เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 26, 2024, 12:26:37 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3 4
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: อาลัย ร.ล.ปิ่นเกล้า "เรือครู" ลูกประดู่ไทย  (อ่าน 8361 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
RMT_NO.1911A1
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2008, 08:49:26 PM »

อ้างถึง
หลังจากรับใช้ประเทศมายาวนานถึง 49 ปี "ร.ล.ปิ่นเกล้า" ซึ่งเปรียบประดุจ "เรือครู" ของลูกประดู่ไทยก็ถึงคราว "เกษียณ" ผู้การเรือ ยอมรับสภาพ แม้จะเศร้าใจ เผย เป็น "เรือยิงสลุต" ที่ในหลวงทรงโปรดปราน ทรงบันทึกภาพการยิงสลุตเป็นประจำ
ราว 60 กว่าปีก่อน เรือรบ HEMMINGER (DE 746) ได้รับภารกิจ "เรือพิฆาตคุ้มกัน" ขบวนเรือสินค้าอังกฤษที่ถูกเรือดำน้ำของนาซีเยอรมันไล่จมลงลำแล้วลำเล่า แต่ภายหลังเมื่อกองทัพฝ่ายอักษะอ่อนแรงลง เรือรบพิฆาตสัญชาติอเมริกันจึงย้ายมาอยู่ในแนวรบด้านแปซิฟิกแทน โดยมีภารกิจหลักคือ เป็น "เรือปราบเรือดำน้ำ" ด้วยระบบโซนาร์และตอร์ปิโด ที่มีสมรรถนะสูงลิ่วในยุคนั้น
 เมื่อไฟแห่งสงครามโลกครั้งที่ 2 ดับลง กองทัพเรือไทย จึงได้รับมอบเรือรุ่นนี้มา 1 ลำ ในฐานะมหามิตรที่ร่วมรบมาด้วยกัน และเรือพิฆาตอเมริกันก็ได้รับนามเรียกขานเสียใหม่ว่า "ร.ล.ปิ่นเกล้า" ตั้งแต่ปี พ.ศ.2502  เกือบครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา เรือลำนี้ได้รับใช้ชาติอย่าง "เกินคุ้ม" ทั้งในฐานะ "เรือครู" ของนักเรียนนายเรือเกือบทุกรุ่น และในฐานะ "เรือฝึกร่วม" ในการฝึกรบกับกองกำลังนานาชาติ  แต่ภารกิจหนึ่งซึ่งยังความภาคภูมิใจสูงสุดแก่ผู้บังคับการเรือและลูกเรือทุกรุ่น คือ การ "ถวายอารักขา" พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระราชวังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์  กระนั้น หลังจากรับใช้ชาตินานถึง 49 ปี กองทัพเรือ ก็มีแนวคิดที่จะ "ปลดระวางประจำการ" เนื่องจากสภาพเรือที่ชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา... พล.ร.ต.วิฑูรย์ คัมภีระพันธุ์ ผู้บัญชาการกองเรือฟริเกตที่ 1 กองเรือยุทธการ อธิบายถึงเหตุผลในการปลดประจำการ ร.ล.ปิ่นเกล้า หลังจากประจำการดูแลน่านน้ำไทยเกือบ 50 ปี
 "ตัวเรือ โดยเฉพาะถังน้ำมัน ใช้ระบบน้ำทะเลเข้าไปแทนที่น้ำมันเพื่อให้เรือมีการทรงตัวที่ดี ซึ่งระบบนี้ทำให้ถังน้ำมันผุกร่อนมาก ขณะเดียวกันเครื่องจักร และอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ก็เสื่อมสภาพไปเรื่อยๆ"  ด้วยเหตุนี้ กองทัพเรือ จึงได้ปลดระวางเรือลำนี้ โดย นายสมัคร สุนทรเวช รมว.กลาโหม ได้เซ็นลงนามไปแล้วตั้งแต่วันที่ 14 เมษายน 2551 แต่จะมีผลอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2551
 กำลังพลประจำเรือไม่อยากให้ปลดประจำการ โดยบอกว่า ยังใช้งานได้ดีอยู่ แต่ก็ได้เตือนสติไปว่า เรื่องนี้เป็น "อนิจจัง" เป็นกฎของ "ไตรลักษณ์" คือ เกิดขึ้น-ตั้งอยู่...แล้วก็ต้องดับไป ซึ่งกองทัพเรือไทยก็จำเป็นต้องก้าวไปเรื่อยๆ
