โรงแรมแถวหลังวัง

[สุพินท์ - รักในหลวง]

กระสุนปืนเอาขึ้นเครื่องบินโดยสารได้ครับ  ผมเอาขึ้นบ่อย ๆ   แต่น้ำหนักอาจจะถูกจำกัดด้วยแบบของเครื่องบิน   ผมเคยต้องเอากระสุน.223 กับ.308 กลับจากแข่งยิงปืนทางยุทธวิธีที่สิงคโปร์  นน.ประมาณ 800 กก.ปรากฏว่าสนามไม่ยอมให้ขึ้นแอร์บัส   ต้องฝากไว้หนึ่งวัน แล้วมากับ 747   ผมไปรับของเอง   พอศุลกากรรู้ว่าเป็นอะไร ก็รีบเปิดประตูสำหรับ จนท.ให้รีบเอาออกไปเร็ว ๆ

[Sting รักในหลวง]

ไม่รู้ว่าทาง K ติ๊ก ลองโทรมาเช็คว่ามีของหรือเปล่า

หรือวัดดวงลงมาเดินช็อปหาเลย

ถ้าเป็นไปได้น่าจะโทรเช็คก่อนนะครับ

[Choltit]

ถ้าเป็นพลเรือน ไม่รู้ว่าเปิดประตูหรือปิดประตู 

[ออด]

      ขอแนะนำให้คุณติ๊ก

1. ควรโทรถามร้านต่าง ๆ หลาย ๆ ร้านดูก่อนครับว่ามีของที่ต้องการหรือไม่  และสอบถามราคาด้วย  เพราะจะได้ไม่เสียเที่ยวครับ  เบอร์โทรดูจากในนิตยสาร อวป. ได้เลยครับ เพราะมีเบอร์โทรหลายร้าน
2. วันที่ 19-20 ที่คุณติ๊กจะเข้ามาเป็นวัน พฤหัส-ศุกร์ คงไม่มีปัญหาเรื่องติดต่อระบบราชการ  แต่อย่ามาให้ตรงกับวันเสาร์ อาทิตย์ หรือวันหยุดราชการอื่น ๆ ก็แล้วกันครับเพราะจะมาเสียเที่ยวเปล่า ๆ 

[EAKWALITT]

...เอาปืนสั้นขึ้นเครื่องเป็นประจำครับ (ทำตามระเบียบและขั้นตอนที่ถูกต้อง) สำหรับเรื่องเอาปืนยาวขึ้นเครื่องนี่ไม่เคยครับ ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ผมว่าน่าจะได้ครับ

แหม...พอดีเลยครับ ผมเองก็ใช้บริการของการบินไทยกลับบ้านบ่อยๆ แต่เรื่องเอาปืนขึ้นเครื่องบินกลับไปด้วยนี่ยังไม่เคยเหมือนกันครับ ยังไงขอความกรุณาท่าน coda หรือท่านอื่นๆที่ทราบช่วยกรุณาอธิบายขั้นตอนการปฏิบัติที่ถูกต้องให้ทราบเป็นกุศลหน่อยเถอะครับ...

[coda]

...ขั้นตอนเอาปืนขึ้นเครื่องบินไม่มีอะไรยุ่งยากครับ

...ยกตัวอย่างที่ดอนเมืองนะครับ แยกปืนกับกระสุน แล้วไม่ต้องใส่ปืนหรือกระสุนในกระเป๋าใบใหญ่ (ที่จะโหลดลงไปเก็บในห้องเก็บของในท้องเครื่องบิน) เมื่อไปถึงสนามบินก็เอกซ์เรย์กระเป๋าใบใหญ่ เช็คอินรับบอร์ดดิ้งพาสส่งกระเป๋าใหญ่ไปขึ้นเครื่องตามปกติ แต่ก่อนที่ตัวเราจะผ่านเครื่องเอกซ์เรย์ ขวามือจะมีเคาน์เตอร์รับปืนและสิ่งต้องห้ามต่างๆ เช่นมีดพับ ของมีคม ฯลฯ ก็เข้าไปแจ้งเจ้าหน้าที่เลยครับว่า มีปืนมา เจ้าหน้าที่จะขอดูบัตรประชาชนแล้วเอาแบบฟอร์มมาให้กรอก หลังจากเคลียร์ปืนเวร็จก็มอบปืนและกระสุนให้ จนท. จนท.จะรับไปใส่เก็บถุงแล้วออก "ใบอนุญาต" ให้ ถุงเก็บ อวป. จะถูกส่งไปขึ้นเครื่อง เมื่อไปถึงปลายทางก็ไปขอรับได้ที่เจ้าหน้าที่ครับ

...เอกสาร ป.3 ป.4 ป. ต่างๆ เจ้าหน้าที่ไม่เคยถามหาครับ แต่ควรจะนำติดตัวไปด้วยครับ 

...ป.ล.  ไม่ต้องเรียกท่าน coda ก็ได้ครับ อ่านแล้วมันจั๊กกระจี้ชอบกล อิอิ

[EAKWALITT]

