เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 11, 2024, 11:29:05 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 [3] 4
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรกับการโฆษณาเกินจริง  (อ่าน 7042 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 8 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
coda
None of us is as smart as all of us.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1081
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20779



เว็บไซต์
« ตอบ #30 เมื่อ: มิถุนายน 07, 2008, 01:20:16 PM »

...มองดีๆ  โลกทุนนิยม บริโภคนิยมก็เป็นอย่างนี้ 
เร่งบริโภค
เร่งผลิต
เร่งกระตุ้น
เร่งกิเลส
เร่งกระแส
เร่งขาย
เร่งการครอบงำ
เร่งการหลอกลวง
เร่งการเอาเปรียบ
เร่งการกดขี่
เร่งการหมดสิ้นของทรัพยากรธรรมชาติ
เร่ง ฯลฯ

...เพื่อให้สิ่งที่เรียกหรูๆ ว่า "วงจรเศรษฐกิจ" อยู่ได้ Huh

...จะเป็นเหยื่อหรือไม่  มีโอกาสเลือกหรือไม่  ตอบตัวเองครับ
บันทึกการเข้า

Check your monitor:

https://www.facebook.com/StudioCoda

"ยึดปืนคนดี  อัปรีย์จะครองเมือง"
vvv_v
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #31 เมื่อ: มิถุนายน 07, 2008, 01:40:48 PM »

มองในแง่สนุกสนาน ตลกขบขันเช่นกันครับ  ไมซีเรียสอะไร เพราะเป็นแค่โฆษณา
เราจะเชื่อหรือไม่ ก็มาตัดสินใจเองภายหลัง  ขำก๊าก Grin Cheesy
เพราะที่เห็นส่วนใหญ่ โฆษณาก็จะออกเว่อร์ๆ อยู่แล้ว  เยาะเย้ย
บันทึกการเข้า
Ramsjai
^ป้าแรมส์ใจดี^
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1075
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 7191


"ชีวิตมีคนที่เกลียดไม่กี่คน ที่เหลือรำคาญ"


« ตอบ #32 เมื่อ: มิถุนายน 07, 2008, 01:49:24 PM »

ถึงต้องใช้วิจารณญานในการชม เด็กๆควรมีผู้ปกครองให้การแนะนำด้วยค่ะ  Cheesy
บันทึกการเข้า

ถ้าเป็นความทรงจำที่มีค่าล่ะก็..ห้ามลืมเด็ดขาด เพราะคนตายจะมีชีวิตอยู่ในความทรงจำของเราเท่านั้น..
-Joke-
Vive la liberté de parole et d'opinion!
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน -459
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4225


^_^


« ตอบ #33 เมื่อ: มิถุนายน 08, 2008, 12:13:01 AM »

แล้วโฆษณาแบบนี้ล่ะครับ

บันทึกการเข้า

A la volonté du peuple
Et à la santé du progrès,
Remplis ton cœur d'un vin rebelle
Et à demain, ami fidèle.
Nous voulons faire la lumière
Malgré le masque de la nuit
Pour illuminer notre terre
Et changer la vie.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #34 เมื่อ: มิถุนายน 08, 2008, 09:45:25 AM »

โค สะ นา ลิโพผสมเหล้าขาวก็ฮาดีครับ Grin
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
KingFisher
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 3
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 229


จริต ๖ ประการ . .


« ตอบ #35 เมื่อ: มิถุนายน 08, 2008, 04:38:35 PM »


แล้วโฆษณาแบบนี้ล่ะครับ


ยุคโน้น
อะไร อะไร ก็ดูจะเกินจริงไปเสียหมด
อีกตัวอย่างครับ ยาแก้ปวด ทันใจ .... กินปุ๊บ หายปั๊บ ครับ
บันทึกการเข้า

เป็นหนี้แผ่นดิน..(ประเทศไทย) !
xiehua dun
เรารักในหลวง
Hero Member
*****

คะแนน 134
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6209


ปัจจุบันวัดความดีของคนที่ กม.


