เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 09, 2024, 04:21:22 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: การรักษาเนื้อไม้และซ่อมแซมการแตกร้าวของพานท้ายปืนด้วยอีพ๊อกซี่  (อ่าน 9478 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 5 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
pramuan
ไม่เคืองแค้นน้อยใจในโชคชะตา ไม่เสียดายชีวาถ้าสิ้นไป
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 19
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 305


จักยอมตายหมายให้เกีรติดำรงจะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา


« เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2011, 01:46:58 PM »

                สวัสดีสำหรับทุกท่านที่เบื่อปัญหา ปืนของท่านที่เป็นไม้ที่ใช้ไปนานๆ จะเกิดอาการอมน้ำมัน ทำให้พานท้ายไม้ไม่แสดงลายไม้ที่สวยงามออกมา   จะหันไปพึ่งเลคเกอร์ก็มีข้อจำกัดว่าเลคเกอร์ไม่สามารถทนต่อความร้อน และเป็นรอยขีดข่วนได้ง่าย อีกทั้งยังไม่สามารถรับแรงกระแทกรองรับงานหนักไม่ได้ถ้ากระแทกก็จะเป็นรอยแตกให้เห็นเป็นรอยที่ฝังลึกบนปืนของท่านทำให้ของที่มีคุณค่าที่สุดกลับกลายเป็นปืนที่หาความสวยไม่ได้ เศร้า
                บางท่านที่เป็นคนชอบลุย แบกปืนเข้าป่า นอนกอดกลางดิน  หากินกับปืนบนพื้นทราย  ไปไหนไปกัน ค่ำไหนนอนนั่น  เลคเกอร์ไม่ใช่ทางออกแน่นอน เพราะไม่ทนต่อสภาพอากาศ และการใช้งาน  น้ำ  ความชื้น ก็จะเริ่มทำงานของมัน คือย่อยสลายอินทรีย์สารทั้งหลายสุดท้ายถ้าปืนของเราไม่เป็นแท่งเพาะเห็ดฟาง ก็เป็นหนุ่มหล่อที่หน้าตาไม่หล่อ  บางครั้งใช้แลคเกอร์เคลือบมันก็ลื่น เวลายิงทำให้ท่ายิงไม่มั่นคง   เวลาถือเดินป่า ปืนที่ลื่นมือจะทำให้เราต้องใช้แรงมากกว่า อีกทั้งยังไม่ตอบสนองการยิงแบบฉับพลัน
เรามันรักษาเนื้อโลหะด้วยน้ำมัน แต่เราจะรักษาเนื้อไม้ด้วยอะไร ที่จะไปกับเราได้ทุกที่ และยังคงความสง่างามไว้ได้เป็นอย่างดี
                 สำหรับท่านที่มีปืนเก่าแก่ เป็นมรดกตกทอดมาช้านาน  แต่ด้วยกาลเวลาทำให้เกิดการชำรุด แตกร้าว  หรือ อมน้ำมันจนเนื้อไม้เป็นขุย หมดความสวยงาม แต่ยังคงคุณค่าทางจิตใจ  หรือเป็นตัวแทนของใครบางคนที่จากเราไปแล้ว (อย่างที่ผมเก็บปืนไว้ดูต่างหน้าบรรพบุรุษ) ตอนนี้ผมมีทางออกสำหรับปัญหาเหล่านี้มาน้ำเสนอด้วยการผสมผสานเทคนิกการเคลือบผิวด้วยอีพีอกซีที่สามารถเคลือบ ให้เกิดความเงางาม  เคลือบหนาได้ถึง 4 mm  อีกทั้งยังมีคุณสมบัติเป็นกาวแรงยึดสูง ช่วยยึดไม้ที่แตกจากกัน ให้กลับมารับแรงถอยได้ดีเหมือนเดิมโดยไม่ต้องเปลี่ยนพานท้ายใหม่  อีกทั้งยังเป็นช้นพลาสติกหนาที่คอยปกป้องเนื้อไม้จากน้ำมันและความชื้น  แต่กลับดูแลให้เงางามได้ง่ายอย่างเหลือเชื่อ
ตัวอย่างสำหรับชิ้นส่วนไม้ที่เคลือบด้วยอีพ๊อกซี่


* 1911.jpg (86.68 KB, 680x719 - ดู 3122 ครั้ง.)