...ขั้นตอนเอาปืนขึ้นเครื่องบินไม่มีอะไรยุ่งยากครับ

...ยกตัวอย่างที่ดอนเมืองนะครับ แยกปืนกับกระสุน แล้วไม่ต้องใส่ปืนหรือกระสุนในกระเป๋าใบใหญ่ (ที่จะโหลดลงไปเก็บในห้องเก็บของในท้องเครื่องบิน) เมื่อไปถึงสนามบินก็เอกซ์เรย์กระเป๋าใบใหญ่ เช็คอินรับบอร์ดดิ้งพาสส่งกระเป๋าใหญ่ไปขึ้นเครื่องตามปกติ แต่ก่อนที่ตัวเราจะผ่านเครื่องเอกซ์เรย์ ขวามือจะมีเคาน์เตอร์รับปืนและสิ่งต้องห้ามต่างๆ เช่นมีดพับ ของมีคม ฯลฯ ก็เข้าไปแจ้งเจ้าหน้าที่เลยครับว่า มีปืนมา เจ้าหน้าที่จะขอดูบัตรประชาชนแล้วเอาแบบฟอร์มมาให้กรอก หลังจากเคลียร์ปืนเวร็จก็มอบปืนและกระสุนให้ จนท. จนท.จะรับไปใส่เก็บถุงแล้วออก "ใบอนุญาต" ให้ ถุงเก็บ อวป. จะถูกส่งไปขึ้นเครื่อง เมื่อไปถึงปลายทางก็ไปขอรับได้ที่เจ้าหน้าที่ครับ

...เอกสาร ป.3 ป.4 ป. ต่างๆ เจ้าหน้าที่ไม่เคยถามหาครับ แต่ควรจะนำติดตัวไปด้วยครับ 

...ป.ล.  ไม่ต้องเรียกท่าน coda ก็ได้ครับ อ่านแล้วมันจั๊กกระจี้ชอบกล อิอิ

ขอบพระคุณมากครับที่กรุณาอธิบายให้ทราบ  ไม่ทราบว่าเป็นอย่างนี้ทุกสายการบินหรือเปล่าครับ
แล้วยกตัวอย่างว่า ถ้าผมเอาปืนกับกระสุนใส่มาในกระเป๋าหิ้ว (ข้างในมี Notebook และของใช้อื่นๆรวมอยู่ด้วย)
จนท.จะเอาเฉพาะปืนกับกระสุนออกไปเท่านั้นใช่ไหมครับ(หรือว่าเอาไปทั้งกระเป๋าเลย) ,  เวลาถึงปลายทางแล้วเรานำ "ใบอนุญาต" ไปเป็นหลักฐานในการขอรับคืนใช่ไหมครับ(หรือ จนท.จะออกหลักฐานอย่างอื่นให้ด้วย)  แหม...ไม่ให้ผมเรียก"ท่าน" แล้วจะให้เรียกอะไรหล่ะครับ...ขอบพระคุณอีกครั้งครับ

[coda]

ไม่ทราบว่าเป็นอย่างนี้ทุกสายการบินหรือเปล่าครับ
...ผมยังไม่ได้ลองเอาปืนขึ้นเครื่องบินทุกสายการบิน (แอร์เอเชีย ภูเก็ต อันดามัน กับโอเรียนท์ ยังไม่เคย) แต่คิดว่าเป็นวิธีการเดียวกันทุกสายการบินในประเทศ เพราะเป็นมาตรการของการท่าอากาศยานครับ อ้อ วันนี้ก็เพิ่งเอากระสุน .22 CCI Stinger จำนวน 100 นัด กับมีดพก 1 เล่ม ฝากขึ้นเครื่อง "นกแอร์" กลับมาอุดร ก็ไม่เห็นเป็นไรนะครับ (อ้อ ผมว่า "นกแอร์" เนี่ย น่ารักทั้งเครื่องบิน และพนักงานต้อนรับเลยนะครับ แล้วการบินไปกับ "นก" เนี่ย มันก็พออุ่นใจว่าจะไม่ร่วงลงมาง่ายๆ อิอิ) 

ถ้าผมเอาปืนกับกระสุนใส่มาในกระเป๋าหิ้ว (ข้างในมี Notebook และของใช้อื่นๆรวมอยู่ด้วย)
จนท.จะเอาเฉพาะปืนกับกระสุนออกไปเท่านั้นใช่ไหมครับ (หรือว่าเอาไปทั้งกระเป๋าเลย)
...น่าจะเอาเฉพาะปืนและกระสุนฝากก็พอครับไป เพราะฝากหลายอย่างก็เพิ่มความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่เปล่าๆ   ตอนที่ผมเอากล่องใส่ปืนไปด้วย (กล่องของ MTM) ผมก็ฝากไปทั้งกล่องทั้งปืนเลยครับ จนท. เอาไปพันเทปซะแน่นหนา ก่อนจะใส่ถุงผ้าใบสีส้มๆ ลั่นกุญแจ

