เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 29, 2024, 04:24:10 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 3 4 [5] 6
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เหตุการณ์นี้ ถือว่าป้องกันตัวสมควรแก่เหตุหรือไม่ครับ  (อ่าน 8454 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เขาใหญ่
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 83
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 766


« ตอบ #60 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2011, 08:40:28 AM »

นายสมชายไม่ใช่นักกฎหมาย... แต่มีความเห็นว่าถึงแม้การป้องกันนั้นจะหยุดไปแล้ว เพราะมือปืน"ตั้งใจ"จะหลบหนีก็ตาม แต่การที่มือปืนบุกมายิงนี่ก็อาจถือได้ว่าเป็นการ"ข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยสาเหตุอันไม่เป็นธรรม"ครับ...

โดนข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยสาเหตุอันไม่เป็นธรรม สามารถสู้คดีโดยอ้างบันดาลโทสะ(เหตุบรรเทาโทษ), เพราะเหตุอันเดียวกันจะเป็นการป้องกันฯ กับบันดาลโทสะได้เพียงอย่างหนึ่งอย่างใดเท่านั้นครับ... ดังนั้นทนายเก่งๆ จะสามารถวางรูปคดีให้รัดกุม มีก๊อกหนึ่งก๊อกสอง, เพราะการพิสูจน์ว่ามือปืน"ตั้งใจหนี"นั้นก็ไม่แน่ว่าจะพิสูจน์ได้ชัดเจน...

   อ้างว่าคนร้ายยิงผู้เสียหายแล้วเตรียมหลบหนี ผู้เสียหายตามมาเพื่อจะดูรูปพรรณสัณฐานและยานพาหนะ  

ผู้ตายจึงนั่งลงพร้อมใช้รถเป็นที่กำบังและยิงมายังผู้เสียหายหวังยิงให้ตาย อีกหลายนัด

ผู้เสียหายจึงยิงตอบโต้ด้วยอาวุธปืนที่หยิบติดตัวมา จนหมดเเม็ก

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 23, 2011, 08:43:30 AM โดย เขาใหญ่ » บันทึกการเข้า

"เป้าหมาย...มีไว้เเล่นตำ"
เขาใหญ่
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 83
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 766


« ตอบ #61 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2011, 08:47:06 AM »

กระสุน.22เเม๊กนั่ม   ไม่มีอานุภาพเหมาะสมเพียงพอในการใช้ยิงต่อสู้ระหว่างมนุษย์ด้วยกัน     


ไม่จริงครับ

เข้าโซน  ผมว่าขึ้นเมรุ

เพียงว่ากรณีนี้ มันถาก


มือปืน ไม่ชำณาญ ยิงไม่แม่น ขาดการฝึกซ้อม เซลเลยรอด
บันทึกการเข้า

"เป้าหมาย...มีไว้เเล่นตำ"
mchaivis
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 80
ออฟไลน์

กระทู้: 720



« ตอบ #62 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2011, 11:44:36 AM »

นายสมชายไม่ใช่นักกฎหมาย... แต่มีความเห็นว่าถึงแม้การป้องกันนั้นจะหยุดไปแล้ว เพราะมือปืน"ตั้งใจ"จะหลบหนีก็ตาม แต่การที่มือปืนบุกมายิงนี่ก็อาจถือได้ว่าเป็นการ"ข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยสาเหตุอันไม่เป็นธรรม"ครับ...

โดนข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยสาเหตุอันไม่เป็นธรรม สามารถสู้คดีโดยอ้างบันดาลโทสะ(เหตุบรรเทาโทษ), เพราะเหตุอันเดียวกันจะเป็นการป้องกันฯ กับบันดาลโทสะได้เพียงอย่างหนึ่งอย่างใดเท่านั้นครับ... ดังนั้นทนายเก่งๆ จะสามารถวางรูปคดีให้รัดกุม มีก๊อกหนึ่งก๊อกสอง, เพราะการพิสูจน์ว่ามือปืน"ตั้งใจหนี"นั้นก็ไม่แน่ว่าจะพิสูจน์ได้ชัดเจน...

