http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000120716เปิดธาตุแท้ตร.มือเล็งปืนใส่ฝูงชน ย้ำภูมิใจ! - "สล้าง"ลั่นยึดทำเนียบคืน
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 10 ตุลาคม 2551 17:07 น.
สล้างแถลงตั้งกองกำลังยึดทำเนียบคืน พร้อมเปิดตัวมือเล็งปืนในคลิป เจ้าตัวระบุเล็งปืนหวังยิงสกัดล้อรถพุ่งชนเพื่อนตำรวจเท่านั้น และรู้สึกภูมิใจที่ได้ช่วยเพื่อนตำรวจด้วยกัน
วันนี้(10 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ ได้นำตัวส.ต.ต.ณัฐวุฒิ จันทร อายุ 22 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ (บก.ตปพ.) ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนั่งชันเข่าเล็งอาวุธปืนพกสั้นในแนวระนาบในคลิปที่เผยแพร่ในเว็บไซด์ต่างๆ มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน พร้อมกันนี้ก็มีส.ต.อ.ประคอง พันระกา อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่กองกำกับการ 2 บก.ตปพ.ซึ่งเป็นคู่ทำงานมีหน้าที่คอยคุ้มกันรถให้ส.ต.ต.ณัฐวุฒิ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์มาร่วมแถลงข่าวด้วย
พล.ต.อ.สล้าง กล่าวว่า ตอนนี้ตำรวจตกเป็นจำเลยของสังคม ตนเองเลือกแถลงข่าวที่นี่เพราะเห็นว่าเป็นสื่อมวลชนที่เป็นกลาง ไม่เหมือนผู้บริหารสื่อบางที่ที่มีผลประโยชน์กับกลุ่มพันธมิตร ที่ผ่านมาตำรวจถูกเยาะเย้ยถากถาง กลุ่มพันธมิตรฯอ้างเบื้องสูงไปเอาน้ำจิตรลดามาแจ้งกลุ่มผู้ชุมนุมแล้วอ้างว่าเป็นน้ำจากฟ้าประทานมา ซึ่งจริงๆ น้ำจิตลดาใครก็ซื้อได้ จนท่านผู้หญิงคนหนึ่งทนไม่ได้ไปซื้อน้ำจิตลดามาแจกเจ้าหน้าที่ตำรวจ พูดจาอ้างเบื้องสูงอยู่ทุกวันเพื่อถากถางตำรวจ หลังเกิดเหตุแพทย์โรงพยาบาลหนึ่งก็ไม่รักษาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ให้กำลังใจตำรวจว่าหมอดีๆ มีอีกเยอะมากกว่าหมอชั่วๆ
พล.ต.อ.สล้าง กล่าวต่อว่า ตนเองได้ส่งหนังสือและอีเมล์ไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ต่างๆเพื่อให้กำลังใจ เพราะตอนนี้มีตำรวจกว่า 40 คนลาป่วยเพื่อรักษาสุขภาพจิต และอีก 2 รายลาออกไป เพราะไม่รู้ว่าจะทำงานไปทำไม ทุกคนมีแต่ทำร้ายตำรวจ ใส่ความตำรวจ จนทำให้เหตุการณ์ลุกลามใหญ่โต อย่างพล.อ.จำลอง ศรีเมือง หนึ่งในแกนนำพันธมิตรเดินออกไปให้ตำรวจจับกุมก็เพื่อสร้างเรื่อง สร้างเหตุการณ์ให้รุนแรงให้เหมือนพฤษภาทมิฬ ให้เกิดการนองเลือด จากนั้นก็ให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีพาไปเข้าเฝ้าเหมือนเหตุการณ์พฤษภาทมิฬที่ผ่านมา
มีตำรวจมาพูดกับผมว่าตอนนี้ตำรวจไม่กล้าทำงานเพราะผู้ใหญ่ไม่กล้าตัดสินใจ ผมจึงคิดกับเพื่อนตำรวจนอกราชการที่อดีตเคยเป็นครูตชด. ปจ. คอมมานโด กองปราบปราบ ตั้งกองกำลังกู้ทำเนียบรัฐบาล โดยจะเสนอรัฐบาลว่าจะเข้าไปยึดทำเนียบคืนเอง เบื้องต้นรวบรวมตำรวจนอกราชการได้กว่า 1 พันนาย ซึ่งถ้าหากตำรวจในราชการอยากร่วมด้วยก็ขอให้ไปลาราชการมาร่วมกันทำงาน ส่วนชาวบ้านทั่วไปก็มาร่วมได้แต่ให้มาทำงานในส่วนอื่นเพราะไม่ได้รับการฝึกมา ซึ่งกองกำลังสามารถรวบรวมได้ภาย ใน 5 วัน ส่วนเรื่องเงินทุนถ้าไม่มีใครบริจาคสนับสนุน จะขายทรัพย์สินส่วนตัวซึ่งเป็นเหรียญที่มีค่าที่ตนเองเก็บไว้มานาน จะมีการประมูลขายใครสนใจสนับสนุนก็ให้ติดต่อมาได้
