เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 16, 2024, 03:39:02 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ที่มาของคำต่างๆนานา  (อ่าน 3533 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หงส์ซิ่ง ♥ รักในหลวง ♥
Hero Member
*****

คะแนน 1157
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5477



« เมื่อ: ธันวาคม 14, 2007, 04:16:06 AM »

copyมาครับ

"ไม่เป็นสับปะรด"

คำนี้ไม่เกี่ยวกับสับปะรดเลย คำนี้ใช้กันมานานแล้วสันนิษฐานว่ามาจากคำว่า

สรรพรสแปลว่า หลากหลายรส มีรสทั้งหลาย เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม ครบหมด ดังนั้นอาหารที่ ไม่เป็นสรรพรส คืออาหารที่ไม่ค่อยมีรสชาติ ไม่เปรี้ยว หรือหวาน หรือมัน หรือเค็ม อย่างใดทั้งสิ้น

นานเข้าคนที่ฟังไม่เข้าใจจึงพูดลาก เข้ามาหาคำว่าสับปะรด จากไม่เป็นสรรพรสเพี้ยนมา
เป็น ไม่เป็นสับปะรด แล้วมีความหมายเปรียบเทียบว่า หมายถึงการทำอะไรที่ไม่ได้เรื่องนั่นเอง

"ธารกำนัล"
คำว่าธารกำนัล คำนี้ใช้กันมานานแล้วนะครับ เช่นจะใช้ในสถานการณ์ที่ว่า ซึ่งคำนี้มีความหมายว่า การพูดในที่ประชุมชน หรือที่มีคนอยู่จำนวนมาก แต่เดิมคำว่า ธารกำนัล มาจาก ธาร หมายถึงภรรยา โบราณจะใช้คำว่าธารเรียกผู้ที่เป็น เมีย และกำนัล

หมายถึง นางรับใช้ สมัยก่อนเชื่อกันว่าผู้หญิงมักจะรักษาความรับไม่ได้ จะช่างพูดช่างเจรจา เรื่องราวที่พูดกันในบ้านทั้ง ความลับและไม่ลับก็จะโจษจันจนรู้กันทั่ว

จึงไม่ควรพูดความลับต่อธารกำนัล ซึ่งก็หมายความว่า
อย่าเอาเรื่องรวความลับหรือเรื่องในบ้านไปพูดให้เมียหรือพวกนางกำนัลฟังก็คือ อย่าพูดต่อหน้าธารกำนัลนั่นเอง แต่ต่อมาความหมาย ของคำว่า ธารกำนัล เปลี่ยนไปกลายเป็น ที่ที่ประชุมชน มีคนจำนวนมากครับ

"เบญจกัลยาณี"
คำว่า “เบญจกัลยาณี” ซึ่งแปลว่า ความงามของผู้หญิง ๕ ประการครับเป็นความงามด้านรูปสมบัติ ที่ผู้หญิงเดี๋ยวนี้ควรรู้ไว้ ต้องบอก ก่อนว่า “เบญจกัลยาณี” เป็นความงามของผู้หญิงที่นิยมกันมาแต่ในครั้งพุทธกาล คุณผู้หญิงที่นั่งดูอยู่ ลองดูนะครับว่า ตัวเองมีครบหรือไม่ คือ
๑. ผมงาม ๒. เนื้องาม ๓. กระดูกงาม ๔. ผิวงาม ๕. วัยงาม
ผมงาม คือ ผมยาวที่เกล้ารัดไว้ที่ท้ายทอย เวลาปล่อยสยายปลายผมจะกระทบชายผ้านุ่ง วกปลายขึ้นงอนเล็กน้อย
เนื้องาม หมายถึง เนื้อเหงือกครับ สีจะแดงสดเหมือนลูกพลับสด เรียบสนิทแนบแน่นอยู่กับฟัน
กระดูกงาม หมายถึง ฟันครับ ฟันจะต้องขาวเป็นเงาเรียบสนิท ไม่ห่างไม่ชิดเกินไป
ผิวงาม คือ ถ้าเป็นผิวดำต้องดำสนิท เหมือนสีบัวเขียว ถ้าขาวต้องขาวแบบดอกกรรณิการ์
วัยงาม ก็คือ อายุของผู้หญิง ที่แม้จะมีลูกถึง ๑๐ คนก็ต้องดูงามเสมือนมีเพียงคนเดียว ถึงอายุมากก็ ต้องดูกระชุ่มกระชวย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 14, 2007, 11:36:29 AM โดย หงส์ซิ่ง(อั๋น) » บันทึกการเข้า
หงส์ซิ่ง ♥ รักในหลวง ♥
Hero Member
*****

คะแนน 1157
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5477



« ตอบ #1 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2007, 04:17:44 AM »

"พระเจ้าเหา"
คำว่าพระเจ้าเหา มีที่มาน่าสนใจทีเดียว และที่สำคัญ เมื่อไปสืบค้นข้อมูลมาแล้วเนี่ย รู้ไหมครับว่า พระเจ้าเหา เป็นบุคคลที่มีตัวตน จริงด้วย ไม่ใช่คนที่กล่าวอ้างขึ้นลอยๆ