   อ้างว่าคนร้ายยิงผู้เสียหายแล้วเตรียมหลบหนี ผู้เสียหายตามมาเพื่อจะดูรูปพรรณสัณฐานและยานพาหนะ 

ผู้ตายจึงนั่งลงพร้อมใช้รถเป็นที่กำบังและยิงมายังผู้เสียหายหวังยิงให้ตาย อีกหลายนัด

ผู้เสียหายจึงยิงตอบโต้ด้วยอาวุธปืนที่หยิบติดตัวมา จนหมดเเม็ก


แสดงว่าท่านไม่เห็นภาพเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิด
บันทึกการเข้า
ตาเยื้อน
Full Member
***

คะแนน 12
ออฟไลน์

กระทู้: 216



« ตอบ #63 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2011, 01:59:32 PM »

ลองหามาเปรียบเทียบครับ
พิพากษาศาลฎีกาที่  3976/2543 แม้ผู้เสียหายจะเป็นฝ่ายก่อเหตุทำร้ายจำเลยก่อน แต่จำเลยจะอ้างว่าที่ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายเป็นการป้องกันสิทธิของตนให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายไม่ได้ เพราะข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าผู้เสียหายจะเข้าทำร้ายจำเลยขณะจำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหาย ส่วนที่ผู้เสียหายทำร้ายจำเลยที่ชั้นสองและถีบจำเลยขณะตามผู้เสียหายขึ้นไปชั้นสามนั้น ไม่ใช่ภยันตรายที่ใกล้จะถึง แต่เป็นเหตุการณ์ที่ผ่านพ้นไปแล้ว อย่างไรก็ดี การที่ผู้เสียหายทำร้ายจำเลยแล้ววิ่งขึ้นไปชั้นสาม จำเลยตามขึ้นไปแล้วใช้อาวุธปืนของกลางยิงผู้เสียหายในเวลาต่อเนื่องกระชั้นชิดกับที่จำเลยยังมีโทสะอยู่ การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำเนื่องจากถูกผู้เสียหายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม เป็นความผิดฐานพยายามฆ่าโดยบันดาลโทสะ หาใช่เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายไม่

          ทำผิดโดยบันดาลโสะ  ศาลลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดเท่าไรก็ได้ครับ

          สรุป น่าจะติดคุกนิดหน่อย

           อย่างไรก็ตาม  เวลาสู้คดี  ควรให้ทนายสู้ทั้งป้องกัน(ทำให้ไม่ต้องรับโทษ  เผื่อฟลุ๊คครับ) และบันดาลโทสะ(รับโทษน้อย)
ผลประการใดแล้วแต่ศาล
บันทึกการเข้า

สู้กับปืน ต้องมีปืน ยืนกระหน่ำ
ตาเยื้อน
Full Member
***

คะแนน 12
ออฟไลน์

กระทู้: 216



« ตอบ #64 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2011, 02:05:13 PM »

อีกนิดครับ  ความจริง คดีนี้  หากไม่มีกล้องวงจรปิด  อาจพลิกคดีได้
ให้เพื่อนหรือลูกค้าเป็นพยานว่า  คนตายเล็งจะยิงมา  ผู้ต้องหาเลยชักปืนมั่ง ยิงสวนไปติด ติด เลย
ก็จะเป็นป้องกัน(ไม่ต้องรับโทษ)ครับ

แต่ยอมรับความจริงดีกว่านะครับ 
และการทำให้ลอดช่องของกฎหมาย ตั้งแต่กระทำผิด เป็นผู้บริสุทธิ์
ส่วนการสร้างข้อเท็จจริงขึ้นใหม่ หลังกระทำผิดไปแล้ว เป็นคนไม่ดีครับ
บันทึกการเข้า

สู้กับปืน ต้องมีปืน ยืนกระหน่ำ
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #65 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2011, 02:24:31 PM »

