ปรัชญาการทำงานของนายห้างเทียม โชควัฒนะ
1. รู้น้อยไม่เกี่ยงงาน
คนเราหากมีความรู้น้อยต้องไม่ท้อถอย หรือ เลือกงาน
เพราะการทำงานคือหนทางเพิ่มความรู้และประสบการณ์
2. เที่ยงธรรมและเยือกเย็น
ผู้บริหารที่ดีต้องปกครองคนด้วยความเที่ยงธรรม และ สุขุมเยือกเย็นเป็นสำคัญ
3. ขยัน อดทน รักษาเครดิต คบคนดี อย่าเอาเปรียบใคร และ ไม่สร้างศัตรู
คนที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต ต้องมีความขยัน อดทน ประพฤติตนน่าเชื่อถือ
รู้จักคบคนดีเพราะคนดีย่อมนำพาไปสู่สิ่งดีๆ
และที่สำคัญไม่ควรเอาเปรียบหรือเป็นศัตรูกับผู้อื่น
4. เป็นร่มเงาให้ประโยชน์สุข
ต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาและอุดมด้วยดอกผลอันเอื้อประโยชน์แก่ผู้ปลูกทำนุบำรุง
และคนทั่วไปฉันใด องค์กรที่เจริญเติบโตมั่นคง
ย่อมควรจะเอื้อประโยชน์และเกื้อกูลแก้บุคคลากรและสังคมฉันนั้น
5. รักตนเอง รักครอบครัว รักษริษัทฯ
บุคคลใดดำเนินชีวิตด้วยพื้นฐานจากพลังแห่งความรัก ในตนเอง ครอบครัว
และองค์กรเป็นสำคัญ
บุคคลนั้นย่อมประสบความสำเร็จที่ยั่งยืนทั้งในชีวิตส่วนตัว และ
ชีวิตการทำงาน
6. ความรู้เหมือนดาบ ยิ่งใช้ยิ่งคม
ผู้ใดมีความรู้แล้วนำความรู้ของตนมาใช้ และถ่ายทอดให้ผู้อื่น
ผู้นั้นจะยิ่งเกิดความชำนาญ และเป็นการเพิ่มคุณค่าแห่งความรู้นั้นด้วย
เปรียบเสมือนดาบที่ถูกนำมาใช้ประโยชน์ และได้รับการเอาใจใส่ดูแล
ให้คงไว้ซึ่งความคมตลอดเวลา
7. เรียนรู้สิ่งใด เรียนรู้จากคน
เรื่องราวทุกอย่างคนเป็นผู้สร้างขึ้น ดังนั้น
ถ้าต้องการเรียนรู้สิ่งใดให้เรียนรู้จากคน
ซึ่งล้วนเป็นขุมทรัพย์แห่งความรู้ และประสบการณ์
8. การใช้โทสะ มีแต่สร้างความรุนแรง
การใช้โทสะเข้าตัดสินปัญหา ไม่เกิดผลดีกับใครเลย มีแต่สร้างความรุนแรงเพิ่มขึ้น
9. ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวกพ้อง
อดอยากแค่ไหน จงทำตัวเป็นเสือ ไม่แล่เนื้อเถือหนังพวกเดียวกัน
แต่ต้องพยายามเป็นผู้ช่วยเหลือผองเพื่อนจะดีกว่า
10. ทบทวนอดีต ศีกษาปัจจุบัน เพื่อวางอนาคต
การทบทวนประสบการณ์จากอดีต ทั้งของตนเองและผู้อื่น
และการศึกษาเรื่องราวจากคนและสิ่งรอบข้างในปัจจุบัน
เป็นแนวทางให้เราวางอนาคตได้ถูกต้อง แม่นยำยิ่งขึ้น
11. มากคน มากวาสนา
คนเราทุกคนล้วนมีวาสนาบารมี ถ้าทุกคนเอาวาสนาบารมีมารวมกัน
บริษัทฯก็จะเจริญก้าวหน้า
12. อย่าปล่อยชีวิตให้หมดไปอย่างไร้ค่า
คนเราถ้าเข้าใจการจากไปอย่างไม่ย้อนกลับของเวลา ย่อมใช้ชีวิตในแต่ละช่วงอย่างมีค่า
13. เร็ว ช้า หนัก เบา
ในการทำงาน ควรหมั่นพิจารณาอยู่เสมอว่า งานไหนทำก่อน งานไหนทำทีหลัง
งานไหนต้องจริงจัง และ งานไหนที่พอควร
