ผมอยากจะเสนอต่อสาธารณชนได้ทราบหลังจากที่ได้ไปเห็นสนามบินใหญ่ๆ มาประมาณครึ่งโลก (ผมมองปัญหาแบบคนที่มีพื้นฐานด้านวิศวะฯ และปริญญาโท และก็ทำงานด้านแวดวงการบินอยู่ด้วย) ว่า ท่านควรที่จะออกแบบการขนส่งสาธารณะแบบที่เห็นคนเป็นศูนย์กลางครับ ไม่ใช่เห็นผู้โดยสารเป็นเหยื่อไปซะหมด
ทุกวันนี้ทุกสิ่งทุกอย่างเอาเงินเป็นที่ตั้งก็เลยออกมาเป็นอย่างนี้
ชานชลาชั้นผู้โดยสารขาเข้า ทำเป็นช่องจอดสำหรับรถเมล์ขสมก. ไปทุกทิศทุกทางในกรุงเทพฯ และปริมณทล ครับ เช่นไปรังสิต หรือปากเกร็ด, พระประแดง อะไรทำนองนี้ เรียงตามตัวอักษรหรือจะเรียงตามหมายเลขสายของรถก็ได้ ออกบ่อยๆ ถี่ๆ จะได้ระบายคนได้เร็ว
ส่วนศูนย์ขนส่งที่มีอยู่ ควรจะย้ายไปอยู่ที่ลานจอดรถที่มันยังเป็นลานว่างๆ ด้านข้างของอาคารจอดรถทั้งสองด้านอยู่ในขณะนี้ ครับ ยกให้ขนส่งเขาทำเป็นสถานีขนส่งไปเลย ไอ้ศูนย์ที่มีอยู่ทุกวันนี้ก็ให้มันเป็นที่จอดเตรียมรถไป รวมทั้งซ่อมบำรุงรักษา รวมทั้งเป็นที่พักของพนง.ขับรถและกระเป๋ารถ เมื่อถึงเวลาก็ค่อยวิ่งเข้ามาจอดที่หน้าอาคารผู้โดยสาร ทั้งรถเมล์ขสมก. และรถบขส. ระยะยาว
โอกาสกินก็ยังพอมีครับ คือประมูลเปลี่ยนรูปแบบรถ, ประมูลสร้างท่ารถ, อะไรทำนองนี้ครับ ไม่ใช่ว่าทำแบบที่ผมเสนอแล้วมันจะอดอยากปากแห้งไปเสียหมด..... กินน้อยหน่อยแต่รับรองว่าดีกับประเทศชาติระยะยาวครับ...ลูกหลานก็จะชื่นชมกันต่อไป
ดีกว่าที่จะให้เป็นลานจอดรถของพวกมาเฟียรถตู้อย่างทุกวันนี โดยต้องจัดทางเดินให้คนสามารถเดินเข็นรถเข็นกระเป๋าสัมภาระไปยังอาคารขนส่งทั้งสองข้างได้อย่างสะดวกด้วยโดยด้านหนึ่งเป็นรถที่วิ่งต่อไปจังหวัดใกล้เคียงรัศมี 1-2 ชั่วโมง หรือเมืองใหญ่ๆ แบบพัทยา หรือสระบุรี อะไรอย่างนี้ อีกด้านหนึ่งก็เป็นรถแอร์ พวกวีไอพีต่างๆ หรือพวกที่ระยะไกลขึ้น เช่น 3 ชั่วโมงเป็นต้นไป เช่น นครสวรรค์ จนกระทั่งเชียงใหม่, เชียงราย, อุดรฯ, อุบล หรือภาคใต้ อะไรอย่างนี้ครับ
ในอนาคตเมื่อรถไฟใต้ดินเสร็จ (ถ้าสำเร็จนะ) จะทำให้สุวรรณภูมิของเราสู้กับชาวโลกเขาได้ครับ....ไม่ใช่ทำอย่างช่วงสองปีที่ผ่านมาครับ ก็ที่เน้นบริการแต่กลุ่มคนจำนวนน้อย , คนส่วนมากให้เอ็งลำบากเข้าไว้, เดินทางคราวหน้าเอ็งจะได้รู้จักคิดมาให้บริการรถที่ข้ามีส่วนได้ส่วนเสียซะบ้าง...อัตราการขนคนออกไปต่อชั่วโมงเท่าไหร่ก็ช่าง ...สนแต่ว่าวันหนึ่งจะมีเหยื่อกี่คน....คิดแล้วจะบ้าตาย...แถมยังจะคิดสร้าง Terminal 2 อีกนะ..พระเจ้า