« ตอบ #36 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2008, 02:47:18 PM »

ชอบโคด-สะ-นา สมัยก่อน ดูตรงไปตรงมาดี
บันทึกการเข้า


เพราะฉันจะไป ด้วยหัวใจดวงนี้ สองขาที่มีจะปีนสู่ภูผา
เพราะฉันจะไป ให้เห็นความสุขแท้มันด้วยตา
เมื่อได้มองลงมาเห็นโลกในมุมอีกมุม     มันคงช่างงดงาม
meojustice
Newbie
*

คะแนน 5
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 13



« ตอบ #37 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2008, 04:55:54 PM »

ในฐานะที่จบนิเทศศาสตร์ เอกโฆษณา และเคยประกอบอาชีพเป็นครีเอทีฟด้วย จึงขออนุญาตร่วมแสดงความคิดเห็นค่ะ

โฆษณา ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า ยังไงก็ขายของ เพราะฉะนั้น การทำหนังโฆษณา หรือสื่อต่าง ๆ ที่ท่าน ๆ เห็น ทำไมถึงต้องเกินจริงด้วย

ในปัจจุบันบ้านเรามีสินค้าเป็นพัน ๆ ชิ้น สินค้าที่เป็นประเภทเดียวกัน ก็มีไม่น้อย เพราะฉะนั้น คงไม่มีใครจำได้หมดว่าสินค้าประเภทนี้มีทั้งหมดกี่ยี่ห้อ จึงจำเป็นต้องมีการโฆษณา ซึ่งครีเอทีฟก็จะพยายามทำให้ผู้บริโภคจดจำตราสินค้าให้ได้ ส่วนจะซื้อหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้บริโภค เพราะปัจจัยการเลือกซื้อสินค้ายังต้องประกอบด้วยเงื่อนไขอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น โปรโมชั่นบ้างละ การภักดีต่อตราสินค้าบ้างละ ราคาบ้างละ ภาพพจน์ของสินค้าบ้างละ เป็นต้น ไม่จำเป็นว่าหนังโฆษณาที่ทำออกมาหวือหวาจะทำให้สินค้าขายดีตามไปด้วย (จะใช้เงินเยอะหรือน้อย ใช้ดารามาช่วย ทุกอย่างก็ย่อมขึ้นอยู่กับเจ้าของสินค้าด้วยว่าจะให้เงินมาเท่าไหร่)

ครีเอทีฟ ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะทำโฆษณาออกมาเพื่อหลอกลวงผู้บริโภคแน่นอน
โฆษณาชวนเชื่อ ไม่ใช่ การโกหก เพียงแต่เราไม่พูดความจริงหมดเท่านั้น !!!! (ไม่งั้น ของก็คงจะขายไม่ได้น่ะสิ)
เพราะฉะนั้น ก่อนจะซื้อสินค้าควรทำความเข้าใจและตรวจสอบถึงคุณสมบัติต่าง ๆ ให้ถี่ถ้วนเสียก่อน ยิ่งสินค้าที่มีราคาสูง ยิ่งต้องใช้วิจารณญาณของตนให้มาก ๆ นะคะ เพื่อจะได้คุ้มค่ากับทุกบาททุกสตางค์ที่จ่ายไป
บันทึกการเข้า
Zeus-รักในหลวง
อะฮู้.....ไฮยีน่าก็เป็นแมวนะคราบบบ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 817
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10983


I'm going to make him an offer that he can't refus


« ตอบ #38 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2008, 10:36:26 PM »

ในฐานะที่จบนิเทศศาสตร์ เอกโฆษณา และเคยประกอบอาชีพเป็นครีเอทีฟด้วย จึงขออนุญาตร่วมแสดงความคิดเห็นค่ะ

โฆษณา ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า ยังไงก็ขายของ เพราะฉะนั้น การทำหนังโฆษณา หรือสื่อต่าง ๆ ที่ท่าน ๆ เห็น ทำไมถึงต้องเกินจริงด้วย

ในปัจจุบันบ้านเรามีสินค้าเป็นพัน ๆ ชิ้น สินค้าที่เป็นประเภทเดียวกัน ก็มีไม่น้อย เพราะฉะนั้น คงไม่มีใครจำได้หมดว่าสินค้าประเภทนี้มีทั้งหมดกี่ยี่ห้อ จึงจำเป็นต้องมีการโฆษณา ซึ่งครีเอทีฟก็จะพยายามทำให้ผู้บริโภคจดจำตราสินค้าให้ได้ ส่วนจะซื้อหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้บริโภค เพราะปัจจัยการเลือกซื้อสินค้ายังต้องประกอบด้วยเงื่อนไขอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น โปรโมชั่นบ้างละ การภักดีต่อตราสินค้าบ้างละ ราคาบ้างละ ภาพพจน์ของสินค้าบ้างละ เป็นต้น ไม่จำเป็นว่าหนังโฆษณาที่ทำออกมาหวือหวาจะทำให้สินค้าขายดีตามไปด้วย (จะใช้เงินเยอะหรือน้อย ใช้ดารามาช่วย ทุกอย่างก็ย่อมขึ้นอยู่กับเจ้าของสินค้าด้วยว่าจะให้เงินมาเท่าไหร่)