* เมาเซอร์.jpg (28.34 KB, 693x477 - ดู 3196 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 01, 2011, 05:29:49 PM โดย pramuan » บันทึกการเข้า

กระสุนปืนใหญ่ของไทยตกที่ใด   ที่นั่นคือถิ่นไทย
pramuan
ไม่เคืองแค้นน้อยใจในโชคชะตา ไม่เสียดายชีวาถ้าสิ้นไป
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 19
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 305


จักยอมตายหมายให้เกีรติดำรงจะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา


« ตอบ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2011, 05:29:07 PM »

   ตัวอย่างเปรียบเทียบระหว่างแล็กเกอร์ที่พ่นมาจากโรงงาน  และการเคลือบขับลายไม้ด้วยอีพ๊อกซี่

บันทึกการเข้า

กระสุนปืนใหญ่ของไทยตกที่ใด   ที่นั่นคือถิ่นไทย
pramuan
ไม่เคืองแค้นน้อยใจในโชคชะตา ไม่เสียดายชีวาถ้าสิ้นไป
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 19
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 305


จักยอมตายหมายให้เกีรติดำรงจะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา


« ตอบ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2011, 05:34:00 PM »

ตัวอย่างการเคลือบทับรอยแตกบนพานท้าย   คุณจะมองเห็นสีเข้มต่อจากแนวสะท้อนของหลอดไฟด้านขวา นั่นคือรอยแตกของเนื้อไม้ที่เกิดจากแรงถอยมหาศาลของลูกซองเบอร์ 12 ซึ่งเป็นปืนเก่าแก่ที่ใช้งานมาโชกโชนแต่เมื่อถูกซ่อมด้วยอีพ๊อกซีแล้วแทบจะบอกไม่ได้เลยว่ามันแตก และก็ยังใช้ยิงได้เป็นปรกติ ยิ้มีเลศนัย


* การเคลือบทับรอยแตก.jpg (51.76 KB, 800x600 - ดู 1482 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 01, 2011, 05:38:57 PM โดย pramuan » บันทึกการเข้า

กระสุนปืนใหญ่ของไทยตกที่ใด   ที่นั่นคือถิ่นไทย
pramuan
ไม่เคืองแค้นน้อยใจในโชคชะตา ไม่เสียดายชีวาถ้าสิ้นไป
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 19
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 305


จักยอมตายหมายให้เกีรติดำรงจะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา


« ตอบ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2011, 06:27:35 PM »

      เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า  เมื่อประมาณสามปีก่อน ผมก็อายุน้อยกว่านี้ 3 ปี ขำก๊าก   ขำก๊าก อืม ผมก็เป็นเหมือนคนทั่วไปที่ชอบยิงนก ตกปลา หาความตื่นเต้นให้ชีวิต  ผมก็ชอบตกปลา  วันหนึ่งก็นั่งตกปลาไปเพลินๆ ประกอบกับอยู่คนเดียวก็เลยมีเวลาคิดอะไรมากมาย(นักตกปลาเขารู้กันว่าช่วงเวลาที่ตื่นเต้นที่สุด 1วัน อาจมีแค่1นาที)ปลาไม่กินเบ็ดก็คอย  มองไปเห็นคันเบ็ดคันโปรดก็นึกโมโหในใจประมาณว่า "แม่ง...คันเบ็ดก็ซื้อมาตังแพง เคลือบคันอย่างดี แต่ทำไมสู้เบ็ดไม้ใผ่ไม่ใด้วะ" นึกไปก็โมโหไป   คิดไปเรื่อยๆ ก็ต้องหาทางออกให้ความคิด  ก็เลยคิดว่า แหมถ้าคันเบ็ดคันโปรดไม่ได้เคลือบด้วยอีพ๊อกซีไว้คงขึ้นราคงใช้งานไม่ได้นานอย่างนี้  ก็เลยมานึกถึงอีพ๊อกซี่ว่ามันมีบุญคุณกับผมจริงๆ ในห้วงความคิดก็เลยซูมมาที่อีพ๊อกซี่  จากนั้นก็เริ่มหันมามองที่คุณสมบัติว่าทำไมนักตกปลาทั่วโลกจึงนิยมใช้วัสดุชนิดนี้มารักษาไม้ก็อกที่คันเบ็ด  แล้วทำไมเขาไม่ใช้อย่างอื่นล่ะผมก็เลยไปลองหาวัสดุชนิดอื่นมาเคลือบเพื่อดูผลกระทบที่เกิดขึ้นเมื่อเปลี่ยนวัสดุ ก็เลยหาวัสดุชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า "อีพ๊อกซีเรซิน"เกรดเคลือบแข็ง  ก็เลยลองเอามาเคลือบคันเบ็ดดู  ผลปรากฏว่า มองภายนอกแทบไม่ต่างกันเลย แถมเงางามกว่าด้วย แถมราคาถูกกว่า  ขำก๊ากก็เลยหัวเราะดีใจว่าเราได้ค้นพบอะไรบางอย่างเข้าแล้ว ด้วยความโง่เขลา ก็เลยเที่ยวไปอวดชาวบ้านเขาไปทั่ว ก็เลยจัดทริปยิงนกตกปลาที่เขื่อนแห่งหนึ่งไปกันหลายคน  คันเบ็ดของเรา เงางามกว่าเพื่อน แถมอวดเขา้ด้วยว่า "ก็ลองเอาเล็บจิกดูซิว่าแข็งขนาดไหน จิกไม่เข้าเลยรับประกัน"ทุกคนก็อึ้งหมดเลยแล้วมันก็ผ่านไป
     หลังจากรอคอยก็ถึงเวลาเย่อแล้วตัวกำลังเหมาะคันเบ็ดทำหน้าที่ของมันแล้ว  ดึงไปไม่นานก็ได้ยินเสียงกร๊อบที่ด้าม มันร้าว  พอดึงปลาขึ้นได้ก็เก็บของอย่างทันควันด้วยความอายเพื่อนๆเพราะโม้ไว้มาก ไม่มีใครรู้่ว่าทำไมผมจึงรีบนั่งเรือกลับด้วยอารมณ์โมโหทันที  ยกเว้นผมคนเดียว งอน มันจึงเป็นชนวนให้ทำการศึกษาคุณสมบัติของอีพ๊อกซี่อย่างรุนแรง ยิ้มีเลศนัย
บันทึกการเข้า

