เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 20, 2024, 03:12:02 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 5 6 7 [8] 9
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมมือใหม่ไม่เหมาะกับ 1911  (อ่าน 14569 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
รัชต์
Full Member
***

คะแนน 77
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 176



« ตอบ #105 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2011, 11:35:26 AM »

ไหนๆกระทู้นี้ก็พาไปถึงปืนอื่นที่ไม่ใช่ 1911 แล้ว ขอความรู้พี่ๆหน่อยนะครับ
พาราเบลลั่ม พี08 เยอรมันรับเข้าประจำการในปี 1908 ใช่ไหมครับ หรือว่าก่อนหน้านั้น
วอลเธอร์ พี38 เยอรมันรับเข้าประจำการในปี 1938 ใช่ไหมครับ หรือว่าก่อนหน้านั้น

ส่วนเบเรตตา 92 นี่คงไม่ต้องพูดถึงนะครับ เพราะว่ารุ่นหลังมาก แถมยังออกแบบและผลิตกันคนละทวีปกับ 1911 เลย

 รู้มานิดๆหน่อยๆครับ ............... แต่ไม่ได้ยกเมฆแน่ๆ Cheesy


Parabellum หรือ Luger P08 ออกแบบครั้งแรกในปี 1898 โดยGeoige Luger (จอร์จ ลูเกอร์) วิศวกรปืน ชาวออสเตรีย  ใช้กระสุน 7.65 Luger(.30 Luger)........... รับการทดสอบโดยกองทัพบกสวิส และเข้าประจำการในกองทัพสวิสในปี 1900 มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Ordonanz Pistole 1900 ซึ่งมีระบบห้ามไกหลังอ่อนเหมือนกับ 1911 และต่อมาได้ตัดออก ......................

ในปี 1908 G.Luger นำปืนพกกระบอกนี้ไปเสนอต่อกองทัพเยอรมัน ..........และได้รับการพิจารณาคัดเลือกเข้าประจำการในกองทัพเยอรมัน โดยตั้งชื่อปืนกระบอกนี้ว่า Parabellum ซึ่งเป็นชื่อโรงงานแห่งแรกที่ผลิตปืนรุ่นนี้ และใช้ชื่อรุ่นว่า P 08 ................... และใช้กระสุนขนาด 7.65 Luger(.30 Luger) ........................

ต่อมากองทัพเยอรมันได้ให้ G.Luger ออกแบบกระสุนชนิดใหม่เพื่อให้สามารถใช้กับปืนกลมือรุ่นใหม่และสามารถใช้ร่วมกับปืนพกได้ในขนาดเดียวกัน .............ซึ่งกระสุนที่ Luger ออกแบบขึ้นใหม่ มีขนาดหน้าตัด 9 มม. (.355 นิ้ว) มีความยาวปลอกกระสุน 19 มม. ............... เป็นกระสุนขนาด 9 มม. เข้าประจำการไขกองทัพเยอรมัน โดยปรับ ปืน P 08 จากขนาดกระสุน7.65 Luger เป็น 9มม. ซึ่งใช้ร่วมกับปืนกลมือ MP 40 ซึ่งเป็นกลมือหลักในกองทัพเยอรมัน ................และกระสุนขนาด 9 มม. ใหม่นี้ ได้ถูกเรียกชื่อว่า 9 มม. พาราเบลลั่ม เพราะใช้กับปืน P 08 และผลิตที่โรงงานนี้ และมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า 9 มม. ลูเกอร์ เพื่อเป็นเกียรติแก่ G.Luger  ผู้ออกแบบกระสุนขนาดนี้........

ส่วนWalther P 38 ............... ขนาด 9 มม. พาราฯ ออกแบบโดย คาร์ล วอลเธอร์ แห่งเยอรมัน .........เริ่มผลิตในปี 1938 แต่กว่าจะเริ่มผลิตออกมาอย่างเป็นทางการ ก็ล่วงมาในปี 1939 ซึ่งเป็นปีที่เริ่มสงครามโลกครั้งที่สอง ที่เยอรมันเปิดฉากบุกโปแลนด์ ..............

เป็นปืนพกที่ใช้ระบบไก ดับเบิล/ซิงเกิล กระบอกแรกของโลก............ทำงานด้วยระบบรีคอยหน่วงเวลาแบบ Bolck-Action ซึ่งพัฒนาเริ่มต้นจากระบบ   Locked Breech หรือ ที่เรียกว่า Wather Block Action ของ Walther ............. โดยใช้การขัดกลอนด้วยแท่งขัดกลอนที่เป็นปีกทั้งสองข้าง กับร่องบากด้านในของสไลด์................

