ตอนเสนอราคาเจ้าของก็เลือกหลายผู้รับเหมาหลายเจ้า และราคาที่ผมเสนอเป็นราคาที่ถูกสุดเค้าเลยจ้างครับพี่สมชาย...
จากนั้นการแบ่งงวดงาน ผมเอายอดเงินหาร 6 เลย และเจ้าของบ้านปรับตัวเลขผมอีกที จากนั้นก็เซ็นต์สัญญา..
ปัจจุบันงานอยู่งวด 4 เงินส่วนต่างคือค่าดำเนินการและกำไรที่ผู้รับเหมาควรได้ แต่ Boq คือเป็นค่าวัสดุกับค่าแรงงานอย่างเดียวครับ.. ค่าที่ผมหลับในเกือบตาย กับค่าน้ำมันที่ต้องขับรถวันละ 200 กว่ากิโล และค่าใช้จ่ายที่ครอบคลุมเวลาลูกน้องทำงานผิดพลาดต้องรื้อทุบทำใหม่ และอะไรที่มองไม่เห็นอีกตลอดเวลา 2 เดือน ไม่ได้อะไรเลยครับ...
ถ้าอย่างนั้น... เขามีวิธีคิด 2 แบบครับ...
แบบที่ 1 ก็จะเริ่มต้นที่หน้าที่ตามสัญญา ถึงกำหนดจ่ายงวดไหนแล้วไม่จ่าย ก็จะต้องจ่าย, ยกเว้นจะสามารถอ้างได้งานที่ทำไปนั้นบกพร่องสำคัญถึงขั้นที่ถือว่างานไม่เสร็จ หากไม่เสร็จตามงวด งวดนั้นไม่ต้องจ่าย แต่จะดูเป็นความเสียหายของฝ่ายไหน... พอถึงขั้นนี้ก็จะมาเรื่องความเสียหาย ใครเสียหาย ใครเป็นฝ่ายบอกเลิกสัญญา มีสาเหตุพอเพียงหรือไม่ หากเสียหายทั้งสองฝ่ายก็เกลี่ยกัน เกลี่ยแล้วใครได้เงินใครรับเงินใครจ่ายเงินก็ว่ากันไป...
แบบที่ 2 กรณีนายจ้างทำต่อเองจนงานแล้วเสร็จ เขาก็จะให้นายจ้างรับผิดชอบจ่ายเงินให้เท่ากับสัญญาฯ(หากได้ผลงานแล้วเสร็จ) แล้วผู้รับเหมารับผิดชอบส่วนที่เกิน(หรือขาด), ตรงนี้ใครได้เงินใครจ่ายเงินก็จะต้องนำสืบ และแล้วแต่ว่าศาลจะเชื่อใคร... นายจ้างอาจไปจ้างคนอื่นให้ทำให้ต่อจนแล้วเสร็จก็ได้ แล้วเงินที่จ่ายเกินสัญญาเพื่อให้งานแล้วเสร็จนั้น ก็เรียกฟ้องศาลเรียกเก็บจากผู้รับเหมา, ผู้รับเหมาก็ต้องนำสืบว่าที่นายจ้างจ่ายไปนั้นแพงเกินราคามาตรฐาน ถ้าให้ฉันทำงานตามสัญญาจนเสร็จก็จะจ่ายถูกตังค์กว่า อย่างนี้นายจ้างต้องจ่ายเงินฉันเพิ่มให้ครบตามสัญญาดั้งเดิม...
มีข้อควรระวังคือขั้นตอนการดำเนินการ อาจมีลูกเล่นล่อหลอกให้เผยไต๋หงายไพ่ก่อนเวลาอันควร... โดยเฉพาะก่อนขึ้นศาล ศาลจะตั้งผู้ไกล่เกลี่ย ถ้าไกล่เกลี่ยแล้วไม่จบ ข้อมูลก็รั่วหงายไพ่ไปแล้ว อาจโดนแก้ทางปืนในศาลเมื่อนำสืบจริงๆ ครับ...
ลูกเล่นก่อนขึ้นศาลและในศาลมีแยะมาก ทนายเก่งๆจึงค่าตัวแพงครับ... ดังนั้นนายสมชายว่าคุณตั้วต้องหาทนายเก่งๆ ปรึกษาก่อน และเก็บรวบรวมข้อมูลเข้าแฟ้มชั้นความลับขั้นสูงสุดครับ(บนเว็บนี้อาจมีสปายของฝ่ายตรงข้ามก็เป็นได้)...