กระสุนปืนใหญ่ของไทยตกที่ใด   ที่นั่นคือถิ่นไทย
Phitsanawat
Hero Member
*****

คะแนน 556
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1143


1 นัดที่เหนี่ยวไก จงเตรียมใจกับสิ่งที่จะตามมา


« ตอบ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2011, 07:36:38 PM »

เห็นส่วนมาก ใช้true oil ขับลายไม้ขึ้นสวย

ว่าแต่มี อีพ๊อกซี่ ที่เคลือบแบบด้านๆ ไหมครับ ไหว้ ไหว้
บันทึกการเข้า

sitta.
Hero Member
*****

คะแนน 488
ออฟไลน์

กระทู้: 7275


« ตอบ #5 เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2011, 08:07:44 PM »

      เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า  เมื่อประมาณสามปีก่อน ผมก็อายุน้อยกว่านี้ 3 ปี ขำก๊าก   ขำก๊าก อืม ผมก็เป็นเหมือนคนทั่วไปที่ชอบยิงนก ตกปลา หาความตื่นเต้นให้ชีวิต  ผมก็ชอบบตกปลา  วันหนึ่งก็นั่งตกปลาไปเพลินๆ ประกอบกับอยู่คนเดียวก็เลยมีเวลาคิดอะไรมากมาย(นักตกปลาเขารู้กันว่าช่วงเวลาที่ตื่นเต้นที่สุด 1วัน อาจมีแค่1นาที)ปลาไม่กินเบ็ดก็คอย  มองไปเห็นคันเบ็ดคันโปรดก็นึกโมโหในใจประมาณว่า "แม่ง...คันเบ็ดก็ซื้อมาตังแพง เคลือบคันอย่างดี แต่ทำไมสู้เบ็ดไม้ใผ่ไม่ใด้วะ" นึกไปก็โมโหไป   คิดไปเรื่อยๆ ก็ต้องหาทางออกให้ความคิด  ก็เลยคิดว่า แหมถ้าคันเบ็ดคันโปรดไม่ได้เคลือบด้วยอีพ๊อกซีไว้คงขึ้นราคงใช้งานไม่ได้นานอย่างนี้  ก็เลยมานึกถึงอีพ๊อกซี่ว่ามันมีบุญคุณกับผมจริงๆ ในห้วงความคิดก็เลยซูมมาที่อีพ๊อกซี่  จากนั้นก็เริ่มหันมามองที่คุณสมบัติว่าทำไมนักตกปลาทั่วโลกจึงนิยมใช้วัสดุชนิดนี้มารักษาไม้ก็อกที่คันเบ็ด  แล้วทำไมเขาไม่ใช้อย่างอื่นล่ะผมก็เลยไปลองหาวัสดุชนิดอื่นมาเคลือบเพื่อดูผลกระทบที่เกิดขึ้นเมื่อเปลี่ยนวัสดุ ก็เลยหาวัสดุชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า "อีพ๊อกซีเรซิน"เกรดเคลือบแข็ง  ก็เลยลองเอามาเคลือบคันเบ็ดดู  ผลปรากฏว่า มองภายนอกแทบไม่ต่างกันเลย แถมเงางามกว่าด้วย แถมราคาถูกกว่า  ขำก๊ากก็เลยหัวเราะดีใจว่าเราได้ค้นพบอะไรบางอย่างเข้าแล้ว ด้วยความโง่เขลา ก็เลยเที่ยวไปอวดชาวบ้านเขาไปทั่ว ก็เลยจัดทริปยิงนกตกปลาที่เขื่อนแห่งหนึ่งไปกันหลายคน  คันเบ็ดของเรา เงางามกว่าเพื่อน แถมอวดเขา้ด้วยว่า "ก็ลองเอาเล็บจิกดูซิว่าแข็งขนาดไหน จิกไม่เข้าเลยรับประกัน"ทุกคนก็อึ้งหมดเลยแล้วมันก็ผ่านไป
     หลังจากรอคอยก็ถึงเวลาเย่อแล้วตัวกำลังเหมาะคันเบ็ดทำหน้าที่ของมันแล้ว  ดึงไปไม่นานก็ได้ยินเสียงกร๊อบที่ด้าม มันร้าว  พอดึงปลาขึ้นได้ก็เก็บของอย่างทันควันด้วยความอายเพื่อนๆเพราะโม้ไว้มาก ไม่มีใครรู้่ว่าทำไมผมจึงรีบนั่งเรือกลับด้วยอารมณ์โมโหทันที  ยกเว้นผมคนเดียว งอน มันจึงเป็นชนวนให้ทำการศึกษาคุณสมบัติของอีพ๊อกซี่อย่างรุนแรง ยิ้มีเลศนัย