ซึ่งระบบนี้ Beretta 92 FS ลอกมาใช้ ...............

ก็เออนะ แล้ว1911 มันไปเกี่ยวอะไรกับ 92FS  Cheesy




ขอบคุณพี่มะขิ่นครับ  ไหว้
บันทึกการเข้า
boon(เสือไบ)
ความประพฤติบกพร่อง จะทำให้บิดามารดาอับอาย
Hero Member
*****

คะแนน 532
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6011



« ตอบ #106 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2011, 01:24:51 PM »

ขอบคุณท่านJackleครับที่นำภาพดีๆมาลงให้ชม ภาพบาเร็ตต้าและ1911 สวยแจ่มมากครับ

ตามความเห็นผม ปืนรุ่นไหนระบบไหนก็คงไม่เหมาะกับมือใหม่คนไหน ถ้ามือใหม่คนนั้นไม่ฝึกฝนเรียนรู้
การใช้งานของมัน อย่างถูกต้องและปลอดภัย









ถ้าไม่ปฏิบัติดังที่กล่าวข้างต้น มือใหม่คนนั้นอาจจะมีความรู้สึกกับปืน 1911 คล้ายๆแบบนี้ก็เป็นได้ครับ







บันทึกการเข้า

If a man says he is not afraid of dying, he is either lying or is a Gurkha
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #107 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2011, 03:54:07 PM »

หวัดดี พี่ซับ...ที่เคารพ...
ครับ ผมเชื่ออย่างนั้น เพราะแนวคิดในการวางตำแหน่งลำกล้อง ลำกล้องอิสระจากตัวปืน  และสปริงตรงนี้ มันเริ่มอยู่ตรงนี้ และมีชื่อเสียงมาถึงทุกวันนี้ มันก็ยังอยู่ที่เดิม ปืนใหม่ๆ ดังๆ หลายๆ ยี่ห้อ ก็ยังวางสปริงไว้ตรงนี้
เรื่องภาษาไทย ผมขอโทษที่พิมพ์ผิด .... และน้อมรับแก้ไขต่อไปครับผม

อ่านแนวความคิดคุณเต๋าแล้วผมงงๆอยู่
อย่าลืมว่า กว่าสิ่งที่เรียกว่าอาวุธปืนเดินทางผ่านกาลเวลามายาวนาน ผ่านการพิสูขน์ตัวเองตามยุคสมัยต่างๆมาเยอะ
ซึ่งก็มีคนที่ได้กำหนดแนวทางการแยกแยะปืนในลักษณะต่างๆ โดยนักออกแบบบ้าง
อาทิ แยกตามระบบขัดกลอน

1. Browning Colt โค้ลท์ใช้ระบบนี้

2. Browning FN

3. Browning petter

4. Browning Petter sig

5. Walther Block Action

6. falling locking block บาเร็ตต้าใช้ระบบนี้ พัฒนามาจากข้อ5

ไม่มีใครแยกแยะตามวิธีการของคุณเต๋าเลยครับ
ถ้าจะแยกตามแบบคุณเต๋า ผมก็ยังงงอยู่ว่าเราจะได้อะไรที่เรียกว่าKnowhow มาพัฒนาต่อยอด
อาวุธปืน
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

จังโก้
Sr. Member
****

คะแนน 112
ออฟไลน์

กระทู้: 620



« ตอบ #108 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2011, 04:00:47 PM »

ขอบคุณท่านJackleครับที่นำภาพดีๆมาลงให้ชม ภาพบาเร็ตต้าและ1911 สวยแจ่มมากครับ

 ไหว้    ด้วยความยินดีครับ  และขอขอบคุณสำหรับคำชมครับพี่  

เห็นกระทู้ด้านล่างคุณเต่า พูดถึงเรื่องแม๊กกาซีน MAUSER C96  ก็ขอขอฝากภาพให้ชมไว้ตรงนี้ละกันครับ ส่วนเรื่องอื่นๆผมไม่มีความเห็น  Grin


Mauser C96 Broomhandle that was rebuilt by Federal Ordnance into a detachable magazine pistol they named the Modell 714. Chambered for the 9mm. Parabellum,




Mauser Model 1930 "Broomhandle" pistol. This is a "Late 1930" variation, probably produced about 1931-1932

Chambered for the 7.63 mm Mauser cartridge







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 18, 2011, 08:32:46 AM โดย Jackle.. » บันทึกการเข้า
USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #109 เมื่อ: มิถุนายน 15, 2011, 08:00:04 PM »

