานจากใบลานตัวจ้อยราคาตัวละ 10 บาท ถูกปัก

เรียงรายบนโฟมเก่าๆ วางอยู่บนพื้นถนนในตลาดนัดสวนจตุจักร

ตานั่งอยู่ข้างๆ กับยาย ทั้งคู่ดูเหมือนไม่ได้มานั่งขายของ เพราะ

อาการที่นั่งเฉยๆ ช่างผิดกับวิสัยพ่อค้าแม่ค้าทั่วไปที่มักตะโกน

ร้องเรียกลูกค้าให้มาซื้อของของตน

“เรารู้ว่าของของเราไม่ดี ก็แล้วแต่เขาจะช่วยเท่านั้น เพราะเรา

ก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรขาย ใครที่มาซื้อก็นับว่าเป็นบุญคุณแล้ว”

ยายทิพย์แก้ว อายุ 83 ปี เล่าช้าๆ ซึ่งตอนนั้นเองก็มีวัยรุ่น

ผู้หญิงคนหนึ่งมาซื้อปลาตะเพียนไป 1 ตัว

ทั้ง 2 ตายายเป็นคนยโสธรที่เข้ามาหางานทำที่กรุงเทพฯ โดย

ก่อนหน้านี้ ตาทำอาชีพขับรถรับจ้าง ในขณะที่ยายก็ขายของ

เล็กน้อยๆ ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 6 คน ขณะนี้ลูกๆ ย้ายไปมีครอบ

ครัวกันหมดแล้ว เหลือเพียงลูกชายคนเดียวที่ยังอยู่ด้วยกัน

เพราะป่วยเป็นอัมพฤกษ์ช่วยเหลือตัวเองได้นิดหน่อย กับหลาน

อีกหนึ่งคน
 
“รายได้ที่ได้มาก็พอประทังชีวิตไปวันๆ เรา 3-4 คน” ตาบุญ วัย

87 ปีเล่า ก่อนจะบอกว่า ตนและยายอยู่ด้วยกันอย่างพอเพียง

แม้จะมีลูกแต่ก็ไม่อยากรบกวน เพราะลูกก็ต้องกินต้องใช้ ไหน

จะส่งลูกเรียนหนังสือ ไหนจะใช้ใช้จ่ายประจำวัน ทุกวันนี้เช่า

ห้องอยู่หลังวัดไผ่ตัน สะพานควาย เดือนละ 1,500 บาท

เงินที่ได้จากขายปลาตะเพียนก็เอามาจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ซื้อกับ

ข้าวกับปลามากิน และเจียดเงินเล็กๆ น้อยๆ มาเก็บเอาไว้บ้าง

เพื่อนำไปรักษาตัวให้ลูกชายที่เป็นอัมพฤกษ์ และยายที่มีโรค

รุมเร้าหลายโรค ทั้งตาข้างขวากำลังจะบอด หูที่ไม่ค่อยได้ยิน

แล้ว คออักเสบจนโป่งพองขึ้นมา ปวดหลังที่ทำให้ต้องเดินหลัง

ค่อม และปวดตามเนื้อตาตัวที่เดินไม่กี่ก้าวก็ต้องหยุดพัก

“พยายามประหยัดทุกอย่าง เสื้อผ้านี่ก็มีคนให้มา อาหารการกิน

ก็ซื้อมาทำกินเอง และตอนนี้กำลังเก็บเงินไปรักษายาย ซึ่งจวน

จะครบแล้ว” ตาเล่ายิ้มๆ

ตากับยายจะออกทำงาน โดยจะหอบหิ้วกระสอบเก่าๆ ที่ข้างใน

ใส่ปลาตะเพียนสานและนกสานไว้หลายสิบตัว ตระเวนไปขาย

ปลาตะเพียนตามย่านที่มีคนพลุกพล่าน ไม่ว่าจะเป็นสวนจตุจักร

สนามหลวง สีลม ประตูน้ำ รายได้แต่ละวันประมาณ 300-400 บาท

“ชีวิตไม่ลำบากเท่าไหร่ จะลำบากก็ตอนมีคนมาไล่ที่ เราก็แก่

แล้ว ใครเขาให้ไปทางไหนก็ต้องไป ไม่อยากไปทะเลาะอะไร

กับเขา” ยายบอก แล้วเล่าเหตุการณ์ความโชคร้ายที่เพิ่งผ่าน

พ้นมาไม่กี่วันว่า ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกเอาเงินไปแล้วเอาไป