ครีเอทีฟ ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะทำโฆษณาออกมาเพื่อหลอกลวงผู้บริโภคแน่นอน
โฆษณาชวนเชื่อ ไม่ใช่ การโกหก เพียงแต่เราไม่พูดความจริงหมดเท่านั้น !!!! (ไม่งั้น ของก็คงจะขายไม่ได้น่ะสิ)
เพราะฉะนั้น ก่อนจะซื้อสินค้าควรทำความเข้าใจและตรวจสอบถึงคุณสมบัติต่าง ๆ ให้ถี่ถ้วนเสียก่อน ยิ่งสินค้าที่มีราคาสูง ยิ่งต้องใช้วิจารณญาณของตนให้มาก ๆ นะคะ เพื่อจะได้คุ้มค่ากับทุกบาททุกสตางค์ที่จ่ายไป
ยินดีที่ได้เจอพวกจบสาขาเดียวกันครับ ผมนิเทศ มกท. เอกโฆษณา ตอนจะจบดันเจอพิษต้มยำกุ้ง เลยดึงเกมส์เรียนต่ออีกปี เพื่อให้ผ่านช่วงพิษเศรษฐกิจ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ทำงานในสิ่งที่ตนเองเรียนมา ครับ Grin
ปล.ขอเสริมซักนิดครับ อธิบายง่าย ๆ คือถ้าเอาเราไปหย่อนกลางฝูงชน แล้วจะต้องพยามทำให้ใครซักคนสะดุดตา(ชายหรือหญิง)จำเราให้ได้ เราต้องเด่น และตะโกนเสียงดัง แต่เขาจะเลือกเราหรือเปล่า นั้นเป็นสิ่งที่เขาจะพิจารณาจากความพึงพอใจ ใช้มั้ยครับ............................และคนจบนิเทศเลยมีเวรมีกรรมที่จะไม่ยอมเชื่ออะไรที่พี่ ๆ น้อง ๆ ของเราพยามทำออกมาให้เราดู ให้ฟัง หรือนำเสนอ  เว้นแต่จะได้ทดลองและพิจารณาด้วยตนเอง Cheesy
บันทึกการเข้า

“A fear of weapons is a sign of retarded sexual and
emotional maturity.”
- Sigmund Freud

“ความกลัวอาวุธคือสัญญาณของความถดถอยทางเพศและวุฒิภาวะทางอารมณ์”
- ซิกมุนด์ ฟรอยด์
จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 10195
ออฟไลน์

กระทู้: 47057


M85.ss


« ตอบ #39 เมื่อ: มิถุนายน 10, 2008, 08:14:35 AM »

เคยมี โฆษณา เครื่องดื่มน้ำอัดลม ที่สโลแกนเขาว่า  "ใหญ่จนไม่สามารถให้เห็นทั้งขวดได้ทางทีวี" เราก็นึกในใจมันจะใหญ่แค่ใหนว๊ะ สนามฟุตบอลศุภฯใหย๋ยังงั้นเขายังถ่ายให้เห็นหมด บู่
บันทึกการเข้า

xiehua dun
เรารักในหลวง
Hero Member
*****

คะแนน 134
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6209


ปัจจุบันวัดความดีของคนที่ กม.


« ตอบ #40 เมื่อ: มิถุนายน 10, 2008, 08:22:57 AM »

หัวใจโฆษณา ต้องทำให้เด่นสะดุดตาตรึงใจครับ
บันทึกการเข้า


เพราะฉันจะไป ด้วยหัวใจดวงนี้ สองขาที่มีจะปีนสู่ภูผา
เพราะฉันจะไป ให้เห็นความสุขแท้มันด้วยตา
เมื่อได้มองลงมาเห็นโลกในมุมอีกมุม     มันคงช่างงดงาม
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #41 เมื่อ: มิถุนายน 10, 2008, 10:01:01 AM »

ในฐานะที่จบนิเทศศาสตร์ เอกโฆษณา และเคยประกอบอาชีพเป็นครีเอทีฟด้วย จึงขออนุญาตร่วมแสดงความคิดเห็นค่ะ