ลองหามาเปรียบเทียบครับ
พิพากษาศาลฎีกาที่  3976/2543 แม้ผู้เสียหายจะเป็นฝ่ายก่อเหตุทำร้ายจำเลยก่อน แต่จำเลยจะอ้างว่าที่ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายเป็นการป้องกันสิทธิของตนให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายไม่ได้ เพราะข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าผู้เสียหายจะเข้าทำร้ายจำเลยขณะจำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหาย ส่วนที่ผู้เสียหายทำร้ายจำเลยที่ชั้นสองและถีบจำเลยขณะตามผู้เสียหายขึ้นไปชั้นสามนั้น ไม่ใช่ภยันตรายที่ใกล้จะถึง แต่เป็นเหตุการณ์ที่ผ่านพ้นไปแล้ว อย่างไรก็ดี การที่ผู้เสียหายทำร้ายจำเลยแล้ววิ่งขึ้นไปชั้นสาม จำเลยตามขึ้นไปแล้วใช้อาวุธปืนของกลางยิงผู้เสียหายในเวลาต่อเนื่องกระชั้นชิดกับที่จำเลยยังมีโทสะอยู่ การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำเนื่องจากถูกผู้เสียหายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม เป็นความผิดฐานพยายามฆ่าโดยบันดาลโทสะ หาใช่เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายไม่

          ทำผิดโดยบันดาลโสะ  ศาลลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดเท่าไรก็ได้ครับ

          สรุป น่าจะติดคุกนิดหน่อย

           อย่างไรก็ตาม  เวลาสู้คดี  ควรให้ทนายสู้ทั้งป้องกัน(ทำให้ไม่ต้องรับโทษ  เผื่อฟลุ๊คครับ) และบันดาลโทสะ(รับโทษน้อย)
ผลประการใดแล้วแต่ศาล

ขอบคุณมากเลยครับ คุณ j@xx
ฎีกานี้ ใกล้เคียงมาก แต่ยังไม่ตรงนักครับ เพราะกรณีเป็นเรื่องการทำร้ายร่างกาย ไม่ได้มีอาวุธปืนทำร้ายจำเลยก่อน
การทำร้าย ภยันตรายไม่ร้ายแรงถึงต้องเสียชีวิต และบรรลุผลจบลงไปแล้ว
จำเลยจะใช้อาวุธปืน ยิงผู้เสียหายจะอ้างเหตุป้องกันตัวไม่ได้.. เพราะมันเกินกว่าผลที่ตัวเองได้รับผลราย มากเกินไป
แต่เพราะจำเลยถูกกระทำด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงการกระทำตอบโต้ไป การจึงเป็นเรื่องของบันดาลโทสะ

แต่กรณีตามกระทู้นี้ เหตุเกิดจากใช้อาวุธปืน ยิงเพื่อฆ่า และกำลังหนี ขณะเดียวกันก็พร้อมใช้อาวุธปืนยิงได้อีก
(กระสุนหมดหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็น ก็เพราะไมมีใครรู้นอกจากคนยิง) และเป็นการกระทำที่ติดพันทันที การยิงหลายนัด จนอีกฝ่ายที่มีอาวุธปืนล้มลง
กรณี เป็นเหตุเกิดจากการป้องกันตัว แต่จะเกินกว่าเหตุหรือไม่ นั้น ศาลจะเป็นผู้วินิจฉัย หรือ
อย่างน้อย ก็มีเรื่องบันดาลโทสะ รองรับ..  ซึ่งข้อกฎหมายนี้ ล้วนเป็นคุณ ทั้งสิ้น ครับ  Grin


บันทึกการเข้า

mchaivis
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 80
ออฟไลน์

กระทู้: 720



« ตอบ #66 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2011, 02:42:21 PM »

ประเด็นน่าสนใจครับ จะเป็นป้องกันตัวหรือเจตนาฆ่า
ความสนุกของกฎหมายอยู่ตรงนี้ เอาเหลี่ยมไหนมาว่ากัน
เป็นกระทู้ที่แตกยอดออกมาเป็นผลประโยชน์ทางความรู้แท้จริง
แต่สุดท้ายก็อยู่ที่คำตัดสินของศาล
อยากให้ จขกท ตามผลคดีให้ด้วย คงไม่รบกวนมากเกินไป
บันทึกการเข้า
17zatan
Full Member
***

คะแนน 10
ออฟไลน์

กระทู้: 178


ปืนคือเพื่อนเเท้


« ตอบ #67 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2011, 02:58:42 PM »