***ในหนังสือของอาจารย์พลายน้อยซึ่งกล่าวไว้ว่า หลวงจีนเย็นเกียรติ (ลิขิต ชุนตตระกูล) เป็นผู้ค้นคว้า พระราชประวัติของพระเจ้าเหาขึ้น โดยเขียนไว้ในหนังสือ ประวัติความสัมพันธ์ระหว่างชาติไทย กับชาติจีนขึ้น เมื่อปี 2509 ว่า
“พระเจ้าเสียวเหา”หรือพระเจ้าเหา เป็นโอรสของพระเจ้าหว่างตี้ ปฐมกษัตริย์ของจีน (ครองราชย์ก่อนพ.ศ. 2154-2055) พระมารดา ของพระเจ้าเหา

ซึ่งเป็นมเหสีของหว่างตี้ฮ่องเต้ มีโอรส ๓ องค์ คือ ซังฮี ๒.เสียวเหา ๓. หลงเมียว ซึ่งพระเจ้าเหาครองราชย์ต่อพระราช บิดาในปีมะโรง เมื่อ 2055 ก่อนพุทธกาล และเชื่อกันว่าเชื้อพระวงศ์ของพระเจ้าเหากลายเป็นต้นตระกูลของไทยต่อมาด้วย
บันทึกการเข้า
หงส์ซิ่ง ♥ รักในหลวง ♥
Hero Member
*****

คะแนน 1157
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5477



« ตอบ #2 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2007, 04:24:53 AM »

"สิบแปดมงกุฎ"
คำว่า “๑๘ มงกุฎ” เป็นคำที่มีปรากฏอยู่ในรามเกียรติ์ เป็นคำเรียกของทหารที่เป็นลิงชั้นนายที่มีมงกุฎสวม ๑๘ ตัวเช่น นิลเสน นิ นนนท์ ฯลฯ ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้มีการนำคำนี้มาใช้เปรียบเทียบกับ การหลอกลวง หรือแก็งค์ต้มตุ๋นแต่อย่างใด

แต่ต่อมามีการนำคำนี้มาใช้ เมื่อ ๑๐๐ ปีที่แล้ว โดยใช้กับพวกนักเลงการพนัน นักเลงการพนันอย่างเดียวนะครับยังไม่ได้เหมารวมถึง พวกแก็งค์ต้มตุ๋น ซึ่งเมื่อ ๑๐๐ ปีที่แล้วมีนักเลงการพนันที่มีชื่อเสียงพวกหนึ่ง ฝีมือระดับเซียน พวกนี้จะสักตรามงกุฎ ตามร่างกาย ทาง การจึง เรียกพวกนี้ว่า ๑๘ มงกุฎตามเรื่องในรามเกียรติ์

จากนั้นมา ใครเป็นพวกนักเลงพนันใหญ่ก็จะเรียกว่า ๑๘ มงกุฎ แต่ต่อมาพวกหนังสือพิมพ์ก็เอาไปใช้กับพวกแก๊งค์ต้มตุ๋น ด้วย


ท่านใดมีที่มาของคำต่างๆ นำมาลงแบ่งปันความรู้กันครับ
บันทึกการเข้า
SaSa
Hero Member
*****

คะแนน 60
ออฟไลน์

กระทู้: 1290


“โกธํ ปญฺญาย อุจฺฉิ” ระงับโกรธด้วยปัญญา


« ตอบ #3 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2007, 07:15:19 AM »

ขอบคุณครับ...
บันทึกการเข้า

ประสบการณ์ (Experience)คือการเรียนรู้จากความผิดพลาดของตนเอง
ความรู้ (Knowledge)คือการเรียนรู้จากความผิดพลาดของคนอื่น
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2007, 07:34:42 AM »

 Smiley ขอบคุณครับ หลายคำที่ไม่ทราบที่มา
บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #5 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2007, 07:56:05 AM »


          เป็นไปได้จริงๆ  ขอบคุณครับสำหรับความรู้เช้านี้
บันทึกการเข้า

                
ห ม า ย จั น ท ร์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 563
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6222



« ตอบ #6 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2007, 08:46:56 AM »

ขอบคุณครับ  Grin
บันทึกการเข้า

thutsayu - รักในหลวง
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 24
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 225



« ตอบ #7 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2007, 10:00:46 AM »

คำว่า "เบญจกัลยาณี"
ผมเคยโดนเพื่อนๆ สมัยเป็นนักเรียนหลอกครับ
1.รูปสวย
2.รวยทรัพย์
3.อัปปัญญา
4.พ่อตาตาย
5.แม่ยายโง่
เลยหามาจนอายุขนาดนี้ ยังไม่เคยพบแบบครบ 5 ข้อสักที
 คิก คิก คิก คิก คิก คิก
บันทึกการเข้า
ชัยบึงกาฬ รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1991
ออฟไลน์

กระทู้: 8962


ต้องรู้ให้ถึงแก่น...


