คราวก่อนโดนกล่องเปิดปิดแอร์ ล่าสุดๆ Mazda Astina ปี 97 มอเตอร์กระจกไฟฟ้าข้างคนขับ ชุดละ 15,000 อ่านว่า หนึ่งหมื่นห้าพันบาท Citroen Xantia แปดพันกว่ายังบ่นแล้วบ่นอีก เดี๋ยวนี้รถญี่ปุ่นพัฒนาไปไกลกว่ารถยุโรปแล้วหรือเนี่ย ผมเลยสั่งถอดมาเลย จะไปหาเซียงกง ยังไงก็ไม่เปลี่ยนกับศูนย์ หาไม่ได้ก็จะรอหรือซ่อมเอง ทางศูนย์ก็ยอมรับว่าไม่เคยมีใครเปลี่ยนเลย อย่างนี้ก็ปล่อยไว้ให้เป็น Dead stock ไปเลย เรียนจบอะไรกันมา ตอนสอบลอกกันหรือปล่าว ผู้บริหารพวกเนี๊ยะ หมื่นห้านี่ซื้อทีวีได้กี่นิ้วคิดดูสิครับ มอเตอร์ไซค์ครึ่งคันแลกมอเตอร์กับรางกระจกได้ชุดเดียว เฮ้อออออ กรรมของเรา
อย่าคิดมากครับ ตัดสินใจซื้อมาแล้วก็ต้องสู้ไป ผมเคยมี astina ปี97 เหมือนกัน ถนนลื่น หมุนสามรอบฟาดเสาหลักขึงสลิงริมถนน
ซ่อม 8 เดือน รออะไหล่ร่วมครึ่งปี ค่าซ่อมร่วมๆ 400,000 บาท ค่าเกียร์อย่างเดียว 190,000 บาท
โชคดีประกันจ่าย ถ้าต้องจ่ายเองขายซากดีกว่าครับ
ป.ล. ราคาอะไหล่รถ ไม่แปรผันตามต้นทุนจริงครับ มีรุ่นพี่เป็นอดีตผู้บริหารของสวีเดนมอเตอร์เล่าให้ฟัง
ก่อนที่ SMC จะกลายสภาพเป็นแค่ดีลเลอร์และรับยอดจาก Volvo Car Thailand ในปัจจุบัน
เคยสั่งอะไหล่จากสวีเดนในราคา 2,500 บาท แล้วมาขายในราคาหมื่นกว่าบาท
ปัจจุบันขายในราคาหมื่นเหมือนเดิม แต่ต้องสั่งผ่าน VCT โดยได้ส่วนลดจาก Price List แค่ 20-30 เปอร์เซนต์
กำไรหายไปเห็นๆ SMC ก็จ๋อยไป
เพราะฉะนั้น อะไหล่เทียบน่าใช้ที่สุดครับผม ยกตัวอย่าง 230E W124 ที่คนรู้จักใช้อยู่ละกันครับ
ซ่อมแอร์เปลี่ยนคอยล์เย็นที่ศุนย์ 27,000-45,000 ตามแต่ศูนย์บริการ เวลา 3 วัน
ร้านแถวๆพัฒนาการ รับยอดจากศูนย์อีกที 11,000 บาท เวลาครึ่งวัน
โชคกันสะบัดพวงมาลัยพาวเวอร์ ศูนย์ 1,250 บาท วัดโสม 550 ครับ
อะไหล่แท้ = จากศูนย์บริการ
อะไหล่เทียบ = อะไหล่จากโรงงานเดียวกันแต่ไม่ตีตรา
อะไหล่เทียม = ก็แถวๆเกาหลี ไต้หวัน
อะไหล่ปลอม = อาจจะในนี้ หรือ จีนแดง ไต้หวัน ฯลฯ
สรุปเลยละกันว่า ก่อนจะตัดสินใจใช่รถรุ่นไหน ยี่ห้อใด หาข้อมูลประกอบเยอะๆครับ