ตอบ ก่อนอื่นต้องขอเรียนให้ทราบว่า เป็นแนวความคิดเห็นส่วนตนเพื่อการศึกษาข้อกฏหมายจากเหตุการณ์จริงและเพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่เพื่อนสมาชิกเท่านั้น มิใช่เป็นการชี้นำหรือซ้ำเติมฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะต้องเป็นไปตามกระบวนการของกฏหมาย ที่ทางตำรวจท้องที่กำลังหาสาเหตุและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการให้เกิดความยุติธรรมทั้งสองฝ่าย
จากเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนบุกยิงเจ้าของเต๊นท์รถขณะยืนคุยกับลูกค้าหน้าร้าน จนได้รับบาดเจ็บและวิ่งหนีเข้าไปในสำนักงานจากนั้นเจ้าของเตีนท์รถคนดังกล่าวได้นำอาวุธปืนขนาด 9 มม.มาไล่ยิงคนร้ายที่กำลังจะหลบหนีโดย จยย.ที่จอดอยู่หน้าร้านเกิดเหตุแต่สตาร์ทไม่ติด จนเสียชีวิต ตามภาพ CCTV
เรื่องนี้สำหรับสมาชิก 105UNIT ต้องมอง 2 กรณี
1.มองตามข้อกฏหมาย
1.1หลักกฏหมาย ตามประมวลกฏหมายอาญา
มาตรา 59 บุคคลจะต้องรับผิดในทางอาญาก็ต่เมื่อได้กระทำโดยเจตนา ฯ
มาตรา 68 ผู้ใดจำต้องกระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิของตนหรือของผู้อื่น ให้พ้นภยันตรายวึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฏหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าได้กระทำพอสมควรแก่เหตุ การกระทำนั้นเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฏหมาย ผู้นั้นไม่มีความผิด
มาตรา 72 ผู้ใดบันดาลโทสะ โดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงกระทำต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้น ศาลจะลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าที่กฏหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้
มาตรา 288 ผู้ใดฆ่าผู้อื่น ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ สิบห้าปีถึงยี่สิบปี
1.2 ข้อเท็จจริง และพิจารณาประกอบตามหลักกฏหมาย
จากกรณีดังกล่าว มีคนร้ายก่อเหตุไล่ยิงหมายเอาชีวิตจริง ซึ่งหากผู้เสียหายชักปืนยิงต่อสู้ในทันทีทันใดตรงนั้นอย่างนี้สามารถ อ้างป้องกันตาม มาตรา 68 ผู้นั้นไม่มีความผิด
แต่จากเหตุการณ์ดังกล่าว เหตุคนร้ายไล่ยิงจบแล้ว และกำลังจะหลบหนี ผู้เสียหายวิ่งไปคว้าปืนที่อยู่ในสำนักงานห่างออกไปประมาณ 3-5 เมตร และกลับออกมาเล็งปืนและยิงไปที่คนร้ายหมายเอาชีวิตเช่นกัน อย่างนี้ อ้างป้องกันไม่ได้เพราะเหตุจบลงแล้วเพียงแต่ เป็นการต่อเนื่องในการหลบหนีของคนร้ายเท่านั้น อย่างนี้เชื่อได้ว่าผู้เสียหายได้กระทำไปโดยความเจ็บปวดที่ถูกยิงจากการกระทำที่ผิดกฏหมายด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงกระทำต่อผู้ก่อเหตุนั้น(จากภาพ) อย่างนี้ มองว่าเป็นบันดาลโทสะ ตามมาตรา72 ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฏหมายกำหนดไว้เพียงใดก็ได้
2.มองตามยุทธวิธี ของ 105UNIT
2.1 ขณะยืนในระยะประชิดนั้น หากวิ่งโดนยิงแน่นอน แต่จากภาพเห็นได้ว่าคนร้ายพอมีคุณธรรมเล็กๆเพราะไม่ยิงลูกค้าที่เจ้าของใช้หลบแอบวิถีกระสุน หากเป็นมือสังหารอย่างนี้เชื่อว่าเสียชีวิตทั้งสองคน
(หวังว่าคงยังจำท่าการฝึกปลดอาวุธในระยะประชิดได้น่ะครับ )
2.2 การออกคำสั่ง หากผ่านการฝึกเชื่อว่าคงจะต้องหลบเข้าที่กำบังก่อน ดีกว่าไปยืนยิงในช่องทางระหว่างรถแบบนั้น จากนั้นยิงพอสมควรแก่เหตุและออกคำสั่งตามที่ได้รับการฝึกไปแล้ว ท่านก็จะเป็นผู้ชนะทั้งการต่อสู้และข้อกฏหมาย
( หยุด วางปืนลง หากต่อสู้ยิงตามจังหวะเหมือนการฝึก อย่างนี้ชนะแน่นอน )
สุดท้าย บางท่านอาจคิดว่า มันยิงเรา มันเข้าบ้านเรา ยิงมันให้ตาย มันต้องตาย ถ้าคิดอย่างนี้เราก็ไม่ต่างอะไรจากพวกมัน ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีสถานศึกษา หมดสิ้นความศรัทธาในศาสนา กฏหมายไร้ความศักดิ์สิทธิ บ้านเมืองลุกเป็นไฟ แต่หากเราได้รับการฝึก และกระทำเพื่อป้องกันตามสิทธิและสถานการณ์แล้ว นี่คือ 105UNIT
ถ้าสร้างไม่ได้ ก็จงอย่าทำลาย
ขอให้สมาชิกทุกท่านจงตั้งมั่นอยู่บนความไม่ประมาท ก่อนนอนตรวจดูรอบอาคาร ยานพาหนะ แม้กระทั่งปลั๊กไฟ เตารีด เตาแก๊ส ให้เรียบร้อย สวสัดีครับ
รักทุกคนเลย..........
พ.ต.ท.เชี่ยววิทย์ ศรีวิเชียร
รอง ผู้กำกับการ 3 กองปราบปรามฯ คุ้มครองผู้บริโภค
จากกระทู้ในเว็บนี้ครับ
http://105unit.com/2009/board/view.php?qid=904