ใครหนอ . . .

Subject: จังหวัดที่ 77

ระวัง!ประเทศสิงคโปร์ในกรุงเทพฯ

รัฐบาลรักษาการได้พิจารณาเห็นชอบร่างพระราชบัญญัตินครสุวรรณภูมิเมื่อวันที่ 20
มิถุนายน 2549 และส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณารายละเอียดแล้ว

เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องสำคัญ
เป็นเรื่องกระทบต่อเอกราชอธิปไตยของชาติ
และกระทบต่อผลประโยชน์ของคนไทยทั้งประเทศ จึงต้องช่วยกันจับตาติดตามให้ดี

ที่สำคัญรัฐบาลรักษาการไม่มีอำนาจทำในเรื่องนโยบายสำคัญเช่นนี้
แต่ก็ยังหน้าด้านดึงดันทำโดยไม่แยแสใครทั้งนั้น

หลักการของเรื่องนี้คือการรวบเอาเขตประเวศ เขตลาดกระบัง ของกรุงเทพมหานคร
เขตอำเภอบางพลี และกิ่งอำเภอบางเสาธง ของจังหวัดสมุทรปราการ รวมพื้นที่ 522
ตารางกิโลเมตร หรือ 360,000 ไร่ แล้วแยกเป็นจังหวัดใหม่ จังหวัดที่ 77
ของประเทศไทย

ไอ้ที่เป็นจังหวัดนั้นไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่
แต่หัวใจของเรื่องคือการปกครองที่จะจัดให้เป็นเขตปกครองพิเศษที่มีอำนาจเต็มที่เ
ช่นเดียวกับกรุงเทพมหานคร

และความจริงจะมีอำนาจหน้าที่มากกว่ากรุงเทพมหานครเพราะผนวกเข้ากับกฎหมายเกี่ยวก
ับเขตปกครองพิเศษที่มีอำนาจอธิปไตยพร้อมในตัวเอง

คือออกกฎหมายเองได้ มีสภาของตนเอง มีการปกครองเป็นของตนเอง
และมีอำนาจที่จะจำกัดอำนาจของรัฐบาลกลางไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องใดเรื่อง
หนึ่งหรือหลายเรื่องก็ได้

รวมความก็คือจังหวัดที่ 77
ที่สุวรรณภูมินี้ก็คือมหานครใหม่ที่มีฐานะคล้ายกับรัฐอิสระ
ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานครนั่นเอง

อย่ามาอ้างว่าเป็นพื้นที่ที่มีสนามบินแล้วมีความจำเป็นที่จะต้องตั้งเป็นจังหวัด
เพราะที่ไหนในโลกเขาก็มีสนามบินกันเป็นจำนวนมาก
ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแยกพื้นที่สนามบินนั้นยกขึ้นเป็นจังหวัดใหม่

ดังนั้นการตั้งสนามบินสุวรรณภูมิในพื้นที่จึงไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริงและไม่ใช่คว
ามจำเป็นที่แท้จริงที่จะต้องตั้งเป็นจังหวัดที่ 77

จากการสั่งสมข้อมูลของเราและจากพฤติกรรมขายเอกราชอธิปไตยให้กับต่างชาติเป็นลำดั
บมาในระยะเวลา 4-5 ปีมานี้
บ่งชี้ชัดเจนว่าวัตถุประสงค์ที่แท้จริงคือการจัดระบบปกครองพิเศษสำหรับพื้นที่ดั
งกล่าว

พูดให้ชัดที่สุดก็คือการสถาปนารัฐอิสระชนิดพิเศษขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจ
ังหวัดสมุทรปราการ

เพื่อหลอกลวงชาวบ้านให้เห็นเป็นเรื่องปกติว่าเป็นอย่างเดียวกันกับการแบ่งเขตจัง
หวัดของประเทศไทย จึงแยกพื้นที่นี้ออกไปเป็นจังหวัดที่ 77
แต่นี่ไม่ใช่วัตถุประสงค์ที่แท้จริง

วัตถุประสงค์ที่แท้จริงคือการตั้งรัฐอิสระ การตั้งระบบปกครองพิเศษที่เป็นอิสระ
และมีอำนาจอธิปไตยทั้งสามเกือบจะสมบูรณ์เป็นของตนเอง

ยกเว้นก็แต่อำนาจด้านต่างประเทศ หรือด้านการทหาร
ซึ่งไม่มีความจำเป็นที่พื้นที่ขนาดนี้จะต้องมีเท่านั้น

รวมความก็คือถ้าแผนงานนี้ประสพความสำเร็จในพื้นที่กรุงเทพมหานครและสมุทรปราการก
็จะเกิดรัฐอิสระใหม่ขึ้น ที่มีอำนาจอธิปไตยเป็นของตนเองเกือบจะสมบูรณ์พร้อม