 ถ้าพูดถึงเรื่องความรู้สึกเพียวๆ เขาก็มีความผูกพันกับเรือลำนี้ไม่ต่างจากนักเรียนนายเรือรุ่นก่อนๆ ที่ต่างก็เคยฝึกภาคต่างประเทศกับเรือลำนี้มาแทบทั้งนั้น ข้อดีประการสำคัญอย่างหนึ่งของเรือนี้ คือ "เครื่องทำไอศกรีม" ซึ่งเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นของนักเรียนยุคนั้นที่ได้กินไอศกรีมกลางทะเล  ส่วนความทรงจำในฐานะเรือครู ร.ล.ปิ่นเกล้า มีจุดเด่นอยู่ที่ "ปืน" ซึ่งเป็น "ปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน" เพื่อเอาไว้ป้องกันภัยทางอากาศจากการโจมตีของเครื่องบินของญี่ปุ่น  นอกจากนี้ "เครื่องยนต์" ของ ร.ล.ปิ่นเกล้า ก็มีความทันสมัยมาก เพราะเป็น "เรือมอเตอร์" ซึ่งมีจุดเด่น คือ เสียงเครื่องยนต์ที่เงียบ และยัง "ประหยัดน้ำมัน" มาก ซึ่งแม้แต่เรือยุคใหม่ๆ ก็หันกลับไปใช้ระบบมอเตอร์อีกครั้ง ส่วนภารกิจของ ร.ล.ปิ่นเกล้า ก่อนปลดประจำการจะมีการ "ยิงสลุตหลวง" ถวายที่พระราชวังไกลกังวล ในเดือนสิงหาคมนี้ ก่อนจะเป็นการฝึกภาคทะเลของนักเรียนจ่าทหารเรือ และการยิงสลุตให้บรรดานายทหารชั้นผู้ใหญ่ในกองทัพที่จะเกษียณอายุราชการในปีนี้ พอหลังวันที่ 30 กันยายน เป็นต้นไป ก็จะใช้เป็นเรือฝึกสำหรับนักเรียนจ่าทหารเรือ ที่โรงเรียนชุมพลทหารเรือ ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
น.ท.นิยม พึ่งโต ผู้บังคับการ ร.ล.ปิ่นเกล้า มองการปลดระวางประจำการเรือในครั้งนี้ว่า แม้จำนวนปีจะเยอะ แต่สภาพของเรือตั้งแต่หัวเรือยันท้ายเรือ ระบบอาวุธ ระบบเครื่องจักรใหญ่ ระบบเดินเรือยังอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน แต่ก็จำเป็นต้องปลดประจำการตามระยะเวลา และหลักยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือ  กระนั้น แม้จะเสียดายแค่ไหน แต่ น.ท.นิยม ก็ต้องทำในภารกิจที่ผู้บังคับการเรือไม่อยากทำ คือ การปลดประจำการเรือของตัวเอง ซึ่งเขาก็หวังว่า ถ้านำ ร.ล.ปิ่นเกล้า ไปทำเป็น "เรือฝึกกึ่งพิพิธภัณฑ์" ก็น่าจะยังคงประโยชน์สูงสุดของเรือต่อไป
 อีกภารกิจในฐานะผู้บังคับการเรือที่ถือเป็นความภาคภูมิใจ และเกียรติยศสูงสุดในชีวิต คือ ภารกิจการถวายอารักขา
 โดยครั้งล่าสุด คือ เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ แปรพระราชฐาน ณ พระราชวังไกลกังวล เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2551  ต่อมาในเวลา 16.30 น. ของวันที่ 12 มิถุนายน 2551 ร.ล.ปิ่นเกล้า ได้ทำการยิงสลุต 21 นัด ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 เขาเล่าถึงความพิเศษของภารกิจนี้ว่า ร.ล.ปิ่นเกล้า เป็นเรือลำเดียวที่ยิงสลุตด้วยปืนใหญ่เรือขนาด 76/50 และเข้าไปยิงใกล้ฝั่งที่สุดในระยะ 1,400 หลา ซึ่งจะทำให้ได้ยินเสียงปืนใหญ่ และประกายไฟที่ชัดเจนกว่าเรือทั่วไป  "จากประวัติที่ผ่านๆ มา พระองค์ท่านจะทรงส่องกล้อง และบันทึกภาพในขณะที่เรือวิ่งแปรรูปขบวนเข้ายิงสลุต บางครั้งก็มาทราบจากราชองครักษ์ประจำพระองค์ว่า พระองค์ท่านจะทรงส่องกล้องดูไปจนกระทั่งเรือทิ้งสมอเรียบร้อยแล้ว และมีบางครั้งที่จะพระราชทานรูปกลับมาให้กำลังพลประจำเรือได้ดูกันด้วย ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นความภาคภูมิใจ และตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูกที่เราได้รับภารกิจที่สูงสุดในชีวิตของเรา คือ การถวายอารักขาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" น.ท.นิยมกล่าวด้วยความตื้นตัน
