ผมว่าต้อง ใจเย็น และ ทำใจให้เป็นกลางหน่อยนะครับ..........
กองทะเบียนตำรวจเดิม ทำงานอาวุธปืน ใช้คนร่วมๆ 200 ............พอเปลี่ยนงานมาที่ มท. มีคนหลักๆ ทราบมาว่า แค่ 18 คน (ที่เหลือต้องไปเกณฑ์ อส. มาช่วย) เพราะตอนแรกวางแผนว่า จะมีตำรวจกองทะเบียนโอนมา ปรากฎว่าไม่มาสักคนเดียว.................นายทะเบียนที่รับมอบอำนาจท่านใหม่ มีท่านเดียว เซ็นต์คนเดียว................กรุงเทพฯ มี 50 เขต( 50 อำเภอ) กำลังซื้อปืนสูงกว่า คน ตจว.ด้วย.............ร้านค้าอีกกี่ใบอนุญาต ก็ร่วมๆ300 ใบ..........บริการชาวบ้าน ทั้งขอใหม่ รับโอน ตัดยอดเข้า-ออก ออกใบคุมปืน ฯลฯ.........ตรวจปืนใหม่ ตอกเลขใหม่ ผมว่าแค่นี้ก็จะตายแล้วครับ..........ไหนจะเรื่องที่ยื่นไปแล้ว มีคนโทรไปตามเรื่องวันหนึ่งเป็น ร้อยๆสาย .............ถามอย่างเดียวไม่เท่าไหร่ บางคนด่าด้วย...............โทรไปติดยาก เพราะไม่ใช่เราคนเดียวที่โทรไป พอติดก็ด่าก่อน...........คนรับเรื่องโดนหนักๆเข้า ผมว่าประสาทกินเอานะครับ เผลอๆด่าสวนเข้าให้(เพราะคนเราก็มีอารมณ์เหมือนกัน)..............คงต้องให้เวลาหน่วยงานนี้ ปรับกระบวนการให้เข้าที่เข้าทางหน่อย.............ผมทราบมาว่า วันๆหนึ่งเฉพาะคนยื่นเรื่อง ก็ร่วมๆ 2-300 รายแล้ว..................
ผมเองเรื่องค้าง 5 กระบอกครับ.............สองกระบอกแรก ตั้งแต่กองทะเบียนเก่า จ่าย ค่า ป.4 ไปแล้ว ที่กองทะเบียนเก่า ทั้งบิลทั้งใบนัดก็มีกระบอกละ 500 ตอนนี้ป.4 ยังไม่ออกเลย.................อีก 3 กระบอกยื่นที่ใหม่นี่แหล่ะเลยเวลานัดมา สามอาทิตย์แล้ว ก็ยังไม่คืบหน้า...............บอกตรงๆ ผมยังไม่เคยคิดจะด่าเขาเลย............ผมคิดอยู่อย่างเดียว ช้าไม่ว่า ขอให้อนุมัติก็แล้วกัน..............
ผมก็ข้าราชการคนหนึ่งครับ................ถึงแม้ว่าไม่ได้ทำงานด้านบริการประชาชน มีความรู้สึก ไม่ค่อย happy เท่าไหร่นัก..............ที่มีคนมาด่าฃ้าราชการเสียๆหายๆ โดยที่ไม่ได้ไตร่ตรองข้อมูลให้ละเอียดลึกซึ้งเท่าไหร่.............ถ้าเป็นข้าราชการที่ประพฤติตัวเลวๆ ก็ด่าไปเถอะครับ พวกนั้นน่ะ เป็นอย่างที่ว่าจริงๆ.................
เขาไม่ได้บริการคุณเพียงคนเดียวในประเทศนะครับ