เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 13, 2024, 07:20:17 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กระทู้เตือนภัย : อันตรายจากแมงกระพรุนชนิดใหม่ในทะเลไทย  (อ่าน 4050 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Siri_Pat รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 124
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 410



« เมื่อ: ตุลาคม 20, 2008, 08:32:27 AM »

เตือนภัยใต้ท้องทะเล ระวัง"แมงกะพรุนกล่อง" พิษร้าย-โดนแล้วถึงตาย

เรื่องนี้คนชอบเล่นน้ำทะเลต้องระมัดระวังเอาไว้

เมื่อมีรายงานว่าในเมืองไทยพบแมงกะพรุนมีพิษชนิดอันตราย มีชื่อรู้จักกันทั่วไปว่า "แมง กะพรุนกล่อง" ซึ่งแมงกะพรุนชนิดนี้จัดอยู่ในข่ายแมงกะพรุนที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลกอีกชนิดหนึ่ง หากใครโดนเข้าจะมีอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตเลยทีเดียว

ในต่างประเทศมีรายงานคนตายเพราะแมงกะพรุนชนิดนี้มาแล้ว!!

ล่าสุดมีรายงานจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ยืนยันว่าพบแมงกะพรุนกล่องที่เกาะหมาก จ.ตราด โดยลูกชายของนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวไปโดนแมงกะพรุนเข้า ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสทันที นอกจากนี้ ยังมีรายงานนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เสียชีวิตเพราะโดนแมงกะพรุนกล่องในท้องทะเลไทยมาแล้ว ดังนั้น จึงต้องหาทางป้องกันเอาไว้ให้ดี


เรื่องราวของแมงกะพรุนกล่อง ถูกเปิดเผยวันที่ 15 ต.ค. เมื่อนายสมชัย บุศราวิช หัวหน้าสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำภูเก็ต จ.ภูเก็ต กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำภูเก็ต ได้รับอนุมัติงบประมาณจาก ทช. เพื่อให้ดำเนินการศึกษาวิจัยเรื่องการพบแมงกะพรุนกล่องซึ่งมีพิษรุนแรงต่อมนุษย์ จากช่วงระยะหลายปีหลังที่ผ่านมา มีรายงานว่ามีผู้ได้รับพิษจากแมงกะพรุนประเภทนี้จนถึงขั้นได้รับบาดเจ็บสาหัส ระหว่างลงเล่นน้ำทะเลในประเทศไทย  จนเป็นเหตุมีนักท่องเที่ยวต่างชาติพยายามจะขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดมาตรการป้องกันอันตรายที่เกิดจากสัตว์ชนิดนี้ขึ้น เพื่อความมั่นใจในการท่องเที่ยว

ส่วนรายละเอียดในเรื่องนี้ นายสมชัย เล่าว่า เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ได้รับการติดต่อจาก นายแอน ดรูว์ โจนส์ ซึ่งเป็นนักข่าวชาวออสเตรเลีย ที่พาครอบครัวเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย และระหว่างพาลูกชายลงเล่นน้ำทะเลที่เกาะหมาก จ.ตราด ปรากฏว่าลูกชายสัมผัสกับแมงกะพรุนชนิดหนึ่งจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เข้าโรงพยาบาลหลายวัน ทำให้ต้องยุติแผนการท่องเที่ยวไป

หลังจากนั้นไม่นาน นายแอนดรูว์เดินทางกลับมายังประเทศไทย และพยายามที่จะติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย เช่น กระทรวงสาธารณสุข การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมถึงได้เดินทางมาพบตน ที่สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำภูเก็ต พร้อมกับนำข้อมูลที่ค้นหามาได้มาแจ้งให้ทราบว่าแมงกะพรุนที่ลูกชายของตนสัมผัสนั้น เป็นแมงกะพรุนชนิดที่เรียกว่าแมงกะพรุนกล่อง ซึ่งในประเทศออสเตรเลียให้ความสำคัญมาก เพราะมีอันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว


 


บันทึกการเข้า

พลี..กายปกป้อง แดนดิน

ชีพ..สิ้น...ก็ไม่นึกหวั่น..

เพื่อ..รักษาเอกราช..ให้คงมั่น..