 เป็นความประทับใจ และเกียรติยศสูงสุดครั้งหนึ่งในชีวิตที่ผู้บังคับการเรือคนสุดท้ายของเรือลำนี้ ...
หารประจำเรือ..แสนอาลัย
 ร.ท.ศิริชัย สังวาลย์ อายุ 53 ปี สรั่งปืนประจำเรือ บอกว่า เขาเข้ามาประจำการบนเรือลำนี้ตั้งแต่ปี 2516 และชีวิตที่ผ่านมาก็ต้องบอกว่า "อยู่เรือมากกว่าบ้าน" ซึ่งปีหนึ่งๆ เคยอยู่บนเรือสูงสุดนานถึง 8-9 เดือน จึงไม่ต้องบอกว่าเขาจะผูกพันกับเรือลำนี้แค่ไหน
 เขาบอกว่า รู้ข่าวนี้เมื่อ 3 เดือนก่อน และรู้สึกเหมือน "เสียบ้านหลังที่สอง" ไป ซึ่งใจลึกๆ แล้วเขาก็ไม่อยากให้มีการปลดประจำการ เพราะเรือยังใช้การได้ดีอยู่ แต่เมื่อเป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชาก็พร้อมที่จะปฏิบัติตาม
 พ.จ.อ.บำรุง ไตรญาณ อายุ 41 ปี ช่างกลประจำเรือ ซึ่งประจำการมาตั้งแต่ปี 2528 ก็รู้สึกเสียดายกับการปลดประจำการครั้งนี้มาก ซึ่งถ้าจะให้เปรียบเรือลำนี้เป็นนักกีฬาก็คงจะเปรียบได้กับ "นักกีฬามากประสบการณ์" แต่อยู่ๆ ก็ถูกเรียกตัวออกมาให้หยุดเล่นกลางคัน
 "เขามีความผิดอย่างเดียว คือ มีอายุมากกว่าทุกคนที่เล่นอยู่ในทีม ทำไมเราไม่เก็บเขาไว้เพื่อที่จะเป็นประโยชน์แก่คนรุ่นหลัง ผมเป็นช่างกลเห็นว่าเรือลำนี้มีพื้นฐานที่ดีเกี่ยวกับการศึกษา เพราะมีครบทุกอย่าง ตั้งแต่ไฟฟ้า เครื่องยนต์ หรือหม้อน้ำ"
 แต่ที่สุดเขาก็ยอมรับว่า ชีวิตคนเราต้องมีการเปลี่ยนแปลง และคงไม่ได้มีแต่ทหารเรือในอดีต ต้องมีทหารเรือในอนาคตบ้าง ดังนั้น เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้เขาก็คงพร้อมที่จะยอมรับมัน แต่ถ้าวันหนึ่งมีภารกิจที่จะให้ทำบนเรือนี้อีก...เขาก็พร้อมที่จะกลับมาทำทุกเมื่อ
ศิษย์เก่ารำลึก..เมื่อครู "ปราบเรือดำน้ำ"
 น.อ.สมศักดิ์ วาณิชย์เจริญ รองผู้บัญชาการกองเรือฟริเกตที่ 1 (รอง ผบ.กฟก.1) บอกว่า มีความผูกพันกับเรือลำนี้ไม่ต่างจากนักเรียนนายเรือทุกคน โดยตอนที่เป็นนักเรียนเคยฝึกบนเรือลำนี้มา 2 ครั้ง รวมแล้วเป็นเวลา 100 กว่าวัน
 "ผมรู้สึกว่าเศร้าสลดใจในฐานะที่เคยเป็นผู้อาศัย เคยอยู่ เคยนอน เคยกินบนเรือลำนี้มาก่อน เรือลำนี้เป็นครูบาอาจารย์ของเรา ให้ความรู้เรา แต่เมื่อถึงเวลาที่จะต้องปลดระวางประจำการตามอายุการใช้งานก็เป็นเรื่องนโยบายของทางราชการ"
 เขายอมรับว่า การปลดประจำการ ร.ล.ปิ่นเกล้า ก็ต้องดำเนินต่อไป แต่เขาจะไม่ลืมประสบการณ์ และความรู้ที่ได้จากเรือลำนี้แน่นอน
 ประสบการณ์ประทับใจที่เขาไม่เคยลืมมาจนทุกวันนี้ก็คือ ในการฝึกภาคนักเรียนนายเรือ ตอนปี 3 ร.ล.ปิ่นเกล้า ได้สาธิตการปล่อย "ระเบิดน้ำลึก" กลางมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งเป็นการแสดงสมรรถนะให้เห็นจะจะตาว่า เรือลำนี้สามารถ "ปราบเรือดำน้ำ" ได้จริงๆ
[/color]