อีพอกซี่เหมือนเรซินไหมครับ มีส่วนผสม2ส่วน ตัวยึดกับตัวเร่งแห้ง
เมื่อแห้งแล้วจะแข็งเปราะ มีแรงยึดสูง ถ้างอจะมีรอยร้าว
ทำให้ความชื้นเข้าไปได้  มีกลิ่นเหม็น

ถ้าใช้กับหนังอาจทำให้หนังแข็งกรอบได้
ปัจจุบันมีสีแบบอิมพอกซี่ นิยมใช้พ่นเคลือบผิวกระบะป้องกันรอย
กันชนหลังรถผมก็พ่นด้วยสีอิมพอกซี่

ยังไม่เคยเจอแบบงอได้ครับ

บันทึกการเข้า
pramuan
ไม่เคืองแค้นน้อยใจในโชคชะตา ไม่เสียดายชีวาถ้าสิ้นไป
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 19
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 305


จักยอมตายหมายให้เกีรติดำรงจะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา


« ตอบ #6 เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2011, 08:29:59 PM »

      เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า  เมื่อประมาณสามปีก่อน ผมก็อายุน้อยกว่านี้ 3 ปี ขำก๊าก   ขำก๊าก อืม ผมก็เป็นเหมือนคนทั่วไปที่ชอบยิงนก ตกปลา หาความตื่นเต้นให้ชีวิต  ผมก็ชอบบตกปลา  วันหนึ่งก็นั่งตกปลาไปเพลินๆ ประกอบกับอยู่คนเดียวก็เลยมีเวลาคิดอะไรมากมาย(นักตกปลาเขารู้กันว่าช่วงเวลาที่ตื่นเต้นที่สุด 1วัน อาจมีแค่1นาที)ปลาไม่กินเบ็ดก็คอย  มองไปเห็นคันเบ็ดคันโปรดก็นึกโมโหในใจประมาณว่า "แม่ง...คันเบ็ดก็ซื้อมาตังแพง เคลือบคันอย่างดี แต่ทำไมสู้เบ็ดไม้ใผ่ไม่ใด้วะ" นึกไปก็โมโหไป   คิดไปเรื่อยๆ ก็ต้องหาทางออกให้ความคิด  ก็เลยคิดว่า แหมถ้าคันเบ็ดคันโปรดไม่ได้เคลือบด้วยอีพ๊อกซีไว้คงขึ้นราคงใช้งานไม่ได้นานอย่างนี้  ก็เลยมานึกถึงอีพ๊อกซี่ว่ามันมีบุญคุณกับผมจริงๆ ในห้วงความคิดก็เลยซูมมาที่อีพ๊อกซี่  จากนั้นก็เริ่มหันมามองที่คุณสมบัติว่าทำไมนักตกปลาทั่วโลกจึงนิยมใช้วัสดุชนิดนี้มารักษาไม้ก็อกที่คันเบ็ด  แล้วทำไมเขาไม่ใช้อย่างอื่นล่ะผมก็เลยไปลองหาวัสดุชนิดอื่นมาเคลือบเพื่อดูผลกระทบที่เกิดขึ้นเมื่อเปลี่ยนวัสดุ ก็เลยหาวัสดุชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า "อีพ๊อกซีเรซิน"เกรดเคลือบแข็ง  ก็เลยลองเอามาเคลือบคันเบ็ดดู  ผลปรากฏว่า มองภายนอกแทบไม่ต่างกันเลย แถมเงางามกว่าด้วย แถมราคาถูกกว่า  ขำก๊ากก็เลยหัวเราะดีใจว่าเราได้ค้นพบอะไรบางอย่างเข้าแล้ว ด้วยความโง่เขลา ก็เลยเที่ยวไปอวดชาวบ้านเขาไปทั่ว ก็เลยจัดทริปยิงนกตกปลาที่เขื่อนแห่งหนึ่งไปกันหลายคน  คันเบ็ดของเรา เงางามกว่าเพื่อน แถมอวดเขา้ด้วยว่า "ก็ลองเอาเล็บจิกดูซิว่าแข็งขนาดไหน จิกไม่เข้าเลยรับประกัน"ทุกคนก็อึ้งหมดเลยแล้วมันก็ผ่านไป
     หลังจากรอคอยก็ถึงเวลาเย่อแล้วตัวกำลังเหมาะคันเบ็ดทำหน้าที่ของมันแล้ว  ดึงไปไม่นานก็ได้ยินเสียงกร๊อบที่ด้าม มันร้าว  พอดึงปลาขึ้นได้ก็เก็บของอย่างทันควันด้วยความอายเพื่อนๆเพราะโม้ไว้มาก ไม่มีใครรู้่ว่าทำไมผมจึงรีบนั่งเรือกลับด้วยอารมณ์โมโหทันที  ยกเว้นผมคนเดียว งอน มันจึงเป็นชนวนให้ทำการศึกษาคุณสมบัติของอีพ๊อกซี่อย่างรุนแรง ยิ้มีเลศนัย