นี่แหละครับทีมือใหม่สงสัยไม่เหมาะสมกับ 1911 เพราะอย่างนี้เอง ขอบคุณพี่ทั้งสองมากนะครับอย่างน้อยก็เป็นความรู้แก่ผมและเพื่อน ๆ และรุ่นน้องๆ ในเวปครับ

ผมอ่านมายังสรุปไม่ได้เลยว่า1911 ไม่เหมาะกับมือใหม่ตรงไหน

ปืน1911 เป็นปืนที่ทำความคุ้นเคยง่ายครับ
ถ้ากลััวว่าเวลาฉุกเฉินจะทำไม่ถูกจะทำไม่เป็น ก็ฝึกสิครับ  ไม่ยาก
ฝึกให้เป็นความเคยชิน สักพักจะได้ จะรู้เอง

ไม่ใช่เรื่องยาก ใช้เวลาน้อยกว่าเก็บเงินซื้อปืนเยอะครับ ผมไม่มี1911 แต่เวลาเจอเพื่อน
ในสนามยิงปืน ขอจับ ให้เขาสอน  เจอเพื่อน2-3ครั้ง ก็คล่องครับ

ถ้าติดว่า เอาใช้ง่าย กลัวสับสน ผมว่ามันตื้นเขินไปหน่อย

เคยเจอคนค่อนแคะคนอื่นว่าพกปืนสองกระบอกเวลาใช้จะใช้กระบอกไหนก่อน คงงงน่าดู
ผมเลยถามกลับ แล้วคุณมีให้พกสักกระบอกไหน เดินหน้าม้านไปเลย

คนพกปืนสองกระบอกไม่คิดหรอกว่าจะสับสนไหม เพราะเขาเตรียมตัวไว้ วางแผนไว้แล้ว
คนไม่เคยพกปืนสองกระบอกพร้อมกันต่างหาก ที่ไม่มีประสบการณ์ตรงนี้ เลยไม่เข้าใจ


ถึงตอนนี้ อยากบอกว่า ในทรรศนะผม นอกจากลูกโม่แล้ว 1911นี่แหละ ที่เหมาะกับมือใหม่

เห็นด้วย  เริ่มตั้งแต่กระบอกแรกเลย  แต่ขอให้ไปเรียนจาก สถาบันต่างๆที่สอน หลักสูตรเบื้องต้น 
ที่สำคัญสำหรับมือใหม่คือ เรื่องความปลอดภัยมากกว่า  ควรจะเรียนรู้ว่าอะไรควร ไม่ควรทำ
นอกนั้นไม่สำคัญว่าจะใช้ปืนอะไรเป็นกระบอกแรก   
บันทึกการเข้า
tao bangkhaen
Hero Member
*****

คะแนน 354
ออฟไลน์

กระทู้: 3452


« ตอบ #110 เมื่อ: มิถุนายน 16, 2011, 05:57:27 PM »

หวัดดี พี่ซับ...ที่เคารพ...
ครับ ผมเชื่ออย่างนั้น เพราะแนวคิดในการวางตำแหน่งลำกล้อง ลำกล้องอิสระจากตัวปืน  และสปริงตรงนี้ มันเริ่มอยู่ตรงนี้ และมีชื่อเสียงมาถึงทุกวันนี้ มันก็ยังอยู่ที่เดิม ปืนใหม่ๆ ดังๆ หลายๆ ยี่ห้อ ก็ยังวางสปริงไว้ตรงนี้
เรื่องภาษาไทย ผมขอโทษที่พิมพ์ผิด .... และน้อมรับแก้ไขต่อไปครับผม

อ่านแนวความคิดคุณเต๋าแล้วผมงงๆอยู่
อย่าลืมว่า กว่าสิ่งที่เรียกว่าอาวุธปืนเดินทางผ่านกาลเวลามายาวนาน ผ่านการพิสูขน์ตัวเองตามยุคสมัยต่างๆมาเยอะ
ซึ่งก็มีคนที่ได้กำหนดแนวทางการแยกแยะปืนในลักษณะต่างๆ โดยนักออกแบบบ้าง
อาทิ แยกตามระบบขัดกลอน

1. Browning Colt โค้ลท์ใช้ระบบนี้

2. Browning FN

3. Browning petter

4. Browning Petter sig

5. Walther Block Action

6. falling locking block บาเร็ตต้าใช้ระบบนี้ พัฒนามาจากข้อ5

ไม่มีใครแยกแยะตามวิธีการของคุณเต๋าเลยครับ
ถ้าจะแยกตามแบบคุณเต๋า ผมก็ยังงงอยู่ว่าเราจะได้อะไรที่เรียกว่าKnowhow มาพัฒนาต่อยอด
อาวุธปืน