เวลาถึงปลายทางแล้วเรานำ "ใบอนุญาต" ไปเป็นหลักฐานในการขอรับคืนใช่ไหมครับ (หรือ จนท.จะออกหลักฐานอย่่นให้ด้วย)
...ใช่ครับ เจ้าหน้าที่จะออก "ใบอนุญาต" กับ "ใบรับของ" ครับ ไปถึงปลายทางก็เอาใบรับของไปขอรับปืนได้

แหม...ไม่ให้ผมเรียก"ท่าน" แล้วจะให้เรียกอะไรหล่ะครับ
...เรียก "คุณ" ก็ถือว่าให้เกียรติกันแล้วครับ หรือจะเรียก "พี่" ก็ไม่ขัดข้องครับ (ด้วยสมมติฐานว่าผมอายุ 50 เข้าไปแล้ว)
...ถามละเอียดรอบคอบดีครับ 

[coda]

...อ้อ ห้ามเรียก น้า อา ป๋า ลุง ฯลฯ เน้อ อิอิ

[visith]

...อ้อ ห้ามเรียก น้า อา ป๋า ลุง ฯลฯ เน้อ อิอิ

สงวนสิทธิ์เรียก "ป๋า" ได้เฉพาะน้องหนูแถวๆเจริญศรีฯ นะจ๊ะ...

[USP40]

ถ้าเป็นพลเรือน ไม่รู้ว่าเปิดประตูหรือปิดประตู 

คงเปิดนะคุณอ๋องแต่เป็นประตูคุกให้เข้า

[coda]

...อ้อ ห้ามเรียก น้า อา ป๋า ลุง ฯลฯ เน้อ อิอิ

สงวนสิทธิ์เรียก "ป๋า" ได้เฉพาะน้องหนูแถวๆเจริญศรีฯ นะจ๊ะ...

...พวกนั้นก็เรียก "พี่" อิอิ 

[EAKWALITT]

(อ้อ ผมว่า "นกแอร์" เนี่ย น่ารักทั้งเครื่องบิน และพนักงานต้อนรับเลยนะครับ แล้วการบินไปกับ "นก" เนี่ย มันก็พออุ่นใจว่าจะไม่ร่วงลงมาง่ายๆ อิอิ) 
ผมเคยบินแต่การบินไทยครับ จำได้ว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งผมไปทำธุระด่วนที่บ้าน ก็ขึ้นเครื่องที่ดอนเมือง ไปลงหาดใหญ่  ข้างๆผมมีสามี-ภรรยาชาวออสเตรเลี่ยนคู่หนึ่งเขาต้องการไปลงหาดใหญ่พักที่นั่น2-3วัน แล้วค่อยต่อรถไฟขึ้นมาสุราษฯ เพื่อไปเที่ยวเกาะสมุย  แหมผมก็ในฐานะคนไทยมีน้ำใจ ก็อธิบายเป็นภาษาปะกิตซะตั้งนานจนกระทั่งมีแอร์สาวสวยคนหนึ่งเข้ามา แล้วถามเรื่องอาหารกับเครื่องดื่ม 2 คนนั้น เสร็จแล้วหันมาถามผมมั่งเป็นภาษาปะกิต ผมก็เลยตอบเป็นภาษาปะกิต  จนกระทั่งผมทานอาหารเสร็จเธอเดินผ่านมาอีกครั้งแล้วถามผมว่า "คุณเป็นคนไทยเหรอค่ะ?" ผมก็ตอบว่าใช่  เธอบอกว่าขอโทษที่ถามผมเป็นภาษาปะกิตก็เพราะนึกว่าผมเป็น ฟิลิปปินส์ หรือไม่ก็คนมาเลย์ (ผมนึกในใจ "ดีนะที่ไม่บอกว่าผมเหมือน LAO" D)  งั้นผมขออนุญาตเรียกว่า"พี่"ก็แล้วกันนะครับ  (ไม่ใช่ต้องการจะตีตนเสมอท่าน...แต่มีความรู้สึกว่าอายุขนาดนี้ ยังไม่แก่ครับผม)  ขอบคุณมาด้วยความเคารพครับพี่ coda

[DICK]

หลายปีก่อนฟองสบู่จะเฟื่องฟู
โรงแรมในกทม. ไม่มากนัก และไม่พอเพียงกับชาวต่างชาติที่มาเที่ยว มาติดต่อธุรกิจ
ผมมีงานสัมพันธ์กับชาวสิงคโปร์ ต้องส่งช่าง และวิศวกรมาทำงาน
เมื่อหาโรงแรมไม่ได้
ในที่สุดส่งไป "ตีหมอ" แถววิสุทธิกษัตริย์
ทีนั่นแถมห้องพักฟรี พร้อมผ้าห่มสำหรับคนค้างคืนครับ

(เรื่องนะนำ ผมไม่ค่อยได้เรื่อง .... เรื่องพาเขวถนัด อิอิ)

[E_mail]

 เอา"ไม้โท"ที่คุณDICKลืมไว้มาส่งให้ครับ ฮี่ๆๆๆๆ