ด้านส.ต.ต.ณัฐวุฒิ ให้สัมภาษณ์เปิดใจว่า ตนเองทำหน้าที่เป็นพลขับรถบัสขนอุปกรร์พิเศษในการควบคุมฝูงชน ก่อนเกิดเหตุได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นพลขับอยู่ตรงบริเวณลานใกล้ประตูทางเขาพระที่นั่งวิมารเมฆ ขณะนั้นกำลังจะขับรถกลับเข้าไปรับเจ้าหน้าที่รัฐสภาที่ตกค้างอยู่ ก็เห็นรถกระบะสีน้ำเงินขับพุ่งเข้าชนเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้าหน้าได้รับบาดเจ็บ 4-5 นาย ตนเองจึงจะขับรถเข้าไปขวาง ซึ่งตอนนั้นได้รับแจ้งจากวิทยุสื่อสารว่ามีการยิงกันเกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บหลายรายแล้วให้เข้าไปอย่างระมัดระวัง และตอนนั้นก็รับแจ้งว่าเจ้าหน้าที่รัฐสภาออกมาหมดแล้ว ระหว่างที่จะขับรถเข้าไปขวางเห็นว่ารถกระบะคันดังกล่าวขับพุ่งเข้ามาหวังจะชนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่แนวด้านหน้าซ้ำ ตนเองจึงวิ่งลงจากรถเอาอาวุธปืนประจำกายเป็นอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .357 ออกมาเพื่อหวังยิงสะกัดยางล้อรถเพื่อไม่ให้รถพุ่งมาชนเพื่อนตำรวจซ้ำ แต่รถคันดังกล่าวได้ขับหนีออกไปก่อนจึงไม่ได้ยิงปืนออกไป จากนั้นเพื่อนในหน่วยที่อยู่ใกล้เคียงก็มาสะกิดบอกว่ารถไปแล้วตนจึงได้ขึ้นรถขับตามออกไป ซึ่งตนเองพร้อมให้ตรวจสอบเขม่าดินปืน อาวุธปืนว่าไม่ได้ลั่นไก
ผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกอย่างไรที่ต้องตกเป็นจำเลยของสังคม ส.ต.ต.ณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนเองรู้สึกภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือเพื่อนตำรวจให้รอดชีวิต เพราะตอนนี้แนวด้านหลังก็มีเพื่อนตำรวจอยู่เป็นจำนวนมาก และด้านหน้าแนวเพื่อนที่ถูกรถชนก็ยังไม่มีใครเข้าไปช่วยออกมายังอยู่ที่เดิม ต่อข้อถามที่ว่าคิดหรือไม่ตอนนั้นถ้ายิงออกไปจะพลาดไปถูกกลุ่มผู้ชุมนุม ส.ต.ต.ณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตอนที่ชักอาวุธปืนออกมาตรงนั้นยืนยันว่าไม่มีกลุ่มผู้ชุมนุมอยู่เลย มีเพียงตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บและรถคันดังกล่าวเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมสามารถพกพาอาวุธเข้าไปได้ ส.ต.ต.ณัฐวุฒิ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปราบจลาจลจะไม่มีอาวุธ แต่ตนเองเป็นพลขับที่ต้องดูแลอุปกรณ์พิเศษในการควบคุมฝูงชนจึงอนุญาติให้พกพาอาวุธปืนเข้าไปเพื่อป้องกันอุปกรณ์พิเศษเหล่านี้ ไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติที่พกพาอาวุธปืน ยังยืนยันว่าที่ทำไปนั้นรู้สึกภูมิใจได้ช่วยเหลือเพื่อนในหน่วย
หลังเกิดเหตุการณ์ผู้บังคับบัญชาก็เรียกไปสอบถามว่าในรูปใช่ผมหรือเปล่า ซึ่งผมก็ตอบว่าใช่ ผู้บังคับบัญชาก็ให้เล่าเหตุการณ์ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและให้ทำรายงานชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งผมก็ได้ทำรายงานชี้แจงไปแล้ว ส่วนอาวุธปืนตอนนี้เก็บไว้ที่หน่วยพร้อมที่จะให้ตรวจสอบว่ายังไม่มีการยิงออกไปส.ต.ต.ณัฐวุฒิกล่าว
สำหรับพล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอ.ตร.นั้น ในอดีต เป็นที่ทราบกันดีว่า เมื่อครั้งที่พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เป็นผู้ว่าฯกทม. พล.ต.อ.สล้าง เป็นรองอ.ตร. รับผิดชอบดูแลงานด้านการจราจรนั้น มีความขัดแย้งทางแนวคิดเกี่ยวกับระบบรถไฟฟ้า ซึ่งทางกทม.ต้องการให้สร้างแบบลอยฟ้า ในขระที่พล.ต.อ.สล้างหนุนการสร้างรถไฟฟ้าใต้ดิน แต่ในที่สุด กทม.ก็สร้างรถไฟฟ้าบีทีเอส เป็นแห่งแรก
นอกจากนี้ เมื่อครั้งคดียาบ้าที่จ.สุพรรณบุรี พล.ต.อ.สล้าง ก็เป็นผู้บัญชาการในการปราบปราม"โจ ด่านช้าง"กับพวกรวม 6 ศพด้วย
เบื่อตำรวจการเมืองจริงๆ...................
เกษียณแล้วก็กลับไปเลี้ยงหลานเถอะ อย่ามาดังหวังเป็นนักการเมืองเลย...............
ป.ล. ถามไอ้น้องแว่นกลับอีกนิด ถ้าขับรถและใช้ปืนประจำตัวจริงๆ พี่แว่นแบกปืนยิงแก็สน้ำตาไว้ที่หลังทำไมวะ...........