อ๋อ....ไม่ได้ซีเรียส ขนาดเป็นวิชาการหรอกครับพี่ซับ .......  เพียงแต่ ผมสังเกตเห็นชิ้นส่วนของปืนออโต้ ในปัจจุบัน หลายๆ ชิ้นส่วน พอมองย้อนกลับไปแล้ว ก็เลยอยากจะหาที่มาว่า  เอ..... ไอ้อะไหล่ชิ้นนี้   วิธีปฏิบัติการในลักษณะโน้น  มันเริ่มต้นมาจากปืนอะไร   ก็เลยลอง เอามาเขียนดู
ผมไม่ใช่นักออกแบบอะไร เพียงแต่สังเกตเห็น ก็เลยเอามาคุยกัน เท่านั้นเอง
เท่าที่สังเกต ชิ้นส่วน วิธีการ  แนวคิด มันมักจะมี 1911 เข้าไปแทรกอยู่เสมอ ก็เลย คิดว่า คนทำปืนภายหลังปี 1912  ที่โคลท์ ได้ปรากฎตัวอย่างชัดเจนในโลกอาวุธปืน คงจะได้ โคลท์ เอ็ม 1911 มาเป็นแนวทางในการออกแบบปืนของตนเช่นกัน  มันจึงดูเหมือนว่า 1911 จะไปแทรกอยู่
การแยกแยะของผม ไม่ใช่วิชาการ ที่จะเอามาต่อยอดอะไรทั้งสิ้น .....เพราะแค่ผมเห็น แล้วเอามาคุยกันเองครับ...

เนี่ยะ พอมานั่งนึกดู  ก็มีอีกจุดหนึ่งแล้วของ เอ็ม 1911  ที่หลายๆ ยี่ห้อในโลก ลอกเลียนแบบ หรือว่าถือเป็นรากเหง้่า ในภาษาของผมอีกแล้ว ....
ก็คันล็อคสไลด์ ของเอ็ม 1911 ไง   
เป็นที่ยอมรับกับทั่วไปว่า  ปืนออโต้ ใช้ลิ้นแม็กกาซีน เป็นตัวกำหนดว่า ขณะนี้ กระสุนในแม็กาซีน หมดแล้ว ลิ้นแม็กจะลอยตัวขึ้นอยู่ตำแหน่งสูงสุดของปากแม็กฯ .... จุดนี้เอง ทำให้นักออกแบบ ยอมรับ นับถือเอา ลิ้นแม็กนี่แหละ มาเป็นตัวปฏิบัติการห้ามให้สไลด์ค้างไว้เมื่อกระสุนในแม็กฯ หมดลง
บันทึกการเข้า
tao bangkhaen
Hero Member
*****

คะแนน 354
ออฟไลน์

กระทู้: 3452


« ตอบ #111 เมื่อ: มิถุนายน 16, 2011, 06:10:58 PM »

ขอต่อแล้วกันนะ ........
เอาเป็นปืนที่พอจะเห็นได้ในเมืองไทยแล้วกันนะ พอจะเป็นตัวอย่างได้ เพราะปืนอื่นๆ ในโลกนี้ ผมรู้ไม่ทั่วหรอก เอาใกล้ๆ ตัวนี่แหละ
1.เมาเซอร์ 1896  มีแม็กกาซีน อยู่ในตัวเอง ไม่ได้ใช้แม็กกาซีนที่แยกออกจากตัวปืน   ใช้ลิ้นแม็กกาซีน ขนาดมหึมา ในการหยุดสไลด์ เมื่อมันลอยตัวสูงขึ้นสุดสปริงของมัน แต่ผมจำได้คลั้บคล้าย คลั้บคลา  ว่า    มันใช้ด้านหลังของลิ้นแม็ก ลอยตัวขึ้นสูงสุด  แล้วมาหยุด หรือขวางหน้าลูกเลื่อนไว้เลย (ขวางแค่นิดเดียวนะ)

2.พอมาดูในฝั่งของโคลท์ ซึ่งน่าจะออกแบบโดย จอห์น เอ็ม บราวนิง    จอห์น ก็ใช้ลิ้นแม็กกาซีนเหมือนกัน ในการหยุดสไลด์ ให้แสดงว่าลูกกระสุนหมด
แต่ จอห์นฯ  กลับใช้  ลิ้นแม็กกาซีน ด้านหน้า ซ้ายมือ เป็นตัวไปพลักคันอะไรซักอย่าง ที่สามารถใช้นิ้วบังคับ การค้างสไลด์ ได้เอง โดยไม่ต้องใช้แม็กกาซีน ก็ได้  เท่าที่ดู  โคลท์ ในช่วง 1902-1909 โดยประมาณ ก็มีคันล็อคสไลด์แล้ว แต่หน้าตาแปลกๆ หน่อย เป็นปุ่มๆ  ไม่เป็นคัน