ก็เอามาให้อ่านกันครับเผื่อว่าท่านใดในนี้จะรู้จักคุ้นเคยกับคุณครูท่านนี้(ลำนี้) ถ้าพูดถึงเรือปืนแล้วหล่ะก็ต้องยกให้ท่านหล่ะ ปืนประจำเรือมีตั้งแต่ ปืน 76/50  3 กระบอก ปืน 40/60 แท่นคู่ 3 แท่น ปืน .50 นิ้ว 2 กระบอก ตอร์ปิโดแบบแท่นเดี่ยวแฝด 3 อีก 2 แท่น และ แท่นยิงระเบิดน้ำลึก 8 แท่นครับ และปืนเล็กปืนน้อยในคลังอีกเยอะแยะขออภัยครับไม่มีภาพประกอบ ตัวผมเองหลังจบจากโรงเรียนชุมพลฯ เมื่อปี 41 ก็ลงเรือลำนี้เลยเป็นเหมือนบ้านหลังที่สองอยู่กินนอนทุกอย่าง ปืนทุกกระบอกต้องถอดประกอบให้ได้ทั้งหมดเพราะเป็นเหล่าปืนครับ ขึ้เกียจทำปืน(พวกปืนใหญ่ ๆ )ก็เลยมาเอาดีทางเสมี่ยนพิมพ์หนังสืออย่างเดียว และรับผิดชอบพวกปืนเล็กปืนยาวทั้งหลาย เคยแอบถอดพิเศษ 1911 ( ดูคู่มือภาษาฝรั่งประกอบซะด้วย)ปรากฏว่าติดตรงแหนบสามชายและระบบลั่นไกต้องถือไปให้พันจ่าประกอบให้โดนโป๊กหนึ่งทีไม่เข็ดครับแอบทำเรื่อยๆ จนทำได้ทั้งหมดพวกปืนเล็กก็มี  M60  M203(M16+40 mm.) M16  ปืนพกออโต(ส่วนมากเป็นเรฯ)  ลูกซอง(ปั้มเรฯ เก๊าเก่า มาพร้อมเรือมังครับ) ปืนกล M 3 เหมือนกระบอกอัดจารบี ใช้ลูก .45 สุดท้ายปืนพลู ครับ  ผมย้ายขึ้นบกเมื่อปลายปี 46 พี่ ๆ น้อง ๆ ที่อยู่เรือก็บอกว่าเรือออกราชการอยู่บ่อย ๆ มารู้ข่าวอีกทีว่าเซ็นอนุมัติปลดแล้วก็ใจหายครับก็นำมาเล่าสู่กันฟังครับ ไหว้ เศร้า เศร้า
บันทึกการเข้า
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2329
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 84478