อีพอกซี่เหมือนเรซินไหมครับ มีส่วนผสม2ส่วน ตัวยึดกับตัวเร่งแห้ง
เมื่อแห้งแล้วจะแข็งเปราะ มีแรงยึดสูง ถ้างอจะมีรอยร้าว
ทำให้ความชื้นเข้าไปได้  มีกลิ่นเหม็น

ถ้าใช้กับหนังอาจทำให้หนังแข็งกรอบได้
ปัจจุบันมีสีแบบอิมพอกซี่ นิยมใช้พ่นเคลือบผิวกระบะป้องกันรอย
กันชนหลังรถผมก็พ่นด้วยสีอิมพอกซี่

ยังไม่เคยเจอแบบงอได้ครับ


555 มันก็แค่แก้เหงาระหว่างที่รอดูความล้มเหลวของ HP200 ว่ามันจะล้มลงอีท่าไหนครับ สำหรับแนวคิดเชิญติดตามครับพี่ ยิ้มีเลศนัย
บันทึกการเข้า

กระสุนปืนใหญ่ของไทยตกที่ใด   ที่นั่นคือถิ่นไทย
pramuan
ไม่เคืองแค้นน้อยใจในโชคชะตา ไม่เสียดายชีวาถ้าสิ้นไป
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 19
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 305


จักยอมตายหมายให้เกีรติดำรงจะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา


« ตอบ #7 เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2011, 09:04:40 PM »

                ครับตอนแรกก็คิดว่าอย่างนั้นแหละครับ  คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ ก็เลยหมด อีพ๊อกซี่  H-29 ไปหลายลิตร เศร้าเข้าเรื่องเลยดีกว่าจะครับ

                       สำหรับเบ็ดตกปลาความสำคัญอย่างหนึ่งของความแข็งแรงอยู่ที่แอ๊คชันของคัน มันต้องโค้งงอได้ทุกส่วนของคันถ้าแข็งทื่อจุดใดจุดหนึ่งมันก็จะหักครับ ถ้าใครเคยตกปลาก็จะนึกออก ยิ่งถ้าใครเคยทำคันเบ็ดหักคามือก็จะยิ่งชัดเจนครับ  นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เขาเลือกใช้ไม้ก๊อกมาทำด้ามจับ เนื่องจากไม้ชนิดนี้สามารถยืดหยุ่นตัวได้เพื่อให้รักษาแอ๊คชันของคันเบ็ดไว้  (คงสังเกตุได้ว่าด้ามเบ็ดเขาจะไม่ใช้ บีช มาฮอกกานีครับ)
                       แต่ไม้ก๊อกเองก็เป็นวัสดุช่างที่ไม่มีความแข็งแรง ไม่ทนต่อความชื้นเพื่อรักษาคุณสมบัติของก๊อกไว้จึงมีอีพ๊อกซี่สูตรพิเศษ  ที่นักตกปลารู้จักกันดีข้อดีของอีพ๊อกซีสูตรนี้คือ
1. ไม่ทำให้แอคชันของเบ็ดเปลี่ยนแปลง
2. ป้องกันก๊อกจากความชื้น เชื่อรา และทำให้ทำความสอาดง่ายขึ้น
3. ไม่แตกร้าวเมื่อโกงงอ(ในระดับของเบ็ดตกปลาครับ ซึ่งมากมาย)
4.  ทนสภาพอากาศได้พอสมควร(ก็คิดดูแล้วกันครับ เบ็ดตกปลาตากแดดทั้งวัน)
5.  เงางาม
6.  ดูแลทำความสะอาดให้เงางามได้ง่ายเพียงล้างด้วยน้ำยาล้างจานจากนั้นก็ขัดด้วยสำลีก็จะเงางามเหมือนเดิม
7.  สามารถคืนสภาพได้เล็กน้อยถ้าถูกกระแทกจากของไม่มีคม(มีคุณสมบัติของยางตลอดอายุกการใช้งานครับ)
8.  ไม่ลื่นมือแม้เปียกน้ำ
9.  ลืมไปครับ มันมีคุณสมบัติเป็นกาวครับแรงยึดสูงมาก ผมเคยลองเอาไม้พี้นที่หน้าตัด1ตรซม.มาต่อกันด้วยอีกพ๊อกซีชนิดนี้เพื่อทดสอบแรงยึดจากนั้นก็เอาถังสีขนาดใหญ่มามัดนำไปแขวนจากนั้นค่อยเติมน้ำเข้าไป เติมจนเต็ม(20 ลิตร)มันก็ไม่หลุดออกจากกันครับ แต่เชือกที่แขวนนั้นขาดก่อน เศร้า
  แต่ก็มีข้อเสียนะครับ
1. ไม่สามารถโพลิชชิ่งได้  มันไม่เหมือนกับสี ขัดไม่ได้ เพราะขัดอย่างไรก็ไม่เงา  การทำให้เงาต้องอาศัยเทคนิคในการขึ้นรูปตอนแรกเท่านั้น เพราะฉะนั้นถ้าขึ้นรูปผิดพลาดต้องรื้อทำใหม่อย่างเดียว(หนึ่งกระบอกต้องทำหลายครั้งมากจึงจะได้ดีที่สุด)
2. ระยะเวลาในการเซตตัวนานถึง 3 วันครับ ในช่วง 12 ชั่วโมงแรกมันจะเป็นของเหลวตลอดเวลาบทมันจะเซ็ตตัวมันก็จะร้อนและแข็งตัวขึ้นมาที่ละนิด ส่งผลให้ไม่สามารถพ่นเคลือบได้  สำหรับเบ็ดตกปลาต้องเอาแรง g มาช่วยคือเ่อาเทลงบนคันเบ็ดให้เรียบเสมอกัน  จากนั้นก็หมุน หมุนไปเรื่อยๆ 12hr ก็จะได้ผิวที่เงางามและไม่ลื่นมือครับ