3.พอมาเป็น 1911  มีคันล็อคสไลด์ ในลักษณะ
3.1 เป็นเหล็กแบน
3.2 แนบอยู่ข้างโครงปืน บริเวณเหนือโกร่งไกปืน
3.3 เป็นเหล็กที่กระดกขึ้นได้ด้วย ใช้มือ จากภายนอกปืน  และ ใช้ลิ้นแม็กกาซีน เป็นตัวบังคับให้กระดกขึ้น เมื่่อ ลิ้นแม็กกาซีนลอยตัวสูงสุด
3.4 ใช้ขอบสไลด์ เจาะให้เป็นช่อง ในการบังคับให้สไลด์ หยุด โดยสัมพันธ์กับคันล็อคฯ

ครับ ก็พิเคราะห์ดูแล้วกันว่า  เมื่อ 1911  ออกตัวอย่างนี้ มาก่อน   ต่อมา  วอลเธอร์ พี 38  ก็คงออกตามมา ก็ใช้หลักการ และตำแหน่งในการวางคันล็อคสไลด์นี้ อยู่ใกล้เคียงกับ 1911     บาเร็ตต้า 92  ก็ใช้หลักการเดียวกัน   ผมก็เลยเชื่อว่า บาเร็ตต้า เอาอย่าง 1911  

การเจาะช่องตรงขอบสไลด์ ก็เหมือนกัน
1911 เจาะให้เห็นอย่างชัดเจน
วอลเธอร์ และบาเร็ตต้า ก็เจาะเหมือนกัน  และซ่อนเอาไว้ มองไม่เห็น  แต่ถ้าตะแคงปืน ก็จะเห็นแหละครับ ว่าเจาะขอบสไลด์เหมือน 1911
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 16, 2011, 06:15:08 PM โดย tao bangkhaen » บันทึกการเข้า
RUGER SR9
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 12
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 134


สิบฟ้าบันดาล ไม่เท่าหนึ่งตนทำเอง


« ตอบ #112 เมื่อ: มิถุนายน 16, 2011, 06:12:09 PM »

หวัดดี พี่ซับ...ที่เคารพ...
ครับ ผมเชื่ออย่างนั้น เพราะแนวคิดในการวางตำแหน่งลำกล้อง ลำกล้องอิสระจากตัวปืน  และสปริงตรงนี้ มันเริ่มอยู่ตรงนี้ และมีชื่อเสียงมาถึงทุกวันนี้ มันก็ยังอยู่ที่เดิม ปืนใหม่ๆ ดังๆ หลายๆ ยี่ห้อ ก็ยังวางสปริงไว้ตรงนี้
เรื่องภาษาไทย ผมขอโทษที่พิมพ์ผิด .... และน้อมรับแก้ไขต่อไปครับผม

อ่านแนวความคิดคุณเต๋าแล้วผมงงๆอยู่
อย่าลืมว่า กว่าสิ่งที่เรียกว่าอาวุธปืนเดินทางผ่านกาลเวลามายาวนาน ผ่านการพิสูขน์ตัวเองตามยุคสมัยต่างๆมาเยอะ
ซึ่งก็มีคนที่ได้กำหนดแนวทางการแยกแยะปืนในลักษณะต่างๆ โดยนักออกแบบบ้าง
อาทิ แยกตามระบบขัดกลอน

1. Browning Colt โค้ลท์ใช้ระบบนี้

2. Browning FN

3. Browning petter

4. Browning Petter sig

5. Walther Block Action

6. falling locking block บาเร็ตต้าใช้ระบบนี้ พัฒนามาจากข้อ5

ไม่มีใครแยกแยะตามวิธีการของคุณเต๋าเลยครับ
ถ้าจะแยกตามแบบคุณเต๋า ผมก็ยังงงอยู่ว่าเราจะได้อะไรที่เรียกว่าKnowhow มาพัฒนาต่อยอด
อาวุธปืน

