จาก ไทยรัฐ on line
หลายคนอาจเคยได้รับฟอร์เวิร์ดเมลบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ "แมว" ชื่อ "ออสการ์" ซึ่งถูกระบุว่าเป็นแมวประจำบ้านพักคนชราแห่งหนึ่ง และสามารถทำนายได้ว่าสมาชิกในบ้านคนใดใกล้ "อำลาโลก" เพราะออสการ์จะไปเกาประตูห้องผู้อาวุโสเพื่อเฝ้าอยู่ในห้องจนกว่าผู้เฒ่าจะสิ้นลม
แม้ฟังดูเป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่ "ออสการ์" เป็นแมวที่มีตัวตนจริง ถูกเลี้ยงไว้ในศูนย์ดูแลและบำบัดคนชรา "สเตียร์เฮาส์ เนิร์สซิ่ง แอนด์ รีฮาบิลิเทชั่น" ที่เมืองพรอวิเดนซ์ในรัฐโรดไอส์แลนด์ของสหรัฐฯ โดยนายเดวิด โรซ่า อายุรแพทย์ประจำสเตียร์ เฮาส์เป็นผู้ศึกษา
พฤติกรรมของออสการ์และตีพิมพ์ บทความในวารสารการแพทย์ "นิว อิงค์แลนด์ ออฟ เมดิซิน" เมื่อปี 2550 และสร้างชื่อเสียงให้แก่เจ้าแมว ลายขนฟูตัวนี้ในฐานะ "ยมทูตสี่ขา" จนถูกนำไปทำเป็นฟอร์เวิร์ดเมลส่งต่อกันทั่วในหมู่ผู้ใช้เน็ต
เมื่อเร็วๆนี้ นพ.โรซ่าเพิ่งเปิดตัวหนังสือชื่อว่า "เมคกิ้ง ราวด์ส วิท ออสการ์" ซึ่งมีเนื้อหาระบุว่า ออสการ์ถูกนำมาเลี้ยงที่สเตียร์เฮาส์ในปี 2548 และเป็น แมวที่ไม่ค่อยสุงสิงกับคนมากนัก แต่ถ้าออสการ์ไปเคาะ ห้องผู้ป่วยชราคนใดและเฝ้าวนเวียนอยู่ใกล้ๆ จากนั้น ไม่นานผู้ป่วยก็จะสิ้นใจ ทำให้บรรดาแพทย์และพยาบาลประหลาดใจในความบังเอิญนี้อย่างมาก
โรซ่ารวบรวมสถิติการเคาะห้องเฝ้าไข้ผู้ป่วยของ ออสการ์อย่างจริงจัง และพบว่าผู้ป่วยกว่า 50 ราย เสียชีวิต หลังถูกออสการ์ "เยี่ยมไข้" แต่ส่วนใหญ่เป็นการจากไป อย่างสงบ ทำให้แพทย์หรือพยาบาลโทร.ไปตามญาติผู้ป่วยให้มาดูใจครั้งสุดท้ายได้ทันเวลาหลายครั้งด้วยกัน
หากเมื่อพิจารณาจากมุมมองของแพทย์ผู้เชื่อมั่นในวิทยาศาสตร์อย่างโรซ่า เขาระบุว่าความสามารถพิเศษของออสการ์อาจเกี่ยวโยงกับสัญชาตญาณในการ ดมกลิ่นของสัตว์ ซึ่งมีความไวกว่าประสาทสัมผัสของ มนุษย์หลายเท่า เขาจึงตั้งสมมติฐานว่าออสการ์อาจ คุ้นเคยกับกลิ่นของผู้ป่วยหนัก ซึ่งมักขับสารเคมีที่มี กลิ่นเฉพาะออกมาตามรูขุมขนของผิวหนัง และกลิ่นดังกล่าวอาจมีแรงดึงดูดให้มันเข้าไปป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ
แต่ไม่ว่าสมมติฐานของโรซ่าจะเป็นเช่นไร ลูกหลานของผู้ป่วยชราที่เสียชีวิตไปโดยมีออสการ์เฝ้าอยู่ข้างๆ ยังยินดีที่จะมองว่าออสการ์คือยมทูตในร่าง แมวที่คอยดูแลให้ญาติผู้ใหญ่ของตนจากไปอย่างสงบ
ขณะเดียวกัน โรซ่ามองว่าคุณูปการที่ดีที่สุดที่ เกิดขึ้นจากพฤติกรมแปลกๆของออสการ์คือมันเป็นดัง "สัญญาณ" ให้คนที่อยู่ข้างหลังเริ่มต้นพูดคุยเรื่อง "ความ ตาย" ได้ง่ายขึ้น และสามารถทำใจให้เผชิญหน้ากับความจริงว่า "ไม่มีใครหนีความตายพ้น" ได้อย่างมีสติ.
ตติกานต์ เดชชพงศ์