« ตอบ #8 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2007, 10:19:03 AM »

เยี่ยมๆ
บันทึกการเข้า
BADBOY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #9 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2007, 10:24:58 AM »

ขอบคุณมากครับ....ข้อมูลเยี่ยมจริง ๆ  เยี่ยม
บันทึกการเข้า
coda
None of us is as smart as all of us.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1081
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20779



เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2007, 10:45:38 AM »

...ขอสนับสนุนกระทู้ดีๆ ครับ  เยี่ยม
บันทึกการเข้า

Check your monitor:

https://www.facebook.com/StudioCoda

"ยึดปืนคนดี  อัปรีย์จะครองเมือง"
หงส์ซิ่ง ♥ รักในหลวง ♥
Hero Member
*****

คะแนน 1157
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5477



« ตอบ #11 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2007, 01:01:45 PM »

กิริยาอาการ และคุณลักษณะของ ไก่ ถูกมาใช้เปรียบเทียบหรือเปรียบเปรยเป็นสุภาษิตและคำพังเพยในภาษาไทยมากมาย อาทิ
ไก่กินข้าวเปลือก : ธรรมชาติของไก่ชอบกินข้าวเปลือก อุปมาว่าตราบใดที่ไก่ยังกินข้าวเปลือก คนก็ยังชอบกินสินบนอยู่ตราบนั้น
ไก่แก่แม่ปลาช่อน : หญิงมีอายุที่มีมารยาและเล่ห์เหลี่ยมมาก หรือมีกิริยาจัดจ้าน
ไก่ขึ้นรัง : เวลาพลบค่ำ
ไก่เขี่ย : เขียนหวัดยุ่งจนเกือบอ่านไม่ออก
ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง : ไก่งามตามธรรมชาติ คนแต่งเพิ่มเติม
ไก่นา : โง่
ไก่ได้พลอย : ผู้ที่ไม่รู้จักคุณค่า หรือราคาของที่พบ
ไก่บินไม่ตก : บ้านเรือนหนาแน่น
ไก่รองบ่อน : เป็นตัวสำรอง
ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ : รู้ความลับของกันและกัน รู้เท่าทัน
ไก่โห่ : เวลารุ่งสาง ก่อนเวลา ( มาตั้งแต่ไก่โห่ )
ไก่อ่อน : อ่อนหัด ไม่ชำนาญ
งงเป็นไก่ตาแตก : อาการของคนที่ทำอะไรไม่ถูกในสถานการณ์นั้นๆ
เจ้าชู้ไก่แจ้ : อาการของผู้ชายที่เกี้ยวผู้หญิงป้อไปมา เช่นไก่แจ้ที่เดินกรีดกรายป้อตัวเมีย
ซีดเหมือนไก่ต้ม : เปรียบเทียบใบหน้าของผู้ที่ฟื้นจากไข้ หรือหวาดกลัว
ตัดหางปล่อยวัด : สำนวนนี้มาจากการสะเดาะเคราะห์ของคนโบราณ ที่เอาไก่มาตัดหางแล้ว  นำไปปล่อยที่วัด คือเป็นผู้ที่ไม่มีใครสนใจไยดี
ตื่นก่อนไก่ : ตื่นเช้า
ปล่อยไก่ : ปล่อยความโง่ให้ผู้อื่นเห็น
เป็ดขันประชันไก่ : เปรียบเทียบกับผู้ทำสิ่งที่ตนทำไม่ได้ แข่งกับผู้ที่ชำนาญกว่า  ฯลฯ

ไก่สามอย่าง:คอเหล้าคงรู้จักดี เป็นกับแกล้ม แต่ไม่เห็นมีไก่ซักชิ้น อันนี้ยังไม่รู้ที่มาเลยครับ
บันทึกการเข้า
MP 436
Hero Member
*****

คะแนน 186
ออฟไลน์

กระทู้: 1766



« ตอบ #12 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2007, 01:18:12 PM »

ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป
มืออ่อน หมัดแข็ง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 857
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6569


เตสาหัง สิรสา ปาเท วันทามิ ปุริสุตตเม


« ตอบ #13 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2007, 03:30:04 PM »

ขอบคุณครับ   Cheesy
บันทึกการเข้า

บรรพบุรุษของไทยแต่โบราณ ปกบ้านป้องเมืองคุ้มเหย้า
เสียเลือดเสียเนื้อมิใช่เบา หน้าที่เรารักษาสืบไป
      
ลูกหลานเหลนโหลนภายหน้า จะได้มีพสุธาอาศัย
อนาคตจะต้องมีประเทศไทย มิยอมให้ผู้ใดมาทำลาย
sun2000
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 18
ออฟไลน์

กระทู้: 269


« ตอบ #14 เมื่อ: ธันวาคม 14, 2007, 03:52:38 PM »

 เยี่ยม
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.052 วินาที กับ 22 คำสั่ง