อ๋อ....ไม่ได้ซีเรียส ขนาดเป็นวิชาการหรอกครับพี่ซับ .......  เพียงแต่ ผมสังเกตเห็นชิ้นส่วนของปืนออโต้ ในปัจจุบัน หลายๆ ชิ้นส่วน พอมองย้อนกลับไปแล้ว ก็เลยอยากจะหาที่มาว่า  เอ..... ไอ้อะไหล่ชิ้นนี้   วิธีปฏิบัติการในลักษณะโน้น  มันเริ่มต้นมาจากปืนอะไร   ก็เลยลอง เอามาเขียนดู
ผมไม่ใช่นักออกแบบอะไร เพียงแต่สังเกตเห็น ก็เลยเอามาคุยกัน เท่านั้นเอง
เท่าที่สังเกต ชิ้นส่วน วิธีการ  แนวคิด มันมักจะมี 1911 เข้าไปแทรกอยู่เสมอ ก็เลย คิดว่า คนทำปืนภายหลังปี 1912  ที่โคลท์ ได้ปรากฎตัวอย่างชัดเจนในโลกอาวุธปืน คงจะได้ โคลท์ เอ็ม 1911 มาเป็นแนวทางในการออกแบบปืนของตนเช่นกัน  มันจึงดูเหมือนว่า 1911 จะไปแทรกอยู่
การแยกแยะของผม ไม่ใช่วิชาการ ที่จะเอามาต่อยอดอะไรทั้งสิ้น .....เพราะแค่ผมเห็น แล้วเอามาคุยกันเองครับ...

เนี่ยะ พอมานั่งนึกดู  ก็มีอีกจุดหนึ่งแล้วของ เอ็ม 1911  ที่หลายๆ ยี่ห้อในโลก ลอกเลียนแบบ หรือว่าถือเป็นรากเหง้่า ในภาษาของผมอีกแล้ว ....
ก็คันล็อคสไลด์ ของเอ็ม 1911 ไง    
เป็นที่ยอมรับกับทั่วไปว่า  ปืนออโต้ ใช้ลิ้นแม็กกาซีน เป็นตัวกำหนดว่า ขณะนี้ กระสุนในแม็กาซีน หมดแล้ว ลิ้นแม็กจะลอยตัวขึ้นอยู่ตำแหน่งสูงสุดของปากแม็กฯ .... จุดนี้เอง ทำให้นักออกแบบ ยอมรับ นับถือเอา ลิ้นแม็กนี่แหละ มาเป็นตัวปฏิบัติการห้ามให้สไลด์ค้างไว้เมื่อกระสุนในแม็กฯ หมดลง

+1
บันทึกการเข้า



...เพียงเชื่อมั่น ไม่ละอายในสิ่งที่กระทำ ผู้นั้นย่อมไม่แพ้...
NaiMai>รักในหลวง
ไม่ว่าจะมีพร้อมทุกสิ่ง แต่ก็ยังไม่มีสิ่งใดเหนือกว่าความมีสติ
Hero Member
*****

คะแนน 741
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14573


นายใหม่ รักหมู่


เว็บไซต์
« ตอบ #113 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2011, 03:07:49 AM »

หวัดดี พี่ซับ...ที่เคารพ...
ครับ ผมเชื่ออย่างนั้น เพราะแนวคิดในการวางตำแหน่งลำกล้อง ลำกล้องอิสระจากตัวปืน  และสปริงตรงนี้ มันเริ่มอยู่ตรงนี้ และมีชื่อเสียงมาถึงทุกวันนี้ มันก็ยังอยู่ที่เดิม ปืนใหม่ๆ ดังๆ หลายๆ ยี่ห้อ ก็ยังวางสปริงไว้ตรงนี้
เรื่องภาษาไทย ผมขอโทษที่พิมพ์ผิด .... และน้อมรับแก้ไขต่อไปครับผม

อ่านแนวความคิดคุณเต๋าแล้วผมงงๆอยู่
อย่าลืมว่า กว่าสิ่งที่เรียกว่าอาวุธปืนเดินทางผ่านกาลเวลามายาวนาน ผ่านการพิสูขน์ตัวเองตามยุคสมัยต่างๆมาเยอะ
ซึ่งก็มีคนที่ได้กำหนดแนวทางการแยกแยะปืนในลักษณะต่างๆ โดยนักออกแบบบ้าง
อาทิ แยกตามระบบขัดกลอน

1. Browning Colt โค้ลท์ใช้ระบบนี้

2. Browning FN

3. Browning petter

4. Browning Petter sig

5. Walther Block Action

6. falling locking block บาเร็ตต้าใช้ระบบนี้ พัฒนามาจากข้อ5

ไม่มีใครแยกแยะตามวิธีการของคุณเต๋าเลยครับ
ถ้าจะแยกตามแบบคุณเต๋า ผมก็ยังงงอยู่ว่าเราจะได้อะไรที่เรียกว่าKnowhow มาพัฒนาต่อยอด
อาวุธปืน