ปล่อยไว้ที่สะพานลอยเซ็นทรัล ลาดพร้าว

“วันนั้นอยู่คนเดียว ตากลับบ้านไปเอาข้าวให้ยายกิน ก็มีคนมา

ต้อนยายให้ขึ้นแท็กซี่ พอไปถึงหน้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว รถติดๆ

เขาก็พาลงจากรถ แล้วคนมันเยอะๆ หันมาอีกทีเขาก็หายไป

แล้ว พร้อมกับข้าวของและเงินที่ขายปลาตะเพียนได้” เล่าช้าๆ

ก่อนน้ำเสียงจะขาดไปพักหนึ่ง จึงบอกต่อว่า

“เสียดายเงิน แต่ก็ไม่รู้จะไปเอาคืนจากเขาที่ไหน เรามันแก่

แล้ว” ในน้ำเสียงไม่มีร่องรอยของความเสียใจ เหมือนกับว่า

กำลังทำใจกับชะตาชีวิตที่ต้องมาประสบกับเหตุการณ์แบบนี้

“ความสุขทุกวันนี้คือ ขายของได้มีเงินไปซื้อข้าวกิน ดูแลลูก

ดูแลหลาน ไม่เคยคิดอยากได้อะไร เพราะคิดแล้วเป็นทุกข์ ก็

เลยไม่คิด แค่พออยู่ได้ก็ดีใจแล้ว” ยายทิพย์แก้วทิ้งท้าย

หากใครกำลังคิดว่า ตัวเองแย่แล้ว ลองดูชีวิตของ 2 ตายายคู่นี้

ที่แม้จะลำบากเพียงไหนก็ยังยืนหยัดสู้ด้วยหัวใจที่ไม่ยอมแพ้

สู้ครับยาย  ไหว้
บันทึกการเข้า
yod - รักในหลวง ครับ
ความรัก - เริ่ม - จากความรู้สึก หรือ ความคิด กันแน่นะ ..... ประวัติศาสตร์อาจจะย้อนรอยเดิม แต่คนไม่อาจย้อนอดีตได้
Hero Member
*****

คะแนน 1628
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18173



« ตอบ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2011, 10:39:22 AM »


ชีวิตต้องสู้

ภูมิปัญญาชาวบ้าน

บันทึกการเข้า

..สิ่งสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ว่า...วันนี้เขาอยู่หรือจากไป
สำคัญที่ว่า...ช่วงที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน
ขอให้มีความทรงจำที่ดี...ก็เพียงพอแล้ว
อย่างน้อย เราก็ยังมีอะไรดีดีให้นึกถึง
และยิ้มให้ความทรงจำนั้นได้ ...

..กรอบใดกักขังแค่กาย แต่ใจอย่าหมายกั้นได้
โซ่ตรวนรัดรึงตรึงไว้  แต่ใจนั้นใฝ่เสรี..
yod - รักในหลวง ครับ
ความรัก - เริ่ม - จากความรู้สึก หรือ ความคิด กันแน่นะ ..... ประวัติศาสตร์อาจจะย้อนรอยเดิม แต่คนไม่อาจย้อนอดีตได้
Hero Member
*****

คะแนน 1628
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18173



« ตอบ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2011, 10:41:51 AM »



ผมก็ตามซื้อเก็บไว้
ทั้งตั๊กแตน  และ กุ้ง
เห็นภูมิปัญหาชาวบ้าน ในการหาของเล่นให้ลูกหลาน
ในสมัยก่อน ที่ใช้ของใกล้ตัว มาทำให้เกิดประโยชน์
บันทึกการเข้า

..สิ่งสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ว่า...วันนี้เขาอยู่หรือจากไป
สำคัญที่ว่า...ช่วงที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน
ขอให้มีความทรงจำที่ดี...ก็เพียงพอแล้ว
อย่างน้อย เราก็ยังมีอะไรดีดีให้นึกถึง
และยิ้มให้ความทรงจำนั้นได้ ...