โฆษณา ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า ยังไงก็ขายของ เพราะฉะนั้น การทำหนังโฆษณา หรือสื่อต่าง ๆ ที่ท่าน ๆ เห็น ทำไมถึงต้องเกินจริงด้วย

ในปัจจุบันบ้านเรามีสินค้าเป็นพัน ๆ ชิ้น สินค้าที่เป็นประเภทเดียวกัน ก็มีไม่น้อย เพราะฉะนั้น คงไม่มีใครจำได้หมดว่าสินค้าประเภทนี้มีทั้งหมดกี่ยี่ห้อ จึงจำเป็นต้องมีการโฆษณา ซึ่งครีเอทีฟก็จะพยายามทำให้ผู้บริโภคจดจำตราสินค้าให้ได้ ส่วนจะซื้อหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้บริโภค เพราะปัจจัยการเลือกซื้อสินค้ายังต้องประกอบด้วยเงื่อนไขอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น โปรโมชั่นบ้างละ การภักดีต่อตราสินค้าบ้างละ ราคาบ้างละ ภาพพจน์ของสินค้าบ้างละ เป็นต้น ไม่จำเป็นว่าหนังโฆษณาที่ทำออกมาหวือหวาจะทำให้สินค้าขายดีตามไปด้วย (จะใช้เงินเยอะหรือน้อย ใช้ดารามาช่วย ทุกอย่างก็ย่อมขึ้นอยู่กับเจ้าของสินค้าด้วยว่าจะให้เงินมาเท่าไหร่)

ครีเอทีฟ ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะทำโฆษณาออกมาเพื่อหลอกลวงผู้บริโภคแน่นอน
โฆษณาชวนเชื่อ ไม่ใช่ การโกหก เพียงแต่เราไม่พูดความจริงหมดเท่านั้น !!!! (ไม่งั้น ของก็คงจะขายไม่ได้น่ะสิ)
เพราะฉะนั้น ก่อนจะซื้อสินค้าควรทำความเข้าใจและตรวจสอบถึงคุณสมบัติต่าง ๆ ให้ถี่ถ้วนเสียก่อน ยิ่งสินค้าที่มีราคาสูง ยิ่งต้องใช้วิจารณญาณของตนให้มาก ๆ นะคะ เพื่อจะได้คุ้มค่ากับทุกบาททุกสตางค์ที่จ่ายไป
ในฐานะที่จบนิเทศศาสตร์ เอกโฆษณา และเคยประกอบอาชีพเป็นครีเอทีฟด้วย จึงขออนุญาตร่วมแสดงความคิดเห็นค่ะ

โฆษณา ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า ยังไงก็ขายของ เพราะฉะนั้น การทำหนังโฆษณา หรือสื่อต่าง ๆ ที่ท่าน ๆ เห็น ทำไมถึงต้องเกินจริงด้วย

ในปัจจุบันบ้านเรามีสินค้าเป็นพัน ๆ ชิ้น สินค้าที่เป็นประเภทเดียวกัน ก็มีไม่น้อย เพราะฉะนั้น คงไม่มีใครจำได้หมดว่าสินค้าประเภทนี้มีทั้งหมดกี่ยี่ห้อ จึงจำเป็นต้องมีการโฆษณา ซึ่งครีเอทีฟก็จะพยายามทำให้ผู้บริโภคจดจำตราสินค้าให้ได้ ส่วนจะซื้อหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้บริโภค เพราะปัจจัยการเลือกซื้อสินค้ายังต้องประกอบด้วยเงื่อนไขอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น โปรโมชั่นบ้างละ การภักดีต่อตราสินค้าบ้างละ ราคาบ้างละ ภาพพจน์ของสินค้าบ้างละ เป็นต้น ไม่จำเป็นว่าหนังโฆษณาที่ทำออกมาหวือหวาจะทำให้สินค้าขายดีตามไปด้วย (จะใช้เงินเยอะหรือน้อย ใช้ดารามาช่วย ทุกอย่างก็ย่อมขึ้นอยู่กับเจ้าของสินค้าด้วยว่าจะให้เงินมาเท่าไหร่)