อ๋อ....ไม่ได้ซีเรียส ขนาดเป็นวิชาการหรอกครับพี่ซับ .......  เพียงแต่ ผมสังเกตเห็นชิ้นส่วนของปืนออโต้ ในปัจจุบัน หลายๆ ชิ้นส่วน พอมองย้อนกลับไปแล้ว ก็เลยอยากจะหาที่มาว่า  เอ..... ไอ้อะไหล่ชิ้นนี้   วิธีปฏิบัติการในลักษณะโน้น  มันเริ่มต้นมาจากปืนอะไร   ก็เลยลอง เอามาเขียนดู
ผมไม่ใช่นักออกแบบอะไร เพียงแต่สังเกตเห็น ก็เลยเอามาคุยกัน เท่านั้นเอง
เท่าที่สังเกต ชิ้นส่วน วิธีการ  แนวคิด มันมักจะมี 1911 เข้าไปแทรกอยู่เสมอ ก็เลย คิดว่า คนทำปืนภายหลังปี 1912  ที่โคลท์ ได้ปรากฎตัวอย่างชัดเจนในโลกอาวุธปืน คงจะได้ โคลท์ เอ็ม 1911 มาเป็นแนวทางในการออกแบบปืนของตนเช่นกัน  มันจึงดูเหมือนว่า 1911 จะไปแทรกอยู่
การแยกแยะของผม ไม่ใช่วิชาการ ที่จะเอามาต่อยอดอะไรทั้งสิ้น .....เพราะแค่ผมเห็น แล้วเอามาคุยกันเองครับ...

เนี่ยะ พอมานั่งนึกดู  ก็มีอีกจุดหนึ่งแล้วของ เอ็ม 1911  ที่หลายๆ ยี่ห้อในโลก ลอกเลียนแบบ หรือว่าถือเป็นรากเหง้่า ในภาษาของผมอีกแล้ว ....
ก็คันล็อคสไลด์ ของเอ็ม 1911 ไง   
เป็นที่ยอมรับกับทั่วไปว่า  ปืนออโต้ ใช้ลิ้นแม็กกาซีน เป็นตัวกำหนดว่า ขณะนี้ กระสุนในแม็กาซีน หมดแล้ว ลิ้นแม็กจะลอยตัวขึ้นอยู่ตำแหน่งสูงสุดของปากแม็กฯ .... จุดนี้เอง ทำให้นักออกแบบ ยอมรับ นับถือเอา ลิ้นแม็กนี่แหละ มาเป็นตัวปฏิบัติการห้ามให้สไลด์ค้างไว้เมื่อกระสุนในแม็กฯ หมดลง

 Undecided การจะให้ความรู้ผู้อื่น ต้องเป็นวิชาการครับ ไม่ใช่คิดเอาเองหรือนั่งเทียน Undecided
บันทึกการเข้า

boon(เสือไบ)
ความประพฤติบกพร่อง จะทำให้บิดามารดาอับอาย
Hero Member
*****

คะแนน 532
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6011



« ตอบ #114 เมื่อ: มิถุนายน 18, 2011, 01:14:29 PM »


 Undecided การจะให้ความรู้ผู้อื่น ต้องเป็นวิชาการครับ ไม่ใช่คิดเอาเองหรือนั่งเทียน Undecided
ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

If a man says he is not afraid of dying, he is either lying or is a Gurkha
Ultraman Taro #รักในหลวง#
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 195
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1624



« ตอบ #115 เมื่อ: มิถุนายน 24, 2011, 03:25:24 AM »

อ่านดูแล้วขำครับ ประมาณได้ว่า "รถยนต์ คือรากเหง้า ของเครื่องบิน เพราะมีล้อเหมือนกัน" หรือ " เรือ คือรากเหง้า ของเครื่องบิน เพราะมีใบพัดเหมือนกัน "

 คิก คิก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 24, 2011, 03:27:04 AM โดย Ultraman Taro #รักในหลวง# » บันทึกการเข้า

"อย่าแก่เพราะกินข้าว อย่าเฒ่าเพราะอยู่นาน" 
โบราณว่า อย่าถือสาคนบ้า อย่าว่าคนเมา ใจเย็นเข้าไว้
I Love My King (AkNaRiN~*)
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 129
ออฟไลน์

กระทู้: 1670



« ตอบ #116 เมื่อ: มิถุนายน 24, 2011, 06:05:07 PM »

จากต้นกระทู้สองหน้าแรกที่เป็นคำถามพื้นๆ ไม่ค่อยน่าสนใจ...
ตอนนี้ต้องติดตามเนื่องด้วยประวัติปืน...