ชาติ..ย่อมสำคัญ..กว่าตนเอง..
Siri_Pat รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 124
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 410



« ตอบ #1 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2008, 08:36:03 AM »



สําหรับลักษณะของแมงกะพรุนชนิดนี้ จะมีเข็มพิษอยู่ในเซลล์จำนวนล้านๆ เซลล์ และมีพิษรุนแรง ผู้ได้รับพิษจะเจ็บปวดทรมานมาก ดังนั้น จึงควรมีการให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับการรักษาเบื้องต้น การหลีกเลี่ยง รวมทั้งสร้างเครื่องมือป้องกันอย่างเข้มงวด ขณะที่ในประเทศไทยยังไม่มีการกำหนดมาตรการใดๆ ทั้งนี้ นายแอนดรูว์บอกว่าเข้าใจว่าประเทศไทยอาจจะไม่เคยเจอแมงกะพรุนชนิดนี้มาก่อน แต่จากการสืบค้นข้อมูลด้วยตัวเอง พบว่าก่อนหน้านี้เคยมีนักท่องเที่ยวชาวสวีเดน และอังกฤษเสียชีวิตเพราะถูกแมงกะพรุนชนิดนี้ในประเทศไทยมาแล้ว จึงอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้


ที่ผ่านมาประเทศไทย ยังไม่เคยมีข้อมูลเรื่องของแมงกะพรุนกล่องมาก่อน ซึ่งอาจจะมาจากยังไม่มีนักวิจัยไทยเคยศึกษาเรื่องนี้ หรืออาจจะเป็นเพราะในท้องทะเลไทยไม่เคยมีแมงกะพรุนชนิดนี้ ซึ่งทีมคณะนักวิจัยของผมจะศึกษาวิจัยอย่างละเอียด สิ่งที่น่ากลัวคือว่ามันเคยอยู่ในประเทศไทยมาก่อน หรือว่าเป็นสัตว์ต่างถิ่นที่ติดมากับเรือเดินทะเล และอาจจะมาขยายพันธุ์ได้ในท้องทะเลของไทย ทั้งนี้ ทีมวิจัยจะออกเก็บตัวอย่างทุกเดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคมต่อเนื่องไปเป็นเวลา 1 ปี รวมทั้งติดต่อสถาบันวิจัยที่ประเทศออสเตรเลีย และญี่ปุ่น ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องนี้ เพื่อตรวจสอบตัวอย่างที่เก็บได้จากทะเลอันดามันของไทยอีกด้วย" นายสมชัย กล่าว



ด้าน ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้ข้อมูลว่า แมงกะพรุนกล่องเป็นแมงกะพรุนที่มีพิษร้ายแรงที่สุดกลุ่มหนึ่งของโลก โดยเฉพาะหนวดของแมงกะพรุนที่ยาวมาก และใสจนแทบมองไม่เห็น แมงกะพรุนเป็นสัตว์ที่กินปลาเป็นอาหาร จึงต้องมีพิษร้ายแรงเพื่อทำให้ปลาหมดสติและกินเป็นอาหาร แมงกะพรุนชนิดนี้มีมากจนขึ้นชื่อในประเทศออสเตรเลีย สำหรับในประเทศไทยสำรวจพบบ้าง โดยเฉพาะบริเวณชายฝั่งอ่าวไทย บริเวณที่น้ำตื้น แต่ยังไม่ยืนยันว่ามีผู้ถูกพิษแมงกะพรุนกล่องจนตาย เนื่องจากคนที่ถูกพิษแมงกะพรุนจะจมน้ำตายเสียก่อน มีจำนวน 2 ราย จึงไม่จัดเก็บเป็นรายงานการเสียชีวิตจากแมงกะพรุน ทั้งนี้ เพราะแมงกะพรุนกล่องมีไม่มาก เพราะช่วงชีวิตสั้น ทำให้พบไม่บ่อยนัก และอาจพบได้ช่วงปลายฝนต้นหนาว


ดร.ธรณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับพิษของแมง กะพรุนกล่อง เมื่อโดนแล้วจะเหมือนถูกไฟฟ้าชอร์ต จากนั้นผู้ถูกพิษก็จะช็อกหมดสติและจมน้ำตาย พิษของแมงกะพรุนจะทำให้บริเวณที่สัมผัสเป็นเส้นสีแดง คล้ายถูกแส้หรือถูกฟาดอย่างแรง ผู้ที่ถูกพิษแมงกะพรุนจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ดังนั้น ผู้ที่อยู่ใกล้ที่สุดจะต้องพาคนที่ถูกพิษขึ้นจากน้ำโดยเร็ว จากนั้นสังเกตว่าบริเวณใดมีรอยเส้นแดงๆ ให้นำน้ำจำนวนมาก สาดหรือราดแรงๆ เพื่อให้หนวดที่อาจติดมากับผิวหลุดไป และห้ามจับบริเวณดังกล่าวเนื่องจากพิษจะยังคงอยู่ มิฉะนั้นจะถูกพิษแมงกะพรุนกล่องไปด้วย จากนั้นให้นำน้ำส้มสายชูจำนวนมากราดบริเวณดังกล่าวจะช่วยบรรเทาพิษได้ และนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลที่มีเครื่องมือที่ทันสมัยโดยเร็วที่สุด