ครีเอทีฟ ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะทำโฆษณาออกมาเพื่อหลอกลวงผู้บริโภคแน่นอน
โฆษณาชวนเชื่อ ไม่ใช่ การโกหก เพียงแต่เราไม่พูดความจริงหมดเท่านั้น !!!! (ไม่งั้น ของก็คงจะขายไม่ได้น่ะสิ)เพราะฉะนั้น ก่อนจะซื้อสินค้าควรทำความเข้าใจและตรวจสอบถึงคุณสมบัติต่าง ๆ ให้ถี่ถ้วนเสียก่อน ยิ่งสินค้าที่มีราคาสูง ยิ่งต้องใช้วิจารณญาณของตนให้มาก ๆ นะคะ เพื่อจะได้คุ้มค่ากับทุกบาททุกสตางค์ที่จ่ายไป

ผมว่าบอกความจริงทั้งหมดก็ขายได้ครับ ที่ว่าให้ข้อมูลไม่ครบนี่ไม่ใช่ความหมายที่เท่เลยนะครับ ต่างอะไรกับการบริโภคของอย่างหนึ่ง ได้ผลดีบางอย่าง แต่ไม่บอกว่มีผลกระทบเสียหายอะไรบ้าง?

ผมว่าสิ่งที่วงการโฆษณาเมืองไทยควรทำคือการเปรียบเทียบสินค้าระหว่างยี่ห้ออย่างตรงไปตรงมา มิติ การประหยัดพลังงาน สารอาหาร ฯลฯ 

แทนการให้ข้อมูลไม่ครบ (ซึ่งบางคนอย่างคุณก็กลับคิดไปว่าถ้าให้ข้อมูลครบแล้วขายของไม่ได้) หรือทำตลกปัญญาอ่อน อย่างโซฮอลมันผิด คนจำได้แต่รู้เรื่องอะไรจริงๆ เป็นชิ้นเป็นอันบ้าง?

การโฆษณา ขายสินค้า ไม่ได้มีความหมายแค่ความคุ้มของเงินที่แลกของมา การใช้ของต่างๆ มีผลกระทบที่้ต้องรู้ ต้องเลือกผลกระทบในการใช้ด้วย

ผมอยากจะบอกว่า "การใช้ปืนป้องกันตัวในบ้านนั้นต้องให้พร้อมใช้บรรจุกระสุนวางไว้ในที่ต่างๆ ที่หยิบสะดวก เวลาฉุกเฉินจะได้ไม่เสียเวลาไปเปิดตู้หา หยิบกระสุนบรรจุ"

(เอ้อ ถ้าวางเกะกะคนเห็นง่ายย่องมาขโมย หรือเด็กหยิบไปเล่น ทำลั่นยิงตัวเอง ก็เป็นเรื่องของคุณ "ใช้วิจารณญาณของตนให้มาก ๆ" ผมแค่ "ไม่พูดความจริงหมด" เท่านั้น)


ปล. ความเห็นของคนจบรัฐศาสตร์ /สังคมวิทยา ประกอบอาชีพรับราชการบังคับใช้กฎหมาย
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Zeus-รักในหลวง
อะฮู้.....ไฮยีน่าก็เป็นแมวนะคราบบบ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 817
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10983


I'm going to make him an offer that he can't refus


« ตอบ #42 เมื่อ: มิถุนายน 10, 2008, 10:45:01 AM »

ในฐานะที่จบนิเทศศาสตร์ เอกโฆษณา และเคยประกอบอาชีพเป็นครีเอทีฟด้วย จึงขออนุญาตร่วมแสดงความคิดเห็นค่ะ

โฆษณา ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า ยังไงก็ขายของ เพราะฉะนั้น การทำหนังโฆษณา หรือสื่อต่าง ๆ ที่ท่าน ๆ เห็น ทำไมถึงต้องเกินจริงด้วย

ในปัจจุบันบ้านเรามีสินค้าเป็นพัน ๆ ชิ้น สินค้าที่เป็นประเภทเดียวกัน ก็มีไม่น้อย เพราะฉะนั้น คงไม่มีใครจำได้หมดว่าสินค้าประเภทนี้มีทั้งหมดกี่ยี่ห้อ จึงจำเป็นต้องมีการโฆษณา ซึ่งครีเอทีฟก็จะพยายามทำให้ผู้บริโภคจดจำตราสินค้าให้ได้ ส่วนจะซื้อหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้บริโภค เพราะปัจจัยการเลือกซื้อสินค้ายังต้องประกอบด้วยเงื่อนไขอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น โปรโมชั่นบ้างละ การภักดีต่อตราสินค้าบ้างละ ราคาบ้างละ ภาพพจน์ของสินค้าบ้างละ เป็นต้น ไม่จำเป็นว่าหนังโฆษณาที่ทำออกมาหวือหวาจะทำให้สินค้าขายดีตามไปด้วย (จะใช้เงินเยอะหรือน้อย ใช้ดารามาช่วย ทุกอย่างก็ย่อมขึ้นอยู่กับเจ้าของสินค้าด้วยว่าจะให้เงินมาเท่าไหร่)

