แพงตรงจำกัดโควต้านำเข้าครับ, ของเข้ามาน้อย คนอยากได้แยะกว่า มันก็เลยแพงครับ... ส่วนเรื่องที่ได้ยินกันว่าแพงเพราะโดนข้าราชการ(บางคนที่เลว)ชักค่าหัวคิวฯ นั่นเป็นเรื่องของคนเลวหากินกับคนเลว ถึงแม้ไม่มีการคอรับชั่นก็ตาม ถ้าของมันขายแพงแล้วยังมีคนซื้อจนหมดไม่พอขาย ร้ายขายปืนก็ตั้งราคาแพง แล้วกินกำไรทั้งหมดคนเดียวอยู่ดีครับ...
ปืนยังต้องแพงไปเรื่อยๆ เพราะต้องการบีบให้ปืนตกอยู่กับเฉพาะคนที่จำเป็นจริงๆ... คือยังมีคนบางกลุ่มบางประเภทเป็นบัวเหล่าที่ 4 ตามศาสนาพุทธ(บัวใต้น้ำ), หากปล่อยให้อาวุธร้ายแรงตกอยู่ในมือคนกลุ่มนี้ ประเทศชาติจะเดือดร้อนครับ...
คนประเภทที่เป็นบัวเหล่าที่ 4 (บัวใต้น้ำ) จะเป็นคนโง่ คนเจ้าอารมณ์ แล้วแต่อารมณ์ชักพาไป แล้วปล่อยให้อารมณ์กำหนดพฤติกรรมตนเอง(ถึงไม่มีปืนมันก็เผาเมือง)... หรือไม่ก็ไม่ใช้สมองคิด เช่นเมาเหล้าชักปืนยิงขึ้นฟ้า เหม็นหน้าใครก็ไม่คิดมาก โมโหก็ยิงทิ้งแล้วหนีคดี, รวมกลุ่มกันก็อยากเป็นฮีโร่ ฯลฯ...
ผมว่าราคาปืนที่แพงคงจะบีบให้ตกอยู่กับคนที่จำเป็นต้องใช้จริงๆคงจะยากครับเพราะเท่าที่ผมเห็นส่วนใหญ่ คนประเภทบัวเหล่าที่ 4 มักจะมีเงินและมีอำนาจครับ
การให้มาได้ซึ่งปืนแต่ละกระบอกมันเป็นเรื่องไม่ยากเย็นเลยสำหรับคนกลุ่มนี้ครับ
ด้วยความเคารพ ผมไม่ได้แย้งความคิดเห็นของพี่สมชายนะครับเพียงแต่ที่ผมเห็นมาส่วนใหญ่เป็นแบบนี้ครับ นั่นคือกลไกสังคมบกพร่องครับ ประเทศไทยบังคับใช้กฎหมายไม่ได้ผล เพราะยังมีคนส่วนหนึ่งสามารถเข้าถึงอำนาจในแผ่นดินด้วยการหลอกลวงคนโง่ให้ลงคะแนนเสียงให้เข้าสภา... แล้วคนพวกนี้(นักเลือกตั้ง)แทนที่จะออกกฎหมายเพื่อปกครองประเทศให้อยู่ในความเที่ยงธรรม แต่ก็กลับมาทำผิดกฎหมายเสียเอง แล้วใช้อิทธิพลเถื่อนคุ้มครองกิจการนอกกฎหมาย คุ้มครอง+ให้เส้นสายแก่บริวารเถื่อนๆ จนกระทั่งกฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์...
ต้นเหตุทั้งปวงเริ่มจากคนโง่มันแยะไปครับ, แต่คนโง่มีสิทธิ์ลงคะแนน 1 คะแนนเท่ากับคนฉลาด คนโง่คนฉลาดไม่ใช่คนรวยหรือไม่รวย เพราะคนฉลาดที่ไม่รวยเนื่องจากใช้ชีวิตตามปรัชญาพอเพียงก็แยะ... คนโง่บัวใต้น้ำ บัวเหล่าที่ 4 นั่นแหละครับ คือต้นเหตุความทุกข์ยากข้นแค้นในแผ่นดิน...