« ตอบ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2008, 08:51:25 PM »

ยินดี เรือดี Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
ozero++รักในหลวงมากค่ะ++
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1287
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 25366


มารยาท...มีให้รักษา


« ตอบ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2008, 08:53:08 PM »

โอแค่รู้จักและเคยไปเยี่ยมค่ะ แต่พี่ในเวบแห่งนี้ท่านนึงคุ้นเคยแน่นอนค่ะ Wink
บันทึกการเข้า

เข้ามากด like กันได้นะคะ http://www.facebook.com/OAroi
และ https://www.facebook.com/SiaAke
มะขิ่น
Hero Member
*****

คะแนน 2453
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17813


"ทหารแก่ไม่มีวันตาย แต่จะค่อยๆเลือนหายไป"


« ตอบ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2008, 08:53:44 PM »

มีสมาชิก อวป. ท่านหนึ่งในเวปนี้ เคยเป็น ผู้บังคับการเรือหลวง ลำนี้ครับ ................เดี๋ยวท่านคงมาให้ความเห็นบ้าง ..............................
บันทึกการเข้า

อย่าดึงฟ้าต่ำ  อย่าทำหินแตก  อย่าแยกแผ่นดิน
USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2008, 08:58:07 PM »

สภาพยังดีอยู่เลยครับ   เพิ่งไปเยี่ยมชมมาเมื่อปีที่แล้วเอง
บันทึกการเข้า
Zeus-รักในหลวง
อะฮู้.....ไฮยีน่าก็เป็นแมวนะคราบบบ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 817
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10983


I'm going to make him an offer that he can't refus


« ตอบ #5 เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2008, 09:00:16 PM »

มีสมาชิก อวป. ท่านหนึ่งในเวปนี้ เคยเป็น ผู้บังคับการเรือหลวง ลำนี้ครับ ................เดี๋ยวท่านคงมาให้ความเห็นบ้าง ..............................
รออยู่เหมือนกันครับ Grin
โอแค่รู้จักและเคยไปเยี่ยมค่ะ แต่พี่ในเวบแห่งนี้ท่านนึงคุ้นเคยแน่นอนค่ะ Wink
ระหว่างรอ.......สัมภาษเจ๊ไปพลาง ๆ ก่อน เอออออ กับข้าวอร่อยมั้ยครับ....ทานไปกี่จานครับเจ๊ คิก คิก
อะแว๊บบบบบบบบบบบบบบ คิก คิก
บันทึกการเข้า

“A fear of weapons is a sign of retarded sexual and
emotional maturity.”
- Sigmund Freud

“ความกลัวอาวุธคือสัญญาณของความถดถอยทางเพศและวุฒิภาวะทางอารมณ์”
- ซิกมุนด์ ฟรอยด์
coda
None of us is as smart as all of us.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1081
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20779



เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2008, 09:09:03 PM »

...เคยไปเยี่ยม รล. ลำนี้ครั้งหนึ่ง  อ่านแล้วใจหายครับ








« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 25, 2008, 09:30:05 PM โดย coda » บันทึกการเข้า

Check your monitor:

https://www.facebook.com/StudioCoda

"ยึดปืนคนดี  อัปรีย์จะครองเมือง"
ทิดเป้า
Hero Member
*****

คะแนน -1181
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 11916



« ตอบ #7 เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2008, 09:09:21 PM »

 ไหว้ถึงเวลาที่เรือครูลำนี้ ได้เกษียณ  พักผ่อนหลังจากที่ปกป้องอธิปไตยมาถึง 49 ปี....เหลือแต่วีรกรรม และตำนาน ให้ลูกหลาน เล่าขานต่อกันไปด้วยความชื่นชม

 ไหว้ผมมีหมวกที่ระลึกจากเรือหลวงลำนี้ 1 ใบ...เก็บไว้ให้ลูกหลาน...เป็นตำนานของครอบครัวเล็กๆของผมเช่นกันครับ
บันทึกการเข้า

ozero++รักในหลวงมากค่ะ++
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1287
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 25366


มารยาท...มีให้รักษา


« ตอบ #8 เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2008, 09:18:54 PM »

โอแค่รู้จักและเคยไปเยี่ยมค่ะ แต่พี่ในเวบแห่งนี้ท่านนึงคุ้นเคยแน่นอนค่ะ Wink
ระหว่างรอ.......สัมภาษเจ๊ไปพลาง ๆ ก่อน เอออออ กับข้าวอร่อยมั้ยครับ....ทานไปกี่จานครับเจ๊ คิก คิก
อะแว๊บบบบบบบบบบบบบบ คิก คิก