ครีเอทีฟ ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะทำโฆษณาออกมาเพื่อหลอกลวงผู้บริโภคแน่นอน
โฆษณาชวนเชื่อ ไม่ใช่ การโกหก เพียงแต่เราไม่พูดความจริงหมดเท่านั้น !!!! (ไม่งั้น ของก็คงจะขายไม่ได้น่ะสิ)
เพราะฉะนั้น ก่อนจะซื้อสินค้าควรทำความเข้าใจและตรวจสอบถึงคุณสมบัติต่าง ๆ ให้ถี่ถ้วนเสียก่อน ยิ่งสินค้าที่มีราคาสูง ยิ่งต้องใช้วิจารณญาณของตนให้มาก ๆ นะคะ เพื่อจะได้คุ้มค่ากับทุกบาททุกสตางค์ที่จ่ายไป
ในฐานะที่จบนิเทศศาสตร์ เอกโฆษณา และเคยประกอบอาชีพเป็นครีเอทีฟด้วย จึงขออนุญาตร่วมแสดงความคิดเห็นค่ะ

โฆษณา ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า ยังไงก็ขายของ เพราะฉะนั้น การทำหนังโฆษณา หรือสื่อต่าง ๆ ที่ท่าน ๆ เห็น ทำไมถึงต้องเกินจริงด้วย

ในปัจจุบันบ้านเรามีสินค้าเป็นพัน ๆ ชิ้น สินค้าที่เป็นประเภทเดียวกัน ก็มีไม่น้อย เพราะฉะนั้น คงไม่มีใครจำได้หมดว่าสินค้าประเภทนี้มีทั้งหมดกี่ยี่ห้อ จึงจำเป็นต้องมีการโฆษณา ซึ่งครีเอทีฟก็จะพยายามทำให้ผู้บริโภคจดจำตราสินค้าให้ได้ ส่วนจะซื้อหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้บริโภค เพราะปัจจัยการเลือกซื้อสินค้ายังต้องประกอบด้วยเงื่อนไขอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น โปรโมชั่นบ้างละ การภักดีต่อตราสินค้าบ้างละ ราคาบ้างละ ภาพพจน์ของสินค้าบ้างละ เป็นต้น ไม่จำเป็นว่าหนังโฆษณาที่ทำออกมาหวือหวาจะทำให้สินค้าขายดีตามไปด้วย (จะใช้เงินเยอะหรือน้อย ใช้ดารามาช่วย ทุกอย่างก็ย่อมขึ้นอยู่กับเจ้าของสินค้าด้วยว่าจะให้เงินมาเท่าไหร่)

ครีเอทีฟ ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะทำโฆษณาออกมาเพื่อหลอกลวงผู้บริโภคแน่นอน
โฆษณาชวนเชื่อ ไม่ใช่ การโกหก เพียงแต่เราไม่พูดความจริงหมดเท่านั้น !!!! (ไม่งั้น ของก็คงจะขายไม่ได้น่ะสิ)เพราะฉะนั้น ก่อนจะซื้อสินค้าควรทำความเข้าใจและตรวจสอบถึงคุณสมบัติต่าง ๆ ให้ถี่ถ้วนเสียก่อน ยิ่งสินค้าที่มีราคาสูง ยิ่งต้องใช้วิจารณญาณของตนให้มาก ๆ นะคะ เพื่อจะได้คุ้มค่ากับทุกบาททุกสตางค์ที่จ่ายไป

ผมว่าบอกความจริงทั้งหมดก็ขายได้ครับ ที่ว่าให้ข้อมูลไม่ครบนี่ไม่ใช่ความหมายที่เท่เลยนะครับ ต่างอะไรกับการบริโภคของอย่างหนึ่ง ได้ผลดีบางอย่าง แต่ไม่บอกว่มีผลกระทบเสียหายอะไรบ้าง?

