http://www.matichon.co.th/khaosod/khaosod_detail.php?s_tag=03p0104080549&day=2006/05/08บุกปล้นกลางดึก-ดวลสนั่นเจ้าทรัพย์-เจ็บทั้งคู่
"เศรษฐี"ก่อสร้างยังสงสัยคดีมรดก
2 โจรไอ้โม่งบุกปล้นร้านค้าวัสดุก่อสร้าง อ.ท่าวุ้ง กลางดึกเกิดดวลปืนระทึกกับเจ้าทรัพย์ ปลอกกระสุนเกลื่อน ผลฝ่ายเจ้าทรัพย์บาดเจ็บ 3 ส่วนโจรน่าจะเจ็บ 1 พร้อมกับล่าถอยหลบหนีไปได้ เจ้าของร้านสงสัยไม่ได้ตั้งใจปล้น เพราะคุ้นเสียงโจรมาก แฉเจ้าของร้านกำลังมีปัญหาคดีมรดกที่ดินใกล้ตัดสินเดือนหน้า
เมื่อเวลา 23.10 น.วันที่ 6 พ.ค. ร.ต.ท.นุกูล สังข์สุวรรณ ร้อยเวรสภ.อ.ท่าวุ้ง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำตู้ยามบางงา ว่า เกิดเหตุคนร้ายบุกปล้นและเกิดยิงต่อสู้กับเจ้าของบ้านด้วยอาวุธปืนหลายชนิดเสียงดังสนั่น เหตุเกิดภายในร้านจำหน่ายอุปกรณ์ก่อสร้าง ชื่อร้านเสน่ห์ ตั้งอยู่ริมถนนสายท่าวุ้ง-สิงห์บุรี เลขที่ 76 หมู่ 7 ต.บางงา อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี หลังรับแจ้งแล้วจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นออกเดินทางไปตรวจยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพ.ต.อ.จักรกริช ก้องกันภัย รักษาการผกก.สภ.อ.ท่าวุ้ง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกจำนวนหนึ่ง
ที่เกิดเหตุก่อเป็นตึกแถวเดี่ยว 3 ชั้น มีรั้วล้อมรอบ และอยู่ห่างจากป้อมตำรวจบางงาประมาณ 500 เมตร เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงพบนางสุภาพร วีระพันธ์ อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวเจ้าของร้านยืนคอยเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่กับลูกด้วยอาการตื่นตกใจ จากนั้นให้การกับตำรวจว่า ก่อนเกิดเหตุขณะตนนั่งดูทีวีอยู่กับลูกชายวัย 4 ขวบในห้องโถงชั้นล่าง โดยนายณัฐพงษ์ กิจพันธ์ อายุ 35 ปี สามี ทำอาหารกินอยู่ในครัว มีคนร้ายเป็นชายจำนวน 2 คน อายุระหว่าง 30-35 ปี คลุมศีรษะด้วยหมวกไหมพรม สวมกางเกงขายาวสีดำ สวมเสื้อแจ๊คเก็ตแขนยาวสีดำ ซึ่งคาดว่าคงจะปีนเข้ามาทางหลังบ้าน ใช้ด้ามปืนตีที่ศีรษะด้านหลังของนายณัฐพงษ์อย่างแรง 1 ครั้ง ทำให้นายณัฐพงษ์ทรุดลงไปนอนกองจมกองเลือดอยู่กับพื้นและสลบไปทันที