"คนโดนจะมีอาการช็อกหมดสติ เพราะพิษแมงกะพรุนกล่องมีพิษต่อกล้ามเนื้อหัวใจ ทำให้หายใจลำบาก หอบ อาจต้องผายปอด ก่อนนำส่งโรงพยาบาล แต่พิษของแมงกะพรุนจะมีอยู่ในช่วงเวลาสั้นๆ ประมาณ 24-48 ชั่วโมง ร่างกายก็จะกลับคืนสู่สภาพปกติ วิธีป้องกันหากทราบว่าบริเวณใดพบแมงกะพรุนกล่อง ควรใส่เสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวเล่นน้ำจะช่วยได้" ดร.ธรณ์ กล่าว


พร้อมอธิบายด้วยว่า พิษของแมงกะพรุนกล่อง ร้ายแรงมากกว่าสัตว์ชนิดอื่น แต่อาจเทียบและใกล้เคียงกับพิษของหอยเต้าปูนและปลาหมึกสายวงศ์ฟ้า ซึ่งเป็นสัตว์กินปลาเป็นอาหาร ส่วนแมงกะพรุนในเมืองไทยที่พบว่ามีพิษลักษณะใกล้เคียงกันมีอีกกลุ่ม แต่ไม่มีชื่อเป็นภาษาไทย หากแปลตรงตัว เรียกว่า แมงกะพรุนเรือรบโปรตุเกส จะลอยอยู่ผิวน้ำ เป็นแมง กะพรุนในมหาสมุทร ตัวเล็ก พบได้ในทะเลลึกตามเกาะ แต่ไม่พบบริเวณชายฝั่ง มักพบหลังพายุใหญ่สงบลง และเท่าที่ทราบยังไม่พบว่ามีคนถูกพิษแมงกะพรุนชนิดนี้แต่อย่างใด

บันทึกการเข้า

พลี..กายปกป้อง แดนดิน

ชีพ..สิ้น...ก็ไม่นึกหวั่น..

เพื่อ..รักษาเอกราช..ให้คงมั่น..

ชาติ..ย่อมสำคัญ..กว่าตนเอง..
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #2 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2008, 08:51:37 AM »



รายละเอียดของแมงกะพรุนกล่อง (Box Jellyfish)
 
แมงกะพรุนกล่อง (box jellyfish) ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่รู้จักจะสร้างพิษอันทรงพลังอย่างน่าสะพรึงกลัวเพื่อให้เหยื่อ เช่น ปลา หรือ กุ้งหมดสติหรือเสียชีวิตทันทีเพื่อไม่ให้การดิ้นรนหลบหนีของเหยื่อสร้างความเสียหายให้กับหนวดที่แสนบอบบางของมัน 

 

พิษของแมงกะพรุนกล่องถือว่าเป็นหนึ่งในพิษที่เป็นอันตรายที่สุดในโลกซึ่งมีพิษในการโจมตีหัวใจ ระบบประสาท และเซลล์ผิวหนัง พิษนี้จะสร้างความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส มีรายงานว่าเหยื่อที่เป็นมนุษย์จะเกิดอาการช็อคและจมน้ำหรือเสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลวก่อนที่จะขึ้นถึงฝั่งด้วยซ้ำ ผู้รอดชีวิตจะมีอาการเจ็บปวดอยู่หลายสัปดาห์และมักจะมีความหวาดผวาอย่างมากในบริเวณที่สัมผัสกับหนวดแมงกะพรุน 

 