..กรอบใดกักขังแค่กาย แต่ใจอย่าหมายกั้นได้
โซ่ตรวนรัดรึงตรึงไว้  แต่ใจนั้นใฝ่เสรี..
ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1183
ออฟไลน์

กระทู้: 12698



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2011, 10:53:11 AM »

+1ครับบัง
บันทึกการเข้า

คนโง่ มันทำไม่คิด แต่คนชั่ว มันคิดแล้วจึงทำ จึงเรียกว่า คิดชั่ว //by อ.เหลือง

เกิดเป็นคน ทำดีได้ง่ายกว่าเดรัจฉานตั้งเยอะ แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำความดี
Manus รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 36
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 408


^^ไอยะะละกะ^^


« ตอบ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2011, 11:31:15 AM »

นี่ถ้าผมรวยเหมือนใครหลายๆคนในประเทศนี้....
ถ้าผมรู้ข่าวเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้...ผมจะไม่ยอมอยู่เฉยๆเป็นอันขาด...
อย่างน้อยก้อพาไปรักษาตัว...หรือช่วยเหลือเป็นเงินไปบ้าง....
เสียอย่างเดียว..คือผมไม่รวยเท่านั้นเอง...ที่อยู่ทุกวันนี้ก้อพอมีพอใช้...

คนในประเทศนี้....ใครที่รวยก้อรวยซะเหลือเกิน....ใครที่จนก้อจนซะน่าสงสารมาก...

โดนเฉพาะนักการเมือง...ร่ำรวยกันมากแล้ว....โปรดช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยากหน่อยเถอะครับ...
บันทึกการเข้า
RMAY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2011, 11:36:50 AM »

+1ครับบัง
ทอน ครับ  ไหว้
บันทึกการเข้า
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23210



« ตอบ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2011, 11:49:36 AM »

+๑  คะแนน ๖๔๐  ครับ  ช่วยคนแบบนี้ได้บุญครับ   ไหว้
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
ฅนบ้านนอก
นำแหน่พ่ออ่าว
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 401
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1228


หากินซามฮ้อดมื้อตาย


« ตอบ #7 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2011, 12:04:43 PM »

       
                     ขอบคุณครับท่านฟีนผู้มีน้ำใจงาม
                     แก่อยู่ซอยเดียวกับน้องผมเลย...  Grin
                   
บันทึกการเข้า


   แนวนาม เขียดอีโม่นาหน้าต่ำ มันบ่สมส่ำเซื้อเครือเจ่าซาติหงส์ ดอกตี๋
RMAY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #8 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2011, 12:24:01 PM »

       
                     ขอบคุณครับท่านฟีนผู้มีน้ำใจงาม
                     แก่อยู่ซอยเดียวกับน้องผมเลย...  Grin
                   
หัวเราะร่าน้ำตารินไม่ต้องท่าน ก็ได้ครับ เรียก" บัง ศักดา หรือ ฟีน" น่ะดีแล้ว  เยี่ยม
บันทึกการเข้า
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #9 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2011, 12:28:36 PM »

                        ไหว้   ชีวิตถูกกำหนดมาแล้ว   สุข-ทุกข์  แล้วแต่บุญทำกรรมแต่ง  สู้ต่อไปครับ    ไหว้

บันทึกการเข้า

                
RMAY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2011, 12:39:57 PM »

                        ไหว้   ชีวิตถูกกำหนดมาแล้ว   สุข-ทุกข์  แล้วแต่บุญทำกรรมแต่ง  สู้ต่อไปครับ    ไหว้



โดนใจวัยสะรุ่น   ครับ  ไหว้
+1ครับ
บันทึกการเข้า
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5711
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48212



« ตอบ #11 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2011, 12:47:05 PM »