ใครเป็นผู้ปกครองเขตพื้นที่นี้ก็จะมีฐานะหรือเกือบเท่ากับความเป็นเจ้าของประเทศ
ๆ หนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร
ดีไม่ดีรัฐอิสระที่ว่านี้อาจจะมีอำนาจเหนือกรุงเทพมหานครหรือเหนือประเทศไทยด้วย
ซ้ำไป

ถ้าเป็นเช่นนั้นขึ้นมาวันไหน
ประเทศไทยทั้งประเทศก็จะตกเป็นประเทศราชของรัฐอิสระที่ว่านี้
หรืออยู่ภายใต้การครอบงำบงการของรัฐอิสระที่ว่านี้ก็ได้

แล้วใครล่ะ พรรคไหนล่ะ
ที่พยายามแย่งยึดควบคุมพื้นที่ในเขตพื้นที่ดังกล่าวอย่างเอาจริงเอาจังและเอาเป็
นเอาตาย

ก็พอเห็นหน้าค่าตาของคนที่จะเป็นเจ้าของรัฐอิสระที่ว่านี้
แล้วใครที่อยู่เบื้องหลังอีกชั้นหนึ่งเล่า?

ข้อมูลข่าวสารของเราชัดเจนว่าไม่ใช่ใครที่ไหนอื่นแต่เป็นสิงคโปร์เจ้าเก่า!

เราประกาศให้คนไทยทั้งประเทศได้ระมัดระวังและจับตามองอย่ากระพริบตาว่าหากแผนการ
นี้ประสพความสำเร็จ
สิงคโปร์และนายหน้าค้าชาติของสิงคโปร์ในประเทศไทยจะเป็นเจ้าของรัฐอิสระแห่งใหม่นี้

และรัฐอิสระแห่งใหม่นี้จะเป็นเจ้าประเทศราชของประเทศไทย
และจะเป็นนายเหนือหัวของคนไทยทั้งประเทศ
โดยคนไทยทั้งประเทศจะเปลี่ยนฐานะเป็นขี้ข้าเท่านั้น

จะสอดคล้องรองรับกับการเปลี่ยนฐานะข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้เป็
นพนักงานของรัฐ ซึ่งได้กระทำไปล่วงหน้าแล้ว

จะสอดคล้องกับการทำสัญญาให้บริษัทสิงคโปร์เป็นผู้บริหารจัดการพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ และกิจการมากหลายในสนามบินสุวรรณภูมิ

สนามบินสุวรรณภูมิที่ประเทศไทยต้องลงทุนหลายแสนล้านบาทกำลังตกอยู่ในมือของสิงคโปร์ โดยฝีมือของพวกนายหน้าค้าชาติ

กำลังจะเป็นรัฐอิสระใหม่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและสมุทรปราการ
และรัฐอิสระใหม่นี้จะเป็นเจ้าประเทศราชของประเทศไทย
จะเป็นเจ้านายของข้าราชการและคนไทยทั้งประเทศ

เห็นหรือยังพี่น้องคนไทยว่าระบอบทักษิณนั้นไว้ใจอะไรไม่ได้!
แม้แต่เวลานาทีเดียวก็สามารถทำอะไรที่ทำให้ประเทศไทยและคนไทยตกเป็นของต่างชาติแ
ละเป็นทาสต่างชาติได้อย่างง่ายดาย

เราขอบอกกล่าวและวิงวอนคนไทยทั่วประเทศโดยเฉพาะคนไทยในกรุงเทพมหานครและสมุทรปรา
การได้ร่วมกันขัดขวางแผนการอุบาทว์นี้จนถึงที่สุด.