นางสุภาพรเล่าต่อไปว่า จากนั้นคนร้าย 1 ใน 2 ได้เดินมาหาตนเองที่นั่งดูทีวีอยู่กับลูก ส่วนคนร้ายอีกคนยืนคร่อมร่างของนายณัฐพงษ์ไว้ โดยคนร้ายที่เดินมาหาตนเองพูดน้ำเสียงคล้ายคนแถบจังหวัดสิงห์บุรีว่า "อีแก่อยู่ไหน" ซึ่งหมายถึงนางวรรณสมบัติ วีระพันธ์ อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นแม่ของตน เมื่อได้ยินดังนั้นด้วยความกลัวว่าคนร้ายจะมาทำร้ายแม่ จึงส่งเสียงร้องกรี๊ดด้วยความกลัวสุดขีด คนร้ายจึงตรงเข้าอุ้มลูกชายวัย 4 ขวบของตนไว้ พร้อมกับข่มขู่ว่าให้เงียบ ไม่อย่างนั้นจะฆ่าลูกชาย เหมือนกับนายณัฐพงษ์ที่ถูกตีและคนร้ายคาดว่าคงจะเสียชีวิตไปแล้ว เมื่อได้ยินดังนั้นตนจึงรีบคลานเข้าไปกราบเท้าของคนร้ายพร้อมกับอ้อนวอนขอชีวิตลูกชาย
นางสุภาพรเล่าอีกว่า ขณะที่ตนกำลังกราบเท้าคนร้ายอยู่นั้น นางวรรณสมบัติซึ่งนอนอยู่ห้องข้างๆ ได้เปิดประตูห้องออกมา จากนั้นได้ตรงเข้าแย่งอาวุธปืนของคนร้ายและพยายามที่จะดึงหมวกไหมพรมของคนร้ายออกมา คนร้ายจึงใช้อาวุธปืนตบที่ใบหน้าถูกบริเวณหน้าผาก 1 ครั้ง นางวรรณสมบัติทรุดลงไปนอนจมกองเลือดอยู่กับพื้นและสลบไปอีกคน จากนั้นคนร้ายได้ผลักลูกชายของตนกระเด็นไปอีกทาง และคนร้ายที่ยืนคุมเชิงอยู่ในห้องครัว ได้พูดขึ้นว่า "ไปเหอะเดี๋ยวตำรวจมา"
ขณะเดียวกันนายเสน่ห์ วีระพันธ์ อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นพ่อของนางสุภาพร และเป็นสามีของนางวรรณสมบัติ และเป็นเจ้าของบ้าน ซึ่งดูทีวีอยู่ในห้องอีกห้องหนึ่ง ได้ยินเสียงร้องของลูกสาวจึงเปิดประตูห้องออกมา โดยในมือถืออาวุธปืนลูกซองยาว 5 นัดออกมาด้วย และใช้อาวุธปืนลูกซองยาว 5 นัดยิงใส่คนร้าย และคาดว่าคนร้ายจะถูกลูกกระสุนปืนด้วย เนื่องจากเห็นคนร้ายเซถอยหลัง จากนั้นจึงเกิดการดวลปืนกันเสียงดังสนั่นหวั่นไหว โดยนายเสน่ห์ถูกอาวุธปืนของคนร้ายทรุดลงไปนอนกองกับพื้นอีกคน และในขณะที่คนร้ายกำลังประคองกันหลบหนีออกทางด้านหลัง นายณัฐพงษ์ฟื้นจากการสลบ จึงวิ่งเข้าไปเอาปืนพกสั้นในห้องนอนออกมากระหน่ำยิงตามหลังคนร้ายอีกหลายนัด หลังจากที่คนร้ายหลบหนีไปแล้วนางสุภาพรจึงโทรศัพท์แจ้งให้ตำรวจทราบ พร้อมกันนี้ก็มีเพื่อนบ้านที่ได้ยินเสียงปืนเดินทางมาสอบถาม และเมื่อพบว่ามีคนได้รับบาดเจ็บจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลสิงห์บุรีเวชการ (หมอประเจิด) จ.สิงห์บุรี ซึ่งอยู่ใกล้บ้านที่สุด เพื่อให้แพทย์ช่วยชีวิตทันที
