ถ้าย้อนเวลาได้...
นายสมชายจะขายที่ ขายบ้าน ขายรถยนต์แล้วเอาไปเรียนหมอที่ รพ. เอกชนครับ...
รายได้ในวันนี้ รพ.เอกชนประกันขั้นต่ำให้หนึ่งแสนบาท แต่หมอใน กทม. ที่ไม่ได้อุทิศตนเสียสละทำงานเพื่อสาธารณะประโยชน์ มีรายได้สองแสนถึงสามแสนบาทต่อเดือนนี่เป็นเรื่องปรกติครับ...
คิดง่ายๆ แค่ค่า DF หัวละ 400 บาท วันละ 20 คน แล้วเดือนนึงทำงาน 20 วันหยุดเสาร์อาทิตย์... ได้ค่า DF ล้วนๆเดือนละ 160,000 บาท... นี่ไม่นับงานอย่างอื่นนะครับ เอาแค่ปวดหัวตัวร้อนเป็นไข้หวัด ไม่ต้องเจอ Case หนักเลย...
เรียนเพื่อหาผลประโยชน์ขาดอุดมการณ์ เหมือนหมอที่ได้ทุนรัฐแล้วหาเงินใช้หนี้รัฐเพื่อไปอยู่เอกชนน่ะหรือ ไร้ยางอายจริงๆ ทุนหลวงเหมือนทุนจากในหลวงจำใส่กะโหลกไว้บ้าง จบมาแล้วได้ทำอะไรเพื่อตอบแทนคุณแผ่นดินรึยัง
ฮา... แล้วนะท่าน...
ท่านอ่านหนังสือไม่ออกหรืออย่างไร ว่าขายบ้าน ขายที่ ฯลฯ ไปเรียนที่ รพ. เอกชน...
กระโหลกท่านมันหนามากเสียจนไม่รู้เรื่องเลยหรือท่าน... หรือว่าอ่านหนังสือไม่ออก กระโหลกหนาปัญญาทึบ...
ภาษาไทยก็อ่านไม่ออก... ต้องหาหนังสือสอนกอไก่ขอไข่มาหัดอ่านเสียบ้าง...
อ่านแล้วก็ต้องหัดแปลความหมายบ้างจะได้หายโง่... โง่มาก โง่มาตลอด...
โง่จมปลักขี้ควายเอาจมูกฝังดิน สูดเข้าไปเข้าปอดจนตลอดไปถึงสมอง... สมองมีแต่ขี้ควายนะท่าน...
ท่านสูดขี้ควายเสร็จแล้วนอนหงาย เปิดโป๊ะไฟส่องใส่ลูกตา...
ให้ดวงตามันมองเห็นสิ่งที่มืดมัว เอาไฟฟ้าสัก 100 วัตต์... เปิดแล้วจ้องมันเข้าไป เผื่อจะมองเห็นมั่ง...
เห็นดวงไฟแล้วอย่าลืมกลับไปสูดปลักขี้ควายต่อ... สูดเข้าไป...