ผมว่าสิ่งที่วงการโฆษณาเมืองไทยควรทำคือการเปรียบเทียบสินค้าระหว่างยี่ห้ออย่างตรงไปตรงมา มิติ การประหยัดพลังงาน สารอาหาร ฯลฯ 

แทนการให้ข้อมูลไม่ครบ (ซึ่งบางคนอย่างคุณก็กลับคิดไปว่าถ้าให้ข้อมูลครบแล้วขายของไม่ได้) หรือทำตลกปัญญาอ่อน อย่างโซฮอลมันผิด คนจำได้แต่รู้เรื่องอะไรจริงๆ เป็นชิ้นเป็นอันบ้าง?

การโฆษณา ขายสินค้า ไม่ได้มีความหมายแค่ความคุ้มของเงินที่แลกของมา การใช้ของต่างๆ มีผลกระทบที่้ต้องรู้ ต้องเลือกผลกระทบในการใช้ด้วย

ผมอยากจะบอกว่า "การใช้ปืนป้องกันตัวในบ้านนั้นต้องให้พร้อมใช้บรรจุกระสุนวางไว้ในที่ต่างๆ ที่หยิบสะดวก เวลาฉุกเฉินจะได้ไม่เสียเวลาไปเปิดตู้หา หยิบกระสุนบรรจุ"

(เอ้อ ถ้าวางเกะกะคนเห็นง่ายย่องมาขโมย หรือเด็กหยิบไปเล่น ทำลั่นยิงตัวเอง ก็เป็นเรื่องของคุณ "ใช้วิจารณญาณของตนให้มาก ๆ" ผมแค่ "ไม่พูดความจริงหมด" เท่านั้น)


