เห็นภาพป้ายสะพานหินแล้วนึกถึงตอน10กว่าปีที่แล้วค่ะ...
โอมีเพื่อนคนนึง เป็นคนภูเก็ต เค้าชวนลงไปเที่ยวที่นั่น
สบายสิ...ที่พักฟรีเพราะไปนอนบ้านเพื่อน โอก็ชวนเพื่อนอีกคนลงไปด้วยกัน
เจ้าถิ่นก็พาเที่ยวหลายที่ จนตกกลางคืน มันก็ออกไอเดียทะลึ่งว่า
ที่สะพานหินจะมีหนุ่มสาวไปจอดรถจู๋จี๋กัน ไปดูกันมะ ฟิล์มรถชั้นมืดไม่มีใครรู้หรอก
ไอ้เรากับเพื่อนอีกคนก็ทะลึ่งตอบตกลง เพื่อนมันเลยเอารถซีวิคแม่มันไป ในรถคันนั้นก็ครบแก๊งส์ค่ะ 3คน
พอไปถึง ที่นั้นเป็นลานดินกว้างๆ ปลายทางเป็นทะเล และไม่มีรั้วกัน
มีรถจอดอยู่แล้วประมาณ 3คัน เพื่อนโอเค้าก็ไปจอดตรงจุดที่ยังไม่มีใครไปจอด
ที่สำคัญมันมืดมากค่ะ มีแค่แสงของไฟหน้ารถเท่านั้นที่เราจะทำให้เราเห็นทางได้
ด้วยความที่มันมืดมาก มองไม่เห็นอะไรเลย ฝนก็เริ่มตก จอดอยู่ประมาณไม่เกิน10นาที ก็บอกว่าออกกันเหอะ
เพื่อนเจ้าถิ่นก็เห็นด้วย ก็สตาร์ทรถเตรีมตัวออกจากสะพานหิน
แต่พอเร่งเครื่องป๊าบบบบบบ รถอยู่กับที่ค่ะ เร่งเครื่องอีก ก็อยู่กับที่...ซวยแล้วสิ
สาวๆทั้ง3คน ลงมาจากรถมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น เวรกรรม รถติดหล่ม โดยล้อหลังจมไปแล้วครึ่งล้อ
ทั้งโอและเพื่อนก็พยายามหาทางแก้ไขกัน โดยการหาแผ่นไม้มารองล้อที่มันติด แต่ก็ไม่ได้ผล รถมันไม่ขึ้นอ่ะค่ะ
พยายามแก้ไขกันอยู่นาน จนตัวเลอะดิน เลอะโคลนกันทั่วหน้า แต่ก็ยังไม่สำเร็จ
เพื่อนโอตัดสินใจโทรหาน้าสาว ให้มาช่วย
ระหว่างที่รอน้ามานั้นรถที่เคยเห็นจอดอยู่ ก็ค่อยๆหายไปทีละคัน จนเหลือรถที่ติดหล่มจอดเหงาอยู่คันเดียว
พอน้ามาถึง ก็มาพร้อมกับรถลากแบบ 6ล้อ
ไอ้คนขับ 6ล้อกับเด็กรถลงมาดูรถที่ติดหล่ม โดยใส่เกียร์ว่างและไม่ได้ดึงเบรคมือ
รถ 6ล้อมันก็ไหลอ่ะสิคะ โดยทิศทางคือมุ่งหน้าไปทางทะเล
โอได้แต่วิ่งตามรถไปตะโกนไปว่ารถไหล จนคนขับซึ่งวิ่งเร็วกว่า วิ่งตามรถทันและกระโดดขึ้นรถไปดึงเบรคมือ
ทุกคนโล่งอก เพราะหากรถ 6ล้อลงทะเลไป คงจะเป็นที่ฮือฮาของคนละแวกนั้นเป็นแน่แท้
หลังจากนั้นรถ 6ล้อก็ดึงรถซีวิคขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย และพวกโอก็กลับมาที่บ้านเพื่อนอย่างหมดสภาพ
ส่วนเพื่อนโอก็โดนแม่และน้าสวดไปหลายจบเลยอ่ะค่ะ