     ทั้งข้อดีข้อเสียชี้แจงแล้วนะครับ สำหรับสูตรนี้มีบริษัทนำเข้ามาหลายบริษัทจากอเมริกันเขาโน้นครับ แต่เบรนที่ผมชอบที่สุด(เมื่อสามปีที่แล้ว)คือ ST&Z ของ สยามแทคเคิล แอนด์ซูโลจิคอล จำกัด เพราะขึ้นรูปยากสุดๆ แต่คุณสมบัติรับประกันได้จากนักตกปลาทั่วประเทศครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 01, 2011, 09:11:05 PM โดย pramuan » บันทึกการเข้า

กระสุนปืนใหญ่ของไทยตกที่ใด   ที่นั่นคือถิ่นไทย
pramuan
ไม่เคืองแค้นน้อยใจในโชคชะตา ไม่เสียดายชีวาถ้าสิ้นไป
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 19
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 305


จักยอมตายหมายให้เกีรติดำรงจะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา


« ตอบ #8 เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2011, 09:38:27 PM »

              ด้วยคุณสมบัติเหล่านั้นผมเห็นว่ามันเหมาะสมกับปืนมากเนื่องจากความสามารถในการรักษาเนื้อไม้ เงางาม ไม่ลื่นมือ อีกทั้งยังเป็นกาวแรงยึดสูงอีกด้วย  แต่การขึ้นรูปมันไม่ง่ายครับเพราะว่าปืนมันไม่เป็นทรงกระบอกกลมเหมือนเบ็ดครับมันหมุนไ่ม่ได้   ในกระท่อมกลางป่าอันเงียบสงีดก็เลยใช้เวลาประมาณ 10 เดือนในการคิดกรรมวิธีในการขึ้นรูปวัสดุนี้ให้เงางามบนพานท้ายและด้ามปืน แต่ก็นานมาแล้ว นานจนลืมครับ  ก็นำไปโชว์ที่ร้านปืนใกล้บ้าน มีคนแวะเวียนมาให้ทำอยู่เรื่อยๆแต่ก็เป็นเพื่อนๆกันครับ ก็พอจะสรุปกรรมวิธีการผลิตคร่าวๆได้ดังนี้ครับ
1. เตรียมผิวให้แห้งปราศจากไขมันและความชื้นครับ(แต่ปืนที่เอามาให้ทำส่วนมาเป็นปืนเก่าที่อมน้ำมันแล้ว ก็ต้องใช้สารเคมีล้างให้สะอาดมากๆ มากๆ ถ้าล้างแล้วไม่สะอาดก็ต้องขัดครับ)
2. นำชิ้นงานมาเคลือบชั้นแรกด้วยการทาครับ  จากนั้นก็นำชิ้นงานเข้าสู่ตู้สูญญากาศ ดูดอากาศออกให้หมดทิ้งไว้ประมาณ 3 ชัวโมง ก็เอาออกมา แรงดันที่เปลี่ยนไปเมื่อตอนเอาออกมาจะทำให้อีพ๊อกซี่ถูกอัดเข้าไปในเนื้อไม้ด้วยแรงดันบรรยากาศครับ ทำให้เกิดชั้นฟีลม์บางๆในเนื้อไม้ซึ่งแข็งแรงมากเนื่องจากมีเนื้อไม้เป็นโครงสร้างครับ
3. จากนั้นก็นำมาเข้าเครื่องมือพิเศษเพื่อขึ้นรูปอีพ๊อกซีให้ได้รูปตามต้องการ ทิ้งไว้3-5 วันจึงนำออกจากเครื่อง
4. จากนั้นก็ทำการเก็บรายละเอียดต่างๆครับ โดยเฉพาะฟองอากาศ จะใช้เข็มขนาดเล็กมาก(เล็กที่สุดเท่าที่จะหาได้ในประเทศไทยครับ)ฉีดอีพ๊อกซี่เข้าไปในฟองอากาศด้วยแรงดันสูงที่หลงเหลือจากเครื่องมันสร้างปัญหาไว้ให้  ก็จะไ้ด้ชิ้นงานตามภาพที่แสดงไปครับ(แต่ว่าเปลืองเข็มมากและต้องดูแลเหมือนลูกเลย 5วันแทบไม่คลาดสายตา)
           ผมไม่ค่อยได้ทำให้ใครมากมายเพราะไม่ค่อยมีเวลาครับ ถ้าจะทำต้องรู้ว่า 5 วันนั้นต้องมีเวลากลับมาบ้านทุกชั่วโมง เวลานอนก็นาฬิกาปลุกครับ ทรมานจริง แต่ทุกกระบอกของผม และเพื่อนทุกคนที่ทำไปไม่มีข้อตำหนิอะไร(มันอาจไม่กล่าว่าเพราะมันทำฟรีครับ ขำก๊าก)  ของผมเองก็ทำบุกป่าผ่าดง ตากแดดฝน  กลับบ้านมาก็แค่ขโมยน้ำยาล้างจากของแม่บ้าน มาล้าง แล้วก็นำสำลีมาเช็ด  ก็มีสภาพอย่างที่เห็นครับ 
           มันเป็นงานฝีมือโดยแท้ครับ ทดสอบเราทุกอย่างทั้งความอดทน และอื่นๆอีกมากมายครับ ยิ้มีเลศนัยเอามาเล่าให้ฟังถึงเรื่องตื่นเต้นที่เคยเกิดขึ้นตลอดระยะเวลา 10เดือนแห่งการพัฒนาเมื่อสามปีที่แล้วครับ ไหว้
บันทึกการเข้า

