เรียนเพื่อนสมาชิกเวปอวป. ทุกคนครับ .......
ขอชี้แจงว่า .. ในประเด็น ..
มีคนร้ายวิ่งราวทรัพย์/ลักทรัพย์ / ชิงทรัพย์ ของเราไป
แล้ววิ่งหลบหนี .. เราวิ่งไล่ตามติด .. เราสมควรจะใช้อาวุธหยุดยั้งคนร้ายหรือไม่.. ตามที่อ่านมา ..ขอเรียนว่าความเห็นผม .. เป็นแค่ความเห็นในเชิงกฎหมายเท่านั้น ..
ซึ่งตามที่ได้สืบค้น ..คำพิพากษาฎีกาปัจจุบันนี้ ..จะออกมาในแนวนี้ครับ ..คือ
คำพิพากษาฎีกาปัจจุบันที่เดินตามกันมาตลอด .. จะออกไปในทางว่า ..
ถ้าคนร้ายที่เอาทรัพย์ไป.. วิ่งหนี .. เจ้าทรัพย์วิ่งไล่ตาม หากคนร้ายไม่มีอาวุธใดๆ
หรือไม่แสดงกริยาจะทำร้ายเจ้าทรัพย์ .. หากเจ้าทรัพย์ใช้อาวุธ มีด/ปืน เข้าทำร้าย
จะเกินกว่าเหตุตาม ป.อาญา มาตรา ๖๙ หมด ..
คำพิพากษาฎีกาที่ ๑๙๐๘ / ๒๔๙๔ คนร้ายขึ้นเรื่อนลักทรัพย์ได้แล้ววิ่งหนีไป
เจ้าทรัพย์วิ่งไล่ไปทันแล้วใช้มีดแทงคนร้าย ๑ ที คนร้ายตาย ศาลฎีกาตัดสินว่า
เจ้าทรัพย์แทงคนร้ายในเวลากระชั้นชิดที่วิ่งไล่กันมา ถือว่าไม่มีเจตนาฆ่า
เพราะเเทงเพียงทีเดียว . คงมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ..
เป็นการป้องกันทรัพย์เกินสมควรแก่เหตุ .
คำพิพากษาฎีกาที่ ๑๓๔๓ / ๒๔๙๕ ยิงผู้ร้ายขณะกำลังวิ่งหนีและพาเอาห่อของไปด้วย
โดยผู้ร้ายมิได้กระทำอะไรแก่ตน . เป็นการป้องกันแต่เกินสมควรแก่เหตุ.
คำพิพากษาฎีกาที่ ๗๘๒ / ๒๕๒๐ ผู้เสียหายกับพวกเข้าไปลักแตงในไร่ของจำเลย
ในเวลากลางคืน จำเลยใช้อาวุธปืน .๒๒ ยิงผู้เสียหายขณะที่ผู้เสียหายกับพวกวิ่งหนี
ถูกที่หลังกระสุนฝังใน การที่จำเลยยิงผู้เสียหายโดยเหตุผู้เสียหายลักแตง ๒ - ๓ ใบ
ราคาเล็กน้อย กระสุนถูกที่หน้าอกอวัยวะสำคัญ ย่อมเล็งเห็นได้ว่ามีเจตนาฆ่าจึงเป็นการกระทำ
ที่เกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย
เพื่อป้องกันสิทธิของตนเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาฎีกาที่ ๖๘๓ / ๒๕๑๔ การที่จำเลยวิ่งไล่ตามผู้เสียหายออกไปนอกบ้าน
โดยจำเลยสำคัญผิดว่าผู้เสียหายเป็นคนร้ายที่เข้าไปลักทรัพย์ที่ใต้ถุนเรือนของจำเลย
เป็นการกระทำเพื่อป้องกันสิทธิในทรัพย์ของตน แต่เมื่อจำเลยวิ่งไล่ไปทันผู้เสียหาย
แล้วใช้อาวุธมีดแทงผู้เสียหายถูกที่หลัง ๔ แผล ที่ข้อศอก ๑ แผล โดยไม่ปรากฎว่า
ผู้เสียหายมีอาวุธหรือแสดงอาการขัดขืนต่อสู้ เช่นนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำเกินกว่า
กรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกันตาม ป. อาญา มาตรา ๖๙ ..
..แต่ถ้า คนร้ายมีอาวุธติดตัวมาด้วย .. หรือแสดงกริยาหันมาจะทำร้ายเจ้าทรัพย์ ..
ก็มีคำพิพากษาฎีกาว่าเป็นป้องกันพอแก่เหตุได้เช่น
คำพิพากษาฎีกาที่ 943/2508 คนร้ายจูงกระบือไปจากใต้ถุนเรื่อนจำเลย..
เมื่อเวลา 24 น. จำเลยร้องถาม คนร้ายหันปืนมาทางจำเลย จำเลยจึงยิง
ปืนไป ๒ นัด คนร้ายตาย จำเลยเคยถูกลักกระบือมาแล้ว ๑ ครั้งและหมู่บ้านนั้น
มีการลักกระบือกันเสมอ ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ ไม่มีความผิด ..
***ดังนั้น .. ถ้าจะเอาหลักที่ชัวร์ ไว้ก่อนในตอนนี้ก็ต้องไม่ยิงคนร้ายมือเปล่าขณะเขาวิ่งหลบหนี
โดยอาจจะหาวิธี/หนทาง . สกัดกั้นหรือหยุดยั้งเป็นวิธีอื่น ..
เว้นแต่ . คนร้ายหันมามีอาวุธ.. จะเล่นงานเรา .......เท่านั้น ***
ฉะนั้น .. ต้องวิเคราะห์ดูให้ดีก่อนตัดสินใจ ...หากเจอเหตุการณ์คนร้ายวิ่งพาทรัพย์เราไปหลบหนี
แล้วเรากำลังวิ่งตาม .........