ตากับยาย มีสิทธิได้เงินสงเคราะห์คนชรานะ คนละห้าร้อยบาท ทำเรื่องหรือยัง ถ้ายังแจ้งด่วน อย่างน้อยสองคนได้เดือนละพัน
ก็ยังดี
บันทึกการเข้า

๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง  แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง   จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
                      
                             โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
vuttichai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #12 เมื่อ: พฤษภาคม 04, 2011, 04:19:49 PM »

สงสารจริงๆ ยายผมก็อายุ97แล้วเดินไม่ใด้แก่มาก. เศร้า
บันทึกการเข้า
wiched
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 137
ออฟไลน์

กระทู้: 811



« ตอบ #13 เมื่อ: พฤษภาคม 04, 2011, 04:28:08 PM »

เจ๋งเป้ง ที่ตายาย ไม่งอมืองอเท้า รอคอยความช่วยเหลือจากใคร

บันทึกการเข้า
อิติปิโสธงชัย รักในหลวง
The best it yet to be......
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 537
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2734



« ตอบ #14 เมื่อ: พฤษภาคม 05, 2011, 02:51:24 AM »



แม้สังขารจะร่วงโรยจนทำอะไรไม่ไหวแล้ว แต่ “2 ตายาย” นายบุญและนางทิพย์แก้ว ผาทอง ก็ยัง

หยุดพักไม่ได้ ยิ่งในสภาพเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพงเช่นนี้ ทั้งตาและยายก็ยิ่งต้องปากกัดตีน

ถีบ หาเลี้ยงตนเองรวมทั้งลูกและหลานรวม 4 ชีวิต

ปลาตะเพียนสานจากใบลานตัวจ้อยราคาตัวละ 10 บาท ถูกปัก

เรียงรายบนโฟมเก่าๆ วางอยู่บนพื้นถนนในตลาดนัดสวนจตุจักร

ตานั่งอยู่ข้างๆ กับยาย ทั้งคู่ดูเหมือนไม่ได้มานั่งขายของ เพราะ

อาการที่นั่งเฉยๆ ช่างผิดกับวิสัยพ่อค้าแม่ค้าทั่วไปที่มักตะโกน

ร้องเรียกลูกค้าให้มาซื้อของของตน

“เรารู้ว่าของของเราไม่ดี ก็แล้วแต่เขาจะช่วยเท่านั้น เพราะเรา

ก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรขาย ใครที่มาซื้อก็นับว่าเป็นบุญคุณแล้ว”

ยายทิพย์แก้ว อายุ 83 ปี เล่าช้าๆ ซึ่งตอนนั้นเองก็มีวัยรุ่น

ผู้หญิงคนหนึ่งมาซื้อปลาตะเพียนไป 1 ตัว

ทั้ง 2 ตายายเป็นคนยโสธรที่เข้ามาหางานทำที่กรุงเทพฯ โดย

ก่อนหน้านี้ ตาทำอาชีพขับรถรับจ้าง ในขณะที่ยายก็ขายของ

เล็กน้อยๆ ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 6 คน ขณะนี้ลูกๆ ย้ายไปมีครอบ

ครัวกันหมดแล้ว เหลือเพียงลูกชายคนเดียวที่ยังอยู่ด้วยกัน

เพราะป่วยเป็นอัมพฤกษ์ช่วยเหลือตัวเองได้นิดหน่อย กับหลาน

อีกหนึ่งคน
 
“รายได้ที่ได้มาก็พอประทังชีวิตไปวันๆ เรา 3-4 คน” ตาบุญ วัย

87 ปีเล่า ก่อนจะบอกว่า ตนและยายอยู่ด้วยกันอย่างพอเพียง

แม้จะมีลูกแต่ก็ไม่อยากรบกวน เพราะลูกก็ต้องกินต้องใช้ ไหน

จะส่งลูกเรียนหนังสือ ไหนจะใช้ใช้จ่ายประจำวัน ทุกวันนี้เช่า

ห้องอยู่หลังวัดไผ่ตัน สะพานควาย เดือนละ 1,500 บาท

เงินที่ได้จากขายปลาตะเพียนก็เอามาจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ซื้อกับ