ตามความคิดผม ว่าน่าจะเกินกว่าเหตุครับ ยิงจนหมดเเม็ก เเถมดูจากกล้องเเล้วผู้ตายเจตนาจะหนีเเล้ว เเต่มาโดนยิงจนหมดเเม็ก เเล้วยังมีโอกาสพลาดไปโดนผู้อื่นที่ขับรถผ่านไปมาอีกด้วย น่าจะคุกครับ เเต่อาจจะโทษไม่หนัก กล้องมันมัดตัวครับ

เเต่เป็นใครมีปืน ใครก็ยิงให้ตายเเหละครับ ไม่ตายวันหน้าเราก็อาจตาย สรุป โชคดีที่ยังไม่ตายละกันครับ ส่วนคุกเรื่องเล็ก เดี๋ยวก็ออกครับ   กิ๊วก๊าว
บันทึกการเข้า
knum
Newbie
*

คะแนน 2
ออฟไลน์

กระทู้: 9



« ตอบ #68 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2011, 03:10:29 PM »

กระสุน.22เเม๊กนั่ม   ไม่มีอานุภาพเหมาะสมเพียงพอในการใช้ยิงต่อสู้ระหว่างมนุษย์ด้วยกัน     


ไม่จริงครับ

เข้าโซน  ผมว่าขึ้นเมรุ

เพียงว่ากรณีนี้ มันถาก

จริงครับถ้าเข้าโซน   เข้าจุดสำคัญก็ได้จองศาลาวัดเหมือนกันครับ....นี่ดูแล้วลูกกระสุนคงแค่เฉียดหรือถาก   ไม่ถูกกระดูกไม่ถูกจุดสำคัญ  ถึงได้ยังวิ่งไปหยิบปืนมายิงได้  และยังมายืนให้สัมภาษณ์ได้อีกด้วย....

กระสุน .22 แม๊กนั่ม จริงๆแล้วเป็นกระสุนสังหารนะครับ สมัยก่อนพวกมือปืนชอบใช้กัน อำนาจกระสุนสร้างบาดแผลได้ไม่แพ้พวก .38 เลยนะครับ
แล้วข้อดีคือ แรงรีคอยน้อยกว่า คุมปืนได้แม่นยำกว่า  แถมไม่ทิ้งปลอกกระสุนให้ตามสืบอีกด้วย
แต่กรณีในกระทู้นี้ มันยิงไม่โดนจุดสำคัญมากกว่าครับ
ถ้าโดนจุดสำคัญ ผมว่ารอดยากเหมือนกัน
บันทึกการเข้า
Supakij Kaw
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 60
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1008


« ตอบ #69 เมื่อ: มิถุนายน 26, 2011, 11:22:14 AM »

ตามพี่ NUTAPHOL เรืื่องลูกซองสั้นนี่น่ากลัวครับ ผมเคยพบคนที่เจอยิงแบบเข้ากลุ่ม (คอขวด)
ไม่เคยมีใครรอดสักรายเลยครับ
บันทึกการเข้า
mchaivis
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 80
ออฟไลน์

กระทู้: 720



« ตอบ #70 เมื่อ: มิถุนายน 26, 2011, 12:40:57 PM »

ตามความคิดผม ว่าน่าจะเกินกว่าเหตุครับ ยิงจนหมดเเม็ก เเถมดูจากกล้องเเล้วผู้ตายเจตนาจะหนีเเล้ว เเต่มาโดนยิงจนหมดเเม็ก เเล้วยังมีโอกาสพลาดไปโดนผู้อื่นที่ขับรถผ่านไปมาอีกด้วย น่าจะคุกครับ เเต่อาจจะโทษไม่หนัก กล้องมันมัดตัวครับ

เเต่เป็นใครมีปืน ใครก็ยิงให้ตายเเหละครับ ไม่ตายวันหน้าเราก็อาจตาย สรุป โชคดีที่ยังไม่ตายละกันครับ ส่วนคุกเรื่องเล็ก เดี๋ยวก็ออกครับ   กิ๊วก๊าว
กรุณาอย่าคิดเลยครับว่า เรื่องคุกเรื่องเล็ก เพราะมันมีผลต่อการตัดสินใจ
หากคิดว่า เรื่องคุกเรื่องใหญ่ เราก็จะเลือกทำอีกอย่าง
ชีวิตไม่ใช่มีแค่เรา ยังมีคนข้างหลังด้วย อย่าลืม
บันทึกการเข้า
yotinpen
Sr. Member
****