กระสุนปืนใหญ่ของไทยตกที่ใด   ที่นั่นคือถิ่นไทย
pramuan
ไม่เคืองแค้นน้อยใจในโชคชะตา ไม่เสียดายชีวาถ้าสิ้นไป
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 19
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 305


จักยอมตายหมายให้เกีรติดำรงจะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา


« ตอบ #9 เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2011, 09:49:24 PM »

เห็นส่วนมาก ใช้true oil ขับลายไม้ขึ้นสวย

ว่าแต่มี อีพ๊อกซี่ ที่เคลือบแบบด้านๆ ไหมครับ ไหว้ ไหว้
  ครับ อีพอกซี่สามารถสร้างผิวได้หลายแบบทั้งเทคนิคการกัดผิวด้วยสารเคมีทำให้เกิดผิวด้าน  และการขึ้นรูปด้วยเครื่องมือพิเศษให้เกิดผิวตามต้องการครับ  ไม่ใช่แค่นั้นนะครับ  ยังสามารถผสมสีเข้าไปเพื่อให้เกิดลายไม้ที่มีความสว่างตามความต้องการได้ด้วย ไม้บางชนิดลายมันสวย แต่มันซีด ไม่มีมิติ เราก็สามารถใช้หลักการทางศีลปะมาช่วยให้เกิดโทนสีที่เราต้องการครับ  ตัวอย่างเช่น  ปืนเมาเซอร์  ด้านบนครับ มันเป็นปืนใหม่ แต่ผมยากทำให้ด้ามจับมันดูเก่าครับ  ก็เลยละเลงสีลงไป มันก็เลยดูเก่าได้สะใจผมมาก ก็อย่างที่เห็น   
               ไม่ใช่แค่นั้นเรายังสามารถผสมทาวคัมชนิดต่างลงไปเพื่อให้เกิดผิวไหม่ที่แตกต่าง เช่นถ้าผสมทาวคั่มดำลงไป เคลือบออกมา จากปืนที่เป็นไม้และมีรอยชำรุดแตกร้าวหรือแตกจนชิ้นส่วนหายไปเลย  กลับกลายเป็นสต๊อกที่ดูเหมือนแคฟล่าก็ยังได้เลยครับ
               เคยเห็นที่พิชัยเขาตีเหล็กน้ำพี้กันผมยังเคยน้ำผงแร่เหล็กน้ำพี่มาทำทาวคั่มออกมากลายเป้นหินไปเลยครับ ยิ้มีเลศนัย
บันทึกการเข้า

กระสุนปืนใหญ่ของไทยตกที่ใด   ที่นั่นคือถิ่นไทย
pramuan
ไม่เคืองแค้นน้อยใจในโชคชะตา ไม่เสียดายชีวาถ้าสิ้นไป
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 19
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 305


จักยอมตายหมายให้เกีรติดำรงจะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา


« ตอบ #10 เมื่อ: กรกฎาคม 01, 2011, 09:51:16 PM »

 ไหว้ ไหว้แต่บอกไว้ก่อนนะครับเคลือบบางไม่ได้ แรงตึงผิวมันน้อยครับ ต้อง 1 mm ขึ้นไปครับ ไหว้
บันทึกการเข้า