กฎหมายขายชาติขายแผ่นดิน ฉบับนี้ออกเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2548
โดยรัฐบาลทักษิณ
ร่าง พ.ร.บ. เขตเศรษฐกิจพิเศษ
มาตรา 23 ให้มีอำนาจ ถมทะเล หรือเวนคืนและเมื่อพัฒนามาแล้ว มีอำนาจการขาย เช่าซื้อ ให้เช่า
หรือแลกเปลี่ยนได้
มาตรา 26 ให้ต่างชาติ เช่าที่ดินได้ไม่ต่ำกว่า 50 ปี แต่ไม่เกิน 99 ปี
มาตรา 27 การให้เช่าหรือเช่าช่วงที่ดิน เกิน 100 ไร่
ไม่ต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมที่ดินและ
เงื่อนไขสัญญาจะต้องให้เช่าช่วงได้
มาตรา 29 เศรษฐกิจพิเศษมีอำนาจ ถมทะเล เพื่อให้ได้มาซึ่งที่ดิน
มาตรา 30 ผู้ว่าการและเจ้าหน้าที่ของเศรษฐกิจพิเศษ
มีอำนาจเข้าไปครอบครองใช้ประโยชน์หรือ
หาประโยชน์ในป่าสงวนแห่งชาติ เขตคุ้มครองและรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
และเขตอุทยานแห่งชาติได้
มาตรา 31
ให้ถอนสภาพที่ดินที่เป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินตกเป็นของเขตเศรษฐกิจพิเศษโดย
ไม่ต้องถอนสภาพหรือโอนตามประมวลกฎหมายประมวลที่ดิน
มาตรา 34
บรรดาอสังหาริมทรัพย์ของเศรษฐกิจพิเศษได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิ
ทธิ์ และนิติกรรมทั้งปวงและได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ด้วย
มาตรา 50 ให้มีอำนาจ ถมทะเล ไห้มีอำนาจจัดให้มีไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์
และระบบเทคโนโนยี
สารสนเทศโดยอิสระให้ร่วมลงทุนกับบุคคลอื่นทั้งในและต่างประเทศได้
มาตรา 51 ในกรณีที่กฎหมายกำหนดให้
การดำเนินการใดๆต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานของรัฐ
ให้เขต เศรษฐกิจพิเศษมีอำนาจการดำเนินการดังกล่าวได้ โดยไม่ต้องได้รับอนุญาต
มาตรา 52
การดำเนินการใดที่กฎหมายบังคับให้ต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานของรัฐก่อน เช่น
ใบอนุญาตต่างๆหากได้รับความเห็นชอบจากผู้ว่าเศรษฐกิจพิเศษ หรือจดทะเบียน
หรือแจ้งกับเศรษฐกิจพิเศษแล้วให้ถือเสมือนว่าได้รับอนุญาตจากหน่วยงานของรัฐแล้ว
มาตรา 58 การจัดตั้งบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด
เขตเศรษฐกิจพิเศษสามารถดำเนินการจัดตั้งขึ้นเองได้
มาตรา 62 สิทธิ์ของผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบการหรืออยู่อาศัยของเศรษฐกิจพิเศษ
คือ
1. สิทธิ์ในการถือกรรมสิทธิ์ที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์อื่นๆของคนต่างด้าว
2. สิทธิ์ในการนำคนต่างด้าวเข้ามาอยู่อาศัยในราชอาณาจักร
3. สิทธิ์ในการนำเงินหรือส่งเงินไปนอกราชอาณาจักร
4.สิทธิ์ในการได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมพิเศษตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน
5.
สิทธิในการถือครองหรือเปิดบัญชีเงินฝากเป็นเงินตราต่างประเทศกับสถาบันทางการเงิ
น
6. สิทธิที่จะได้รับการยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีอากร
มาตรา 65 คนต่างด้าวที่อยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษได้ไม่จำกัดเวลา
1. ช่างฝีมือ
2. ผู้บริหาร หรือ ผู้ชำนาญการ
3. คู่สมรสและบุคคลที่อยู่ในอุปการะตาม (1) และ (2)
มาตรา 66 บุคคลต่างด้าวที่อยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษได้เฉพาะเวลาทำงาน คือ
แรงงานไร้ฝีมือ
มาตรา 69 สิทธิพิเศษของผู้อยู่อาศัยในเขตเศรษฐกิจพิเศษ
1. สิทธิในการหักค่าใช้จ่ายก่อนการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา นอกเหนือจากที่
กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายรัษฎากร
2. ได้รับการลดอัตราภาษีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล
3. ได้รับการลด หรือ ยกเว้นอากรขาเข้า
ภาษีสรรพสามิตและค่าธรรมเนียมพิเศษตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน
มาตรา 70 การผลิตสินค้าเพื่อพานิชยกรรมได้รับอากร ขาเข้า- ขาออก
ภาษีมูลค่าเพิ่มภาษีสรรพสามิต ค่าธรรมเนียมอื่นๆ
มาตรา 71
วัสดุที่นำเข้าราชอาณาจักรเพื่อผลิตสินค้าไม่ต้องควบคุมคุณภาพหรือมาตรฐาน
ไม่ต้องขอหรือมีใบอนุญาตนำเข้า
มาตรา 76 รายได้ที่เก็บได้ให้ตกเป็นของเศรษฐกิจพิเศษจะส่งคืนรัฐกรณีเหลือ
แต่ถ้าหากรายได้ขาดไม่พอบริหารต้องใช้เงินภาษีของประชาชนจ่ายให้
มาตรา 78 ทรัพย์สินของเศรษฐกิจพิเศษไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี
ยึดทรัพย์ไม่ได้
มาตรา 99 คนไทยเข้าไปเขตเช่าของต่างชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3
เดือน ปรับไม่เกิน 200000 บาท

	ผู้เขียน	หัวข้อ: ใครหนอ . . . (อ่าน 6192 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้