มื้อเย็นกำลังทานอยู่จ้า ทานข้าวกล้อง 1จานใหญ่ คอร์นบีฟ ต้มข่าปลาทูน่า ค่ะ Grin
บันทึกการเข้า

เข้ามากด like กันได้นะคะ http://www.facebook.com/OAroi
และ https://www.facebook.com/SiaAke
RMT_NO.1911A1
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #9 เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2008, 09:20:17 PM »

เรื่องเรือปลดประจำการเนี่ยได้ยินมาตั้งแต่ครั้งเมื่อผมลงเรือใหม่ๆ นู่นหล่ะครับ เมื่อประมาณกลางเดือนก็ขับรถผ่านไปทำธุระที่ท่าเรือก็เห็นจอดเทียบท่าทาสีใหม่อยู่เลยพอดีเป็นธุระเร่งด่วนของผู้บังคับบัญชาก็เลยไม่ได้แวะทักทายพี่ๆ น้อง ๆ อาทิตย์ที่เจอแล้วรุ่นน้องย้ายขึ้นพร้อมกันบอกพี่ได้ข่าวเรือปลดรึยังผมเพิ่งไปนั่งตกหมึกท้ายเรือกับเพื่อนมาหนังสือพิมพ์คมชัดลึกขายเกลี้ยงเลยชาวเรือปิ่นเหมาหมดหาข่าวเรือปลดกัน
บันทึกการเข้า
RMT_NO.1911A1
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2008, 09:23:25 PM »

เอาอีกแล้วกินข้าวกันอีกแล้ว น้ำลายหก น้ำลายหก น้ำลายหกขออนุญาตจะไม่ชวนเจ้าของกระทู้กินบ้างหรือครับ
บันทึกการเข้า
ozero++รักในหลวงมากค่ะ++
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1287
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 25366


มารยาท...มีให้รักษา


« ตอบ #11 เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2008, 09:29:33 PM »

แหะๆ...ไม่ทันอ่ะค่ะ...หมดแย๊ว Grin
ต้องขออภัยด้วยค่ะ ยิ้มีเลศนัย
บันทึกการเข้า

เข้ามากด like กันได้นะคะ http://www.facebook.com/OAroi
และ https://www.facebook.com/SiaAke
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #12 เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2008, 09:33:19 PM »

ขอบคุณมากครับ คุณ RMT_NO.1911A1. อ่านเรื่องราวนี้ แล้ว เหมือนได้ยินเพลง พระนิพนธ์ ของสมเด็จกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ..คลอไปด้วย   ไหว้

สมาชิกท่านหนึ่งในเวปนี้ .คือ อดีตผู้ับังคับการ เรือหลวง ปิ่นเกล้า .
ขณะประจำการ เป็นผู้บังคับการเรื่อ..  เสียดายครับ ที่ผมไม่ได้มีโอกาสได้ไปเยี่ยมชม.   หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า

RMT_NO.1911A1
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #13 เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2008, 09:36:44 PM »

สิ่งที่ภาคภูมิใจที่สุดในชีวิตเมื่อครั้งปฏิบัติงานบนเรือลำนี้ก็คือการได้ปฏิบัติราชการหมู่เรือรักษาการณ์ถวายความปลอดภัยและยิงสลุตหลวงถวาย องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ วังไกลกังวล และได้เฝ้ารับเสด็จองค์สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถอย่างไกล้ชิดโดยที่พระองค์ท่านเสด็จมาประทับบนเรือเพื่อทอดพระเนตรการว่ายน้ำของกำลังพลในหมู่เรือรักษาการณ์และข้าราชบริพาร ซึ่งตัวผมเองได้เข้าเฝ้ารับพระราชทานสร้อยพร้อมหลวงปู่ทวดจากพระองค์ท่านด้วย
บันทึกการเข้า
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1960
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22591


"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."


« ตอบ #14 เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2008, 09:44:59 PM »

เสียดายครับ...

แต่ถ้าหากอนุรักษ์ไว้เป็นพิพิธภัณฑ์ลอยน้ำกึ่งเรือฝึกก็ยังดีครับ...ไหว้
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3 4
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.104 วินาที กับ 22 คำสั่ง