พอหลังจากผ่านตรงนั้นไป ก็ไปเที่ยวกันยาวทั้งอาทิตย์ครับ ขึ้นเขาลงห้วยที่อื่นสารพัด ชันกว่านั้นตั้งเยอะแยะ รถไม่มีกลิ่นหรืออะไรผิดปกติเลยแม้แต่ครั้งเดียว ช่วงที่เที่ยวที่อื่น เหมือนผมยังติดใจอะไรบางอย่างกับเขาลูกนั้น รวมทั้งเหตุการณ์กลิ่นไหม้นั่นด้วย ยังคิดถึงเหตุการณ์ตอนนั้นอยู่เรื่อยๆ
จนเที่ยวเสร็จหมด กลับมาที่เมืองที่ผมอยู่ แล้วไปส่งเพื่อนคนที่อยู่ Chattanooga โดยผมไปส่งคนเดียว ไปถึงตอนเย็นก็ค้างคืนนึง ตั้งใจว่าวันรุ่งขึ้นจะกลับ พอตื่นมาหิมะตกเยอะมากครับ เป็นหิมะครั้งแรกของปีแถวนั้น แถมทางขากลับที่ต้องผ่าน Nashville (จำไม่ได้ครับว่า Interstate อะไร) มีช่วงขึ้นเขาชัน ผมเลยไม่กล้าขับกลับ นั่งแกร่วอยู่ในอพาร์ตเมนต์เพื่อน ดูทีวีแล้ว วันนี้ไม่ได้กลับแน่ๆ คงต้องวันถัดไปอีก นั่งเซ็งๆไม่มีอะไรทำ หันไปมองกองหนังสือ เห็นหนังสือต่วยตูนอยู่ราวๆ 10 เล่ม (ซึ่งเพื่อนบอกทีหลังว่า พี่สาวเพิ่งมาเยี่ยมจากเมืองไทยเมื่อสองอาทิตย์ก่อน แล้วเอามาอ่านด้วย) ผมก็เลยหยิบสุ่มๆขึ้นมาเล่มนึงด้วยความเซ็ง และเปิดอย่างสุ่มๆอีกไปที่หน้ากลางๆของเล่ม หน้าแรกที่ผมเปิดอ่านเจอเลยนั้น ผมอ่านหัวเรื่องแล้วแทบสะดุ้งตกเก้าอี้ เพราะมันเขียนว่า
"ปิศาจที่ภูเขาพิสกาห์"เนื้อเรื่องในนั้น เป็นสถานที่เดียวกับที่ผมไปนั่นเอง เรื่องเล่าว่า สมัยก่อนยุคสงครามกลางเมือง แถวนั้นมีพวกนอกกฎหมายอยู่พอสมควร และมีชายนายหนึ่งเป็นนักต้มเหล้าเถื่อนซึ่งทางการต้องการตัว จนวันหนึ่งนายคนนี้รู้ตัวว่าทางการจะส่งคนมาจับกุมในวันนี้ จึงตัดสินใจแต่งชุดทางการออกไปรับแฟนสาวเพื่อแต่งงานที่โบสถ์ในคืนนั้นเอง เสร็จพิธีแล้ว ทั้งสองคนก็หลบหนี โดยหายไปในภูเขาในคืนนั้นเอง ซึ่งเป็นคืนที่มีหิมะตกคืนแรกของปี และหายสาบสูญไปโดยไม่มีใครพบเห็นอีกเลย
หลังจากนั้น เริ่มมีเสียงเล่าลือจากชาวบ้านแถวนั้น ว่าคืนแรกของปีที่มีหิมะตก จะมีคนเห็นเงาของคนสองคนเดินอยู่ในแถบนั้นโดยที่ใส่ชุดพิธีแต่งงาน
มันเป็นเรื่องบังเอิญหลายอย่างมาประจวบเหมาะกันครับ เหตุการณ์ที่ผมสนใจสถานที่นี้โดยไม่มีเหตุผล เหตุการณ์เรื่องรถบนภูเขา และที่บังเอิญที่สุดคือ ขณะที่ผมติดหิมะตกครั้งแรกของปีเหมือนในเรื่องอยู่นั้น ผมก็หยิบเอาหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาจากหลายๆเล่ม เปิดสุ่มๆ ไปหน้าแรก เจอเรื่องนี้ทันที โอกาสจะเกิดเรื่องแบบนี้ มันยากเย็นแสนเข็ญเหลือเกิน คิดถึงแล้วยังขนลุกอยู่เลยครับ
ไม่รู้เค้าเสียดายที่กะเหรี่ยงนานๆจะมีไปเยือนแถวนั้นรึเปล่า อยากให้เห็นก็ไม่ได้เห็น เลยตามมาบอกในหนังสือแทนรึเปล่า ผมก็ไม่ทราบครับ