แมงกะพรุนกล่องมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ตัวต่อทะเล หรือนักพ่นพิษแห่งท้องทะเล มักอาศัยอยู่ในน้ำตามแนวชายฝั่งของออสเตรเลียตอนเหนือและทั่วอินโดแปซิฟิก มีสีฟ้าอ่อน โปร่งใส และได้ชื่อนี้มาจากรูปร่างที่เหมือนลูกบาศก์  มีหนวดมากถึง 15 เส้นที่งอกออกมาจากแต่ละมุมของช่วงตัวและสามารถยืดยาวได้ถึง 10 ฟุต (3 เมตร) หนวดแต่ละเส้นจะมีเซลล์พิษอยู่ประมาณ 5,000 เซลล์ซึ่งไม่ได้ถูกกระตุ้นโดยการสัมผัสแต่โดยการพบสารเคมีจากชั้นผิวภาพนอกของเหยื่อ

 

แมงกะพรุนกล่องเป็นสายพันธุ์ที่พัฒนาอย่างก้าวไกลกว่าแมงกะพรุนทั่วไป ด้วยการพัฒนาความสามารถในการเคลื่อนที่มากกว่าการล่องลอยโดยการพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วถึงสี่น็อตท่ามกลางทะเล แมงกะพรุนกล่องมีดวงตาเกาะกลุ่มกันหกกลุ่มอยู่บนทั้งสี่ด้านของลำตัว แต่ละกลุ่มจะมีดวงตาหนึ่งคู่ซึ่งมีเลนส์ตา เรตินา ตาดำและแก้วตาที่มีประสิทธิภาพสูง แม้ว่าจะไม่มีระบบประสาทส่วนกลาง นักวิทยาศาสตร์ยังไม่แน่ใจว่าแมงกะพรุนพวกนี้มีกระบวนการในการมองเห็นอย่างไร

ที่มา --------->>  http://jtt.igetweb.com/index.php?mo=3&art=113916
บันทึกการเข้า

                
yod - รักในหลวง ครับ
ความรัก - เริ่ม - จากความรู้สึก หรือ ความคิด กันแน่นะ ..... ประวัติศาสตร์อาจจะย้อนรอยเดิม แต่คนไม่อาจย้อนอดีตได้
Hero Member
*****

คะแนน 1628
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18173



« ตอบ #3 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2008, 08:55:27 AM »



ยิ่งกว่า กระพรุนไฟ อีกนะนี่
บันทึกการเข้า

..สิ่งสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ว่า...วันนี้เขาอยู่หรือจากไป
สำคัญที่ว่า...ช่วงที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน
ขอให้มีความทรงจำที่ดี...ก็เพียงพอแล้ว
อย่างน้อย เราก็ยังมีอะไรดีดีให้นึกถึง
และยิ้มให้ความทรงจำนั้นได้ ...

..กรอบใดกักขังแค่กาย แต่ใจอย่าหมายกั้นได้
โซ่ตรวนรัดรึงตรึงไว้  แต่ใจนั้นใฝ่เสรี..
51
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2008, 08:56:42 AM »

เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า  irukandji jellyfish (อิรุคันจิ) ครับ
หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า   มาโล คิงกิ (Malo kingi)

บันทึกการเข้า
coda
None of us is as smart as all of us.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1081
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20779



เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2008, 09:00:30 AM »

...ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

...ว่าแต่ว่า  เอามายำได้หรือเปล่า  คิก คิก
บันทึกการเข้า

Check your monitor:

https://www.facebook.com/StudioCoda

"ยึดปืนคนดี  อัปรีย์จะครองเมือง"
ตึก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 150
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2042


บิดามารดาคือพระประจำตัวลูก


« ตอบ #6 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2008, 09:58:13 AM »

ขอบคุณครับ เพิ่งไปเที่ยวทะเลมาเมื่อกลางเดือนเอง
บันทึกการเข้า
pb&glock19
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 33
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 593


"ฟ้าหลังฝน ย่อมสดใสเสมอ"


« ตอบ #7 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2008, 10:14:53 AM »

ขอบคุณมากครับ
บันทึกการเข้า

ดูคนดี...ดูที่...การกระทำ
ดูผู้นำ...ดูที่...การเสียสละ
คนดี... คิดดี... สังคมดี
o/uboy
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #8 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2008, 11:04:06 AM »

จับมันมาใส่เย็นตาโฟให้หมด อร่อยครับ ตกใจหน้าซีด
บันทึกการเข้า
dig5712
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 119
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1801



« ตอบ #9 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2008, 11:14:42 AM »

ตอนดำน้ำ บัดดี้ผมเคยโดนแบบธรรมดาพาดปาก ยังแดงไปหลายวัน...  Grin
เจอตัวนี้เข้าไปล่ะบรื๋อ....  ตกใจ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.049 วินาที กับ 22 คำสั่ง