ข้าวกับปลามากิน และเจียดเงินเล็กๆ น้อยๆ มาเก็บเอาไว้บ้าง

เพื่อนำไปรักษาตัวให้ลูกชายที่เป็นอัมพฤกษ์ และยายที่มีโรค

รุมเร้าหลายโรค ทั้งตาข้างขวากำลังจะบอด หูที่ไม่ค่อยได้ยิน

แล้ว คออักเสบจนโป่งพองขึ้นมา ปวดหลังที่ทำให้ต้องเดินหลัง

ค่อม และปวดตามเนื้อตาตัวที่เดินไม่กี่ก้าวก็ต้องหยุดพัก

“พยายามประหยัดทุกอย่าง เสื้อผ้านี่ก็มีคนให้มา อาหารการกิน

ก็ซื้อมาทำกินเอง และตอนนี้กำลังเก็บเงินไปรักษายาย ซึ่งจวน

จะครบแล้ว” ตาเล่ายิ้มๆ

ตากับยายจะออกทำงาน โดยจะหอบหิ้วกระสอบเก่าๆ ที่ข้างใน

ใส่ปลาตะเพียนสานและนกสานไว้หลายสิบตัว ตระเวนไปขาย

ปลาตะเพียนตามย่านที่มีคนพลุกพล่าน ไม่ว่าจะเป็นสวนจตุจักร

สนามหลวง สีลม ประตูน้ำ รายได้แต่ละวันประมาณ 300-400 บาท

“ชีวิตไม่ลำบากเท่าไหร่ จะลำบากก็ตอนมีคนมาไล่ที่ เราก็แก่

แล้ว ใครเขาให้ไปทางไหนก็ต้องไป ไม่อยากไปทะเลาะอะไร

กับเขา” ยายบอก แล้วเล่าเหตุการณ์ความโชคร้ายที่เพิ่งผ่าน

พ้นมาไม่กี่วันว่า ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกเอาเงินไปแล้วเอาไป

ปล่อยไว้ที่สะพานลอยเซ็นทรัล ลาดพร้าว

“วันนั้นอยู่คนเดียว ตากลับบ้านไปเอาข้าวให้ยายกิน ก็มีคนมา

ต้อนยายให้ขึ้นแท็กซี่ พอไปถึงหน้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว รถติดๆ

เขาก็พาลงจากรถ แล้วคนมันเยอะๆ หันมาอีกทีเขาก็หายไป

แล้ว พร้อมกับข้าวของและเงินที่ขายปลาตะเพียนได้” เล่าช้าๆ

ก่อนน้ำเสียงจะขาดไปพักหนึ่ง จึงบอกต่อว่า

“เสียดายเงิน แต่ก็ไม่รู้จะไปเอาคืนจากเขาที่ไหน เรามันแก่

แล้ว” ในน้ำเสียงไม่มีร่องรอยของความเสียใจ เหมือนกับว่า

กำลังทำใจกับชะตาชีวิตที่ต้องมาประสบกับเหตุการณ์แบบนี้

“ความสุขทุกวันนี้คือ ขายของได้มีเงินไปซื้อข้าวกิน ดูแลลูก

ดูแลหลาน ไม่เคยคิดอยากได้อะไร เพราะคิดแล้วเป็นทุกข์ ก็

เลยไม่คิด แค่พออยู่ได้ก็ดีใจแล้ว” ยายทิพย์แก้วทิ้งท้าย

หากใครกำลังคิดว่า ตัวเองแย่แล้ว ลองดูชีวิตของ 2 ตายายคู่นี้

ที่แม้จะลำบากเพียงไหนก็ยังยืนหยัดสู้ด้วยหัวใจที่ไม่ยอมแพ้

สู้ครับยาย  ไหว้
+1ที่บังฟืนที่ช่วยเหลือสังคม  เยี่ยม
บันทึกการเข้า

ผมก็คือส่วนหนึ่งของความไม่เป็นกลาง เพราะผมอยู่ข้างในหลวง
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.061 วินาที กับ 22 คำสั่ง