หลังทราบเรื่องราวเบื้องต้น ร.ต.ท.นุกูล ร้อยเวร เข้าตรวจสถานที่เกิดเหตุและพบว่าภายในบ้านบริเวณพื้นเต็มไปด้วยเลือดสดๆ เกลื่อนพื้น ส่วนข้างฝาตัวบ้านพบว่าถูกลูกกระสุนปืนเป็นรูพรุนจำนวนหลายสิบแห่ง นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนปืนลูกซอง 5 ปลอก ปลอกลูกกระสุนปืนขนาด 11 ม.ม. 1 ปลอก ปลอกลูกกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. 4 ปลอก และปลอกกระสุนปืนขนาด .38 ซุปเปอร์ 4 ปลอก จึงได้เก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน โดยปลอกกระสุนปืนลูกซองและขนาด 9 ม.ม.เป็นของนายเสน่ห์และนายณัฐพงษ์ ส่วนปลอกกระสุนปืนขนาด 11 ม.ม.และขนาด .38 ซุปเปอร์ เป็นของคนร้าย และจากการสอบถามทราบว่าคนร้ายไม่ได้ทรัพย์สินมีค่าติดตัวไปแม้แต่อย่างเดียว
ต่อมา ร.ต.ท.นุกูล ร้อยเวร พร้อมกำลังอีกจำนวนหนึ่งเดินทางไปดูอาการของคนเจ็บที่โรงพยาบาลสิงห์บุรีเวชการ ทราบจากแพทย์และพยาบาลว่า คนเจ็บถูกส่งตัวมารักษาจำนวน 3 คน ประกอบด้วยนายเสน่ห์ วีระพันธ์ อายุ 58 ปี นางวรรณสมบัติ อายุ 60 ปี และนายณัฐพงษ์ กิจพันธ์ อายุ 35 ปี โดยนายเสน่ห์ถูกยิงด้วยลูกกระสุนปืนขนาด 11 ม.ม.เข้าที่หน้าท้อง 1 นัดกระสุนฝังใน และที่หน้าแข้งซ้าย 1 นัด อาการสาหัส ส่วนนางวรรณสมบัติถูกด้ามปืนตีเข้าที่หน้าผากเย็บ 8 เข็ม นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล ส่วนนายณัฐพงษ์ถูกด้ามปืนตีเข้าที่ศีรษะด้านหลังเย็บ 6 เข็ม แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้
นางวรรณสมบัติ ซึ่งพอที่จะพูดได้ให้การว่า การที่ตนกล้าวิ่งเข้าไปแย่งปืนของคนร้ายและจะเปิดหมวกไหมพรมดูหน้าคนร้าย เพราะมั่นใจว่าคนร้ายคงจะไม่ยิงตน ที่มั่นใจก็เพราะว่าคุ้นน้ำเสียงของคนร้ายที่พูดออกมาเป็นอย่างมาก แต่ยังนึกไม่ออกว่าเป็นใคร เนื่องจากกำลังอยู่ในอาการมึนงงนั่นเอง สำหรับสาเหตุที่คนร้ายบุกเข้ามาในบ้านและเกิดยิงต่อสู้กันอย่างดุเดือดครั้งนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในเรื่องของการบุกเข้ามาเพื่อหวังปล้นทรัพย์อย่างเดียว เพราะคนร้ายไม่ได้รื้อค้นทรัพย์สินมีค่าแต่อย่างใด ถามเพียงคำเดียวว่า "อีแก่อยู่ไหน" ซึ่งก็จะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง เนื่องจากทราบว่าขณะนี้นางวรรณสมบัติกำลังอยู่ในระหว่างฟ้องร้องเรื่องมรดกที่ดิน โดยเรื่องกำลังอยู่ที่ศาลและมีกำหนดฟังคำตัดสินวันที่ 5 มิ.ย. 49 ที่จะถึงนี้ ซึ่งก็จะทำการสืบสวนต่อไปว่าเกี่ยวข้องกันหรือไม่