คะแนน 17
ออฟไลน์

กระทู้: 888


« ตอบ #71 เมื่อ: มิถุนายน 26, 2011, 01:56:06 PM »

เรื่องนี้น่าติดตามว่า ศาลจะตัดสินอย่างไรครับ ไหว้
บันทึกการเข้า
sod123
Jr. Member
**

คะแนน 3
ออฟไลน์

กระทู้: 68


« ตอบ #72 เมื่อ: มิถุนายน 26, 2011, 06:37:04 PM »

ตามความคิดผม ว่าน่าจะเกินกว่าเหตุครับ ยิงจนหมดเเม็ก เเถมดูจากกล้องเเล้วผู้ตายเจตนาจะหนีเเล้ว เเต่มาโดนยิงจนหมดเเม็ก เเล้วยังมีโอกาสพลาดไปโดนผู้อื่นที่ขับรถผ่านไปมาอีกด้วย น่าจะคุกครับ เเต่อาจจะโทษไม่หนัก กล้องมันมัดตัวครับ

เเต่เป็นใครมีปืน ใครก็ยิงให้ตายเเหละครับ ไม่ตายวันหน้าเราก็อาจตาย สรุป โชคดีที่ยังไม่ตายละกันครับ ส่วนคุกเรื่องเล็ก เดี๋ยวก็ออกครับ   กิ๊วก๊าว

เห็นด้วยครับท่าน ด้วยความเคารพ ถ้าเป็นผม ณ นาทีนั้น  ผมต้องป้องกันตัวเองเต็มที่ เพราะว่า ติดคุกดีกว่าไปนอนวัด3วันเผ่า ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
ae20e
Newbie
*

คะแนน 0
ออฟไลน์

กระทู้: 9



« ตอบ #73 เมื่อ: มิถุนายน 26, 2011, 08:49:10 PM »

ผมว่าไม่น่าจะเข้าข่ายป้องกันตัวสมควรแก่เหตุ
เพราะคนถูกยิงวิ่งหนีพ้นอันตรายแล้ว คนยิงก็วิ่งขึ้นมอเตอร์ไซค์เตรียมหนี
ถ้าไม่หนีคงไม่ขึ้นมอเตอร์ไซค์ แต่เดินตามไปยิงซ้ำ ถือว่าภัยใกล้ตัวผ่านพ้นตัวไปแล้ว
ตรงนี้ถือว่าเป็นหนึ่งคดี คนขับมอเตอร์ไซค์เจตนาฆ่าคนตาย
แต่พอคนถูกยิงวิ่งกลับมายิงคนที่เตรียมหนีถึง 6 นัด ตรงนี้เป็นอีกคดีอีกข้อเท็จจริง
ผมว่าไม่น่าเข้าข่ายป้องกันตัว แต่กลายเป็นเจตนาฆ่าคนตาย
ถ้าคนถูกยิงชักปืนมายิงสวนขณะกำลังถูกยิง แม้จะยิงหมดแม็ก คดีอาจเป็นอื่น
อย่างไรก็ตาม คดีนี้เกิดขึ้นกลางวันแสกๆ มีภาพหลักฐานชัดเจนจากกล้องวงจรปิด คงไม่ยากในการพิจารณา
และเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจสำหรับการใช้ปืนป้องกันตัว

 เยี่ยม เยี่ยม
บันทึกการเข้า
KunPa008-รักในหลวง
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 7
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 113


มิใช่ ตำรวจ หรือ ทหาร ที่ หวง แหน แผ่น ดิน ไทย


« ตอบ #74 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2011, 03:07:40 PM »

ไม่เกิดกับตัวเองก็ไม่รู้หรอกเรา หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตารินไปซ้อมยิงกันบ่อยๆบ้างนะครับ เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม ไหว้ ไหว้
บันทึกการเข้า

วิญญาณ ปู่ ย่า ตา ยาย จะร่ำไห้ เพราะลูกหลานจัญไร
หน้า: 1 2 3 4 [5] 6
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.109 วินาที กับ 21 คำสั่ง