ตรงนี้ต้อง+1 เพื่อขอบคุณคุณเต่า ที่ทำให้เพื่อนสมาชิกช่วยกันหาข้อมูลมาเพิ่มเติมให้อ่านกันครับ...
สงสัยต้องไปหาเรื่องระบบปฎิบัติการบาเรตต้า92 มาศึกษาเพิ่มบ้างเสียแล้ว...อ่านแล้วงงงงอยู่
บันทึกการเข้า
tao bangkhaen
Hero Member
*****

คะแนน 354
ออฟไลน์

กระทู้: 3452


« ตอบ #117 เมื่อ: มิถุนายน 24, 2011, 06:23:05 PM »

จากต้นกระทู้สองหน้าแรกที่เป็นคำถามพื้นๆ ไม่ค่อยน่าสนใจ...
ตอนนี้ต้องติดตามเนื่องด้วยประวัติปืน...

ตรงนี้ต้อง+1 เพื่อขอบคุณคุณเต่า ที่ทำให้เพื่อนสมาชิกช่วยกันหาข้อมูลมาเพิ่มเติมให้อ่านกันครับ...
สงสัยต้องไปหาเรื่องระบบปฎิบัติการบาเรตต้า92 มาศึกษาเพิ่มบ้างเสียแล้ว...อ่านแล้วงงงงอยู่
กราบขอบพระคุณท่าน เอกนรินทร์ ที่เข้าใจเจตนาของผม .... เพราะทีแรก ตอนต้นๆ อ่านแล้ว มันก็รู้สึกว่า เอ ... เราจะทำไงดีให้มีอะไร ให้มันเกิดการพูดคุยเพิ่มเติมกันขึ้นมากกว่านี้ .....พอนึกออก ก็เลยลองเขียนดู  เลยได้ภาพ ได้ความรู้่ มาอีกเพียบเลย
ยิ่งภาพเมาเซอร์สวยๆ  ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ปืน     แสดงให้เห็นเลยว่า ตอนแรก เมาเซอร์ทำเป็นแม็กกาซีนในตัว   ต่อมามีการพัฒนา เป็นแม็กกาซีน แยกต่างหาก ในภายหลัง ก็ถือเป็นการพัฒนาการของปืนอีกอย่างหนึ่ง
นั่นซิ  แล้วไม่สงสัยต่ออีกหรือครับว่า  แล้วไอ้แม็กกาซีนที่แยกออกมาเป็นอันๆ แบบที่เห็นกันทุกวันนี้  มันเริ่มขึ้นในปืนยี่ห้ออะไร เป็นยี่ห้อแรก 

แล้วที่แรก แม็กกาซีน มันอยู่ข้างหน้าโกร่งไกปืน เหมือนเมาเซอร์ 96    แล้วมันย้ายมาอยู่ในด้ามปืน ใช้ประโยชน์พื้นที่ ทั้งเป็นด้ามปืน และเป็นที่บรรจุซองกระสุนด้วยนี้  มันเกิดจากปืนอะไร เป็นยี่ห้อแรก  น่าสนใจไหมครับท่าน
บันทึกการเข้า
มะขิ่น
Hero Member
*****

คะแนน 2453
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17813


"ทหารแก่ไม่มีวันตาย แต่จะค่อยๆเลือนหายไป"


« ตอบ #118 เมื่อ: มิถุนายน 25, 2011, 12:49:41 AM »

น่าสนใจมากครับ ..................

ช่วยหาข้อมูลที่ถูกๆและไม่นั่งเทียนมาเล่าให้ฟังบ้างนะครับ
บันทึกการเข้า

อย่าดึงฟ้าต่ำ  อย่าทำหินแตก  อย่าแยกแผ่นดิน
USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #119 เมื่อ: มิถุนายน 25, 2011, 03:11:35 AM »


 แล้วไอ้แม็กกาซีนที่แยกออกมาเป็นอันๆ แบบที่เห็นกันทุกวันนี้  มันเริ่มขึ้นในปืนยี่ห้ออะไร เป็นยี่ห้อแรก  

แล้วที่แรก แม็กกาซีน มันอยู่ข้างหน้าโกร่งไกปืน เหมือนเมาเซอร์ 96    แล้วมันย้ายมาอยู่ในด้ามปืน ใช้ประโยชน์พื้นที่ ทั้งเป็นด้ามปืน และเป็นที่บรรจุซองกระสุนด้วยนี้  มันเกิดจากปืนอะไร เป็นยี่ห้อแรก  น่าสนใจไหมครับท่าน
ไม่ใช่ Colt 1911
ถ้าจะบอกว่า 1911 เป็นต้นแบบ mag เสียบด้ามล่ะ ไม่ใช่แน่นอน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 25, 2011, 03:16:37 AM โดย .40 S&W รักพ่อหลวงและพระเทพ. » บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 5 6 7 [8] 9
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.115 วินาที กับ 22 คำสั่ง