กระสุนปืนใหญ่ของไทยตกที่ใด   ที่นั่นคือถิ่นไทย
sitta.
Hero Member
*****

คะแนน 488
ออฟไลน์

กระทู้: 7275


« ตอบ #11 เมื่อ: กรกฎาคม 02, 2011, 08:30:34 PM »

ไหว้ ไหว้แต่บอกไว้ก่อนนะครับเคลือบบางไม่ได้ แรงตึงผิวมันน้อยครับ ต้อง 1 mm ขึ้นไปครับ ไหว้

ผมเคยผสมสีดำเทลงบนแผ่นวงจรป้องกันความชื้น พอแห้งดีประมาณ 24 ชั่วโมง
เปิดวงจรปุ็บลัดวงจรปั็บ บังเอิญแบบที่ใช้มันเป็นแบบนำไฟฟ้าได้ ยังดีที่รถไม่ไหม้
บันทึกการเข้า
pramuan
ไม่เคืองแค้นน้อยใจในโชคชะตา ไม่เสียดายชีวาถ้าสิ้นไป
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 19
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 305


จักยอมตายหมายให้เกีรติดำรงจะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา


« ตอบ #12 เมื่อ: กรกฎาคม 02, 2011, 10:16:51 PM »

ไหว้ ไหว้แต่บอกไว้ก่อนนะครับเคลือบบางไม่ได้ แรงตึงผิวมันน้อยครับ ต้อง 1 mm ขึ้นไปครับ ไหว้

ผมเคยผสมสีดำเทลงบนแผ่นวงจรป้องกันความชื้น พอแห้งดีประมาณ 24 ชั่วโมง
เปิดวงจรปุ็บลัดวงจรปั็บ บังเอิญแบบที่ใช้มันเป็นแบบนำไฟฟ้าได้ ยังดีที่รถไม่ไหม้

55แหม่มันอันตรายเหมือนกันนะครับ แต่สูตรนี้เป็นแบบที่ไม่นำไฟฟ้าครับเพราะคันเบ็ดเป็นกราไฟอยู่แล้ว ลองคิดดูซิครับว่าถ้าฝนตกพรำๆตกปลากลางแจ้ง ฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา สนุกแน่ครับ  มันคงเป็นคนละสูตรกันครับ ยิ้มีเลศนัย
บันทึกการเข้า

กระสุนปืนใหญ่ของไทยตกที่ใด   ที่นั่นคือถิ่นไทย
pramuan
ไม่เคืองแค้นน้อยใจในโชคชะตา ไม่เสียดายชีวาถ้าสิ้นไป
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 19
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 305


จักยอมตายหมายให้เกีรติดำรงจะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา


« ตอบ #13 เมื่อ: กรกฎาคม 02, 2011, 10:23:35 PM »

ไม่ได้บอกว่ามันดีกว่าสิ่งที่เราใช้กันอยู่นะครับ แต่สิ่งที่พยายามบอกก็คือ คุณสมบัติของสารเคมีชนิดนี้เหมาะสมกับคนที่ชอบความเงางาม วับวาว (อาจเป็นพวกที่ชอบใส่ทองคำครับ)
และคนที่ชอบลุยน้ำลุยฝน(อาจเป็นพวกที่ชอบใส่เสื้อลายพรางครับ)อีกทั้งยังรองรับ ผู้ที่ชอบของเก่าแก่โบราณ ที่นิยมของเดิมมากกว่าของใหม่(อาจเป็นพวกที่ชอบเล่นพระครับ)
    ผมแบกปืนเหล่านี้เข้าป่า และทำงานมากว่า 3 ปีสารเคมีสูตรนี้ไม่ทำให้ผิดหวัง ยังคงเงางาม ใช้งานได้ดีไม่ลื่น ลายไม้สวย และทำความสอาดง่ายครับ ก็เลยมาเล่าสู่กันฟังครับ ยิ้มีเลศนัย
บันทึกการเข้า

กระสุนปืนใหญ่ของไทยตกที่ใด   ที่นั่นคือถิ่นไทย
pramuan
ไม่เคืองแค้นน้อยใจในโชคชะตา ไม่เสียดายชีวาถ้าสิ้นไป
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 19
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 305


จักยอมตายหมายให้เกีรติดำรงจะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา


« ตอบ #14 เมื่อ: กรกฎาคม 02, 2011, 10:31:30 PM »

แต่เครื่องที่ผมออกแบบเองก็มีข้อจำกัดเนื่องด้วยวัสดุที่หาได้ในประเทศ เครื่องก็เลยสามารถเคลือบชิ้นส่วนได้ ความยาวไม่เกิน  40 cm. ครับ เศร้า
มันก็เลยเคลือบได้แค่ ปืนสั้น ลูกซอง หรือชิ้นส่วนอื่นๆที่ความยาวไม่เกิน 40 cmครับ หัวเราะร่าน้ำตาริน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 02, 2011, 10:37:19 PM โดย pramuan » บันทึกการเข้า

กระสุนปืนใหญ่ของไทยตกที่ใด   ที่นั่นคือถิ่นไทย
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.071 วินาที กับ 24 คำสั่ง