14. ความสำเร็จย่อมเป็นของผู้มีความเพียร
อยากประสบความสำเร็จในชีวิตการทำงาน ต้องพาตัวเข้าหางาน
อย่าคอยให้งานมาหาตัว เพราะงานคือทุกอย่างของชีวิต
ที่เราต้องพากเพียรและพยายามทำตลอดไป
15. ไม่มีอะไรเกินความพากเพียรของมนุษย์
คนเราถ้าไม่นิ่งนอนใจ แต่เพียรพยายามใช้สติปัญญาต่อสู้อย่างเต็มกำลังแล้ว
ในที่สุดเราก็จะเป็นผู้มีชัยชนะ
16. ความสำเร็จของงาน อยู่ที่คุณภาพของคน
หัวใจในการทำงานให้สำเร็จ
มิใช่อยู่ที่การสร้างคนให้มีความเชี่ยวชาญในการทำงานเท่านั้น
แต่ต้องรวมถึงการสร้างเสริมให้ทุกคนอยู่ร่วมกันด้วยความรัก
และความสามัคคีด้วย
17. แค่หยุดอยู่กับที่ ก็กลายเป็นผู้ล้าหลัง
นักธุรกิจต้องเป็นคนไม่หยุดนิ่งเพียงวันนี้
แต่ต้องมีการปรับเปลี่ยนให้ทันสมัย ทันโลก
พร้อมที่จะก้าวสู่วันพรุ่งนี้ได้เสมอ
18. ชมเกินจริงเป็นโทษ ดีเกินเหตุเสียน้ำใจ
การ ชมเชย อย่าให้เขาเกิดความหลงระเริง จนอาจลืมตัวกับความสำเร็จ
ก่อให้เกิดความประมาท ที่อาจนำไปสู่ความล้มเหลวในอนาคตได้ การติ
ต้องทำด้วยจิตใจที่หวังดีและใช้คำพูดที่สร้างสรร
19. ผู้ที่ยิ้มแย้มแจ่มใส มักเป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไป
ความเป็นคนมีอารมณ์ดี ยิ้มแย้มมีชีวิตชีวานั้น เป็นเสน่ห์ของมนุษย์อย่างแท้จริง
20. ทำดีเปรียบการเดินทวนกระแสน้ำ ทำชั่วเปรียบการลอยตามน้ำ
การทำความดีเปรียบเหมือนปลาว่ายทวนน้ำ
ขึ้นไปที่สูงจะพบแต่น้ำที่ใสสะอาดฉันใด
คนที่พยายามทำความดีแม้จะลำบากยากเย็น ก็ย่อมพบชีวิตที่ดี สะอาดสดใส
อันเป็นมงคลแก่ตนเองฉันนั้น
21. มนุษยสัมพันธ์ คือพื้นฐานของความสำเร็จ
องค์กรจะเจริญรุ่งเรืองได้ บุคคลในองค์กรต้องมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี
มีความสุภาพอ่อนโยน รู้จักข่มอารมณ์และให้อภัยซึ่งกันและกันเสมอ
22. ความก้าวหน้าที่แท้จริง ย่อมเกิดจากฝีมือการทำงาน
ความก้าวหน้าที่ได้มาจากความสามารถในการทำงาน จะให้ผลที่จีรังยั่งยืน
23. งานสำเร็จได้ดี เพราะทีมงานดี
การประสานพลังใจและพลังความคิดของทีมงานที่ดี นำมาซึ่งความสำเร็จของงาน
24. อดทนและอดกลั้น นำไปสู่ความสำเร็จ
คนที่อดทนต่อปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ได้ดีกว่าคนอื่น
จะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต
25. อยากขยายใหญ่ ใจต้องกว้าง ในการถ่ายทอดความรู้ให้ลูกน้อง
การขยายกิจการให้ใหญ่โต ต้องอาศัยพลังความสามารถ ความรู้
และความคิดจากทุกคน ฉะนั้น หัวหน้างานต้องใจกว้าง
หมั่นสอนและฝึกฝนความชำนาญให้ลูกน้องเสมอ
ที่มา :
http://www.vcharkarn.com/vcafe/160218จากหนังสือ " สหพิฒน์ โตแล้วแตก และ แตกแล้วโต "