ปล. ความเห็นของคนจบรัฐศาสตร์ /สังคมวิทยา ประกอบอาชีพรับราชการบังคับใช้กฎหมาย

ขออนุญาตตอบพี่เป็นประเด็นประเด็นไปนะครับ
1.ผมว่าบอกความจริงทั้งหมดก็ขายได้ครับ ที่ว่าให้ข้อมูลไม่ครบนี่ไม่ใช่ความหมายที่เท่เลยนะครับ ต่างอะไรกับการบริโภคของอย่างหนึ่ง ได้ผลดีบางอย่าง แต่ไม่บอกว่มีผลกระทบเสียหายอะไรบ้าง
อย่างที่ผมและคุณmeojustice ได้พูดไว้ สัจจะธรรมของการโฆษณาคือการบอกเล่าความจริง แต่ไม่ใช้ความจริงทั้งหมด คนทำโฆษณาจะต้องหาจุดเด่นของสินค้าว่าคืออะไร แล้วจึงนำจุดเด่นนั้นมาวางเป็นแนวคิดหลัก เพื่อสื่อให้กับผู้ชมจดจำ อาทิสบู่ยี่ห้องหนึ่งจุดเด่นที่แตกต่างออกจากยี่ห้ออื่นคือ มีมอยเจอไรเซอร์ผสม อยู่ 1ใน 4 จึงนำมาสู่แนวคิดหลักในการทำโฆษณาว่า มีมอยเจอไรเซอร์ 1ใน 4 ทำให้ผิวนุ่ม แต่ในขณะเดียวกันสบู่ยี่ห้อนี้มีจุดอ่อนคือเหลวง่าย  คำถามคือถ้าผมนำเอาจุดอ่อนมาทำเป็นแนวคิดหลักด้วย(บอกทั้งว่ามีมอยเจอไรเซอร์1/4 แต่เหลวง่าย) มีหวังเละ ครับ ที่แน่ ๆ เจ้าของสินค้าเขาไม่มีทางยอมให้โฆษณาแบบนี้ออกสู่ท้องตลาดแน่นอน โฆษณาจะออกสู่สายตาผู้บริโภคได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของสินค้าว่า จะซื้องานโฆษณาชิ้นนั้นจากเอเจนซี่หรือไม่
2ผมว่าสิ่งที่วงการโฆษณาเมืองไทยควรทำคือการเปรียบเทียบสินค้าระหว่างยี่ห้ออย่างตรงไปตรงมา มิติ การประหยัดพลังงาน สารอาหาร ฯลฯ 
อยากทำครับ แต่ทำไม่ได้ ไม่งั้นมีรายการฟ้องรองกันสนุกเลย แต่ในขณะเดียวกันก็มีหนังสือเฉพาะที่เปรียบเทียบข้อมูลสินค้า หรือฉลากซึ่งแสดงถึงปริมาณอัตราส่วนของ โปรตีน แคลลอรี่ ฯลฯ (แค่โฆษณาล้อสิ้นค้ากันนี่ก็เป็นเรื่องแล้วครับในเมืองไทย)
         ข้อมูลเพิ่มเติมคือ ในกรณีของสินค้าที่เป็นเครื่องอุปโภค บริโภค จะต้องผ่านคณะกรรมการจากระทรวงหนึ่ง(สธ.ถ้าจำไม่ผิด)พิจารณาว่าเป็นการโฆษณาเกินจริงหรือไม่  แต่ผมไม่ทราบเหมื่อนกันว่าปัจจุบันยังต้องผ่านอยู่หรือไม่
         บางครั้งสินค้าคู่แข่งก็จะร้องเรียนโฆษณาที่ดูเกินจริง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อยอดขายสินค้าของเขา
         ทฤษฎีของการทำโฆษณา คือทำให้เกิดท๊อปออฟไมล(สะกดถูกมั้ยหว่า) แปลไทยคือการคิดถึงสินค้าที่ตนทำโฆษณาเป็นอันดับแรก ง่าย  ๆ คือผมถามว่าสบู่ ยี่ห้อใดที่เรานึกถึงนั้นคืออันดับ 1 ซึ่งเป็นสุดยอดปราถน่าของนักโฆษณา
        เครื่องดืมชูกำลัง ที่ห้ามดื่มเกินวันละ 2 ขวดโปรดสังเกตุคำเตือนบนฉลากก่อนดื่มทุกครั้ง หรือโฆษณาอื่น ๆ ที่มีกฎหมายบังคับให้ทำ ประเด็นคือหากคณะกรรมการไม่อนุญาตให้ผ่าน ก็ไม่สามารถออกมาให้เราดูได้ บางครั้งคนทำโฆษณาอยากทำอย่างหนึ่ง เจ้าของสินค้าต้องการอีกแบบหนึ่ง ก็ต้องตามใจเจ้าของสินค้า ถ้าโฆษณาไม่ผ่านก็ต้องปรับแก้ตามที่กฎหมายกำหนด
      โฆษณาเป็นศิลปะที่มีธุระกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง ส่วนผสมจึงไม่แน่นอนว่าอะไรเท่าไหร่ สิ่งหนึ่งที่เด็กนิเทศทุก ๆ คนจะถูกสอนคือ "ปากกาในมือคุณ ฆ่าคนก็ได้ ช่วยคนก็ได้ คุณต้องใช้วิจารณญาณในการใช้อย่างมีคุณธรรมและระมัดระวัง" นี่คือหลักของจริยธรรมของสื่อสารมวลชน หากใครซักคนทำเรื่องไม่ดีไม่งามซักครั้ง วงการนี้มันแคบครับ ใครคนนั้นก็จะไม่มีที่ยืนอยู่อีกต่อไป....................................เฮ้อนาน ๆ ถึงได้มีโอกาศเถียงพี่ซักที อิอิ ไหว้ Cheesy
ปล.โฆษณาของพวกขายตรง กับพวกทีวีขายตรง ชวนเชื่อหนักกว่านี้อีกครับ เจอพวกนี้ที่ไร ผมสนุกทุกที มาชวนเชื่อใครไม่ชวนดันมาชวนเชื่อกับเด็กโฆษณา ไม่อาปากค้างก็เก็บของแทบไม่ทันแทบทุกรายไป แต่ถ้าสินค้าเขาดีจริง ผมก็ซื้อครับ Cheesy
บันทึกการเข้า

“A fear of weapons is a sign of retarded sexual and
emotional maturity.”
- Sigmund Freud

“ความกลัวอาวุธคือสัญญาณของความถดถอยทางเพศและวุฒิภาวะทางอารมณ์”
- ซิกมุนด์ ฟรอยด์
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #43 เมื่อ: มิถุนายน 10, 2008, 10:53:22 AM »

ขอบคุณครับคุณสนที่ช่วยชี้แจง อิ อิ
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
ซูฮก
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #44 เมื่อ: มิถุนายน 10, 2008, 11:05:30 AM »

ชอบแบบตลกๆครับ จะเกินไปขนาดไหนก็ไม่เป็นไร
เพราะถึงเวลาซื้อจะหารายละเอียดก่อน หรือไม่ก็อ่าน ฉลาก ก่อนซื้อครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.107 วินาที กับ 22 คำสั่ง