ต้องขอขอบพระคุณ
ทุกความเห็นของท่านสมาชิกนะครับขอนุญาติบวกหนึ่ง+1ทุกท่านนะครับ--ผมต้องยอมรับว่าเซลล์ของอีซูซุเก่งมากครับ กล่อมยัยเจ๊ผมอยู่หมัด
ซึ่ีงก็จริงของแก ที่ว่าอีซูซุเป็นรถที่ชนได้(กันชนมิวอันละ 4000ไฟหน้าดวงละ 1800 บาท) หลายปีก่อนรถฟอร์ดมอนดิโอของผมจอดติดไฟแดง มีผู้หญิงเมาเบียรพูดโทรศัพท์ด้วยขับมาชนท้าย ต้องเปลี่ยนกันชน แค่ศูนย์เปิดราคากันชนหลัง 19000บาทไม่รวมแว๊ด เจ้าหล่อนก็นั่งร้องไห้เลยทีเดียว(ผมก็รับไม่ได้ครับแค่พลาสติคประเภทกาลามังถังน้ำ)ราคาเป็นหมื่นๆบาท --ของฮอนด้า โตต้าอันติส แค่อันละ 2000 ทั้งหน้าหลัง
เป็นความจริงครับที่ต้นทุนวัสดุเม็ดพลาสติคในการฉีดกันชนออกมาชิ้นหนึ่งไม่กี่บาท ราคาเม็ดไม่แพงเลยครับ
แต่ต้นทุนอื่นๆครับบานเลย เอาง่ายๆ โมลด์ฉีดพลาสติคชุดคอนโซลหน้ารถกระบะยี่ห้อหนึ่งราคาโมลด์ แปดสิบล้าน แพงกว่าเครื่องฉีดอีก
ไม่รวมต้นทุน โรงงาน ค่าน้ำ ค่ีาไฟ ค่าดำเนินการ เงินเดือนพนักงาน สารพัดสารเพ
คิดตัวเลขกลมๆ ง่ายๆ
โมลด์ 80 ล้าน
เครื่องฉีดพลาสติค 40 ล้าน
รวมเป็น 120 ล้าน
ถ้าขายชิ้นละ 15000 จะต้องผลิตถึง แปดพันชิ้น เพื่อขายเชิง แมสโปรดัคส์ หมายถึงต้องขายรถให้ได้รถแปดพันคัน
ถ้ารถตลาดๆ ยี่ห้อไหนขายดี ยิ่งฉีดมาก ยิ่งกำไร ตัวหารต้นทุนยิ่งมาก อาจหารไปหารมาเหลือชิ้นละ สามพัน (แต่เชื่อเถอะเขาก็ขายชิ้นละหมื่นห้าเหมือนเดิมนั่นแหละ)
ถ้ารถไหนนำเข้าชิ้นงานนั้นก็ฉีดมาจากเมืองนอก ค่าใช้จ่ายนำเข้าบานไปอีก