''นก'' จิรศักดิ์ โย้จิ้ว จากตั้งไข่....สู่อวสาน ''เป็นต่อ''
''นี่เป็นงานชิ้นแรกของบริษัทซีเนริโอ จะอยู่ได้ไม่ได้พี่ของฝากเป็นต่อไว้ที่นกด้วย''
ย้อนกลับไปเมื่อ 8 ปีก่อน ''คุณบอย'' ถกลเกียรติ วีรวรรณ บอสใหญ่ค่ายเอ็กแซ็กท์ ในเครือแกรมมี่ ขยายงานด้วยการเปิดบริษัทซีเนริโอมารองรับ พร้อมกับผุดโปรเจกต์ละครซิตคอม ''เป็นต่อ'' ขึ้นมาเป็นงานชิ้นแรก โดยมอบหมายให้ ''นก'' จิรศักดิ์ โย้จิ้ว ผู้กำกับฯ ฝีมือดีดูแล เพื่อออกอากาศคืนวันพฤหัสบดี ต่อจากละครหลังข่าวช่อง 3 หลังจากประสบความสำเร็จกับการทำละครซิตคอมเรื่อง ''บางรัก ซอย 9'' ที่ออกอากาศวันเสาร์ เวลา 18.00 น. ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี และละครซิตคอมเรื่อง ''เฮง เฮง เฮง'' ที่ออกอากาศวันเสาร์ เวลา 10.00 น.
กว่า ''เป็นต่อ'' กลายมาเป็นละครเรตติ้งดี มีขาประจำเฝ้าชมเป็นจำนวนมาก ผู้กำกับฯ นก บอกว่า วันแรกที่ ''คุณบอย'' เจ้านายใหญ่มอบหมายให้กำกับซิตคอมเรื่องนี้รู้สึกเครียดจนอาเจียนเลยทีเดียว เพราะรู้สึกว่างานที่ผู้ใหญ่ไว้วางใจให้ทำ เป็นงานชิ้นใหญ่มาก
''8 ปีที่แล้ว ตอนนั้นมีเปิดบริษัทใหม่ พี่บอยก็เลยคิดโปรเจกต์เป็นต่อขึ้นมา เป็นงานชิ้นแรกของซีเนริโอ ตอนนั้นเราไปได้ดีกับ เฮง เฮง เฮง และ บางรักซอย 9 เฮง เฮง เฮง ได้ชนชั้นของกลุ่มคนจีน พอมาเป็นบางรัก ซอย 9 ก็เป็นกลิ่นความรักที่ชัดเจน กลิ่นแบบคู่พระคู่นางที่ชัดเจน พอมาถึงเป็นต่อเนี่ย ก็คิดกันว่า ซิตคอมคนโสดเนี่ยมันยังไม่มี เวลาคนเราทำงานเสร็จ คนที่เขาโสดคนที่เขาอยู่คอนโดฯ กับพี่น้อง อยู่กับเพื่อนเนี่ยเป็นยังไง คนกลุ่มนี้เขาไม่ได้โดนพูดถึงก็เลยคิดกลายเนเป็นต่อขึ้นมา หลายๆ คนที่เขาอยู่ในเมืองหลวงเป็นเพื่อนกับคนที่เช่าหรือซื้อคอนโดฯ อยู่ ทำงานออฟฟิศ เช่นพวกเราๆ เนี่ย มันยังไม่มีใครพูดถึงในแง่มุมของชีวิต จริงๆ พี่บอย ผม และทีมงานเขียนบทหลายๆ คนก็ออกไอเดียคิดกันขึ้นมา ก็เลยเกิดเป็นต่อ โอ๊ย! ตอนนั้นแบบเป็นเรื่องแรกที่ทำให้รู้สึกหนักใจมาก เพราะว่าตอนที่ทำ เฮง เฮง โอเค ยังอยู่ตัว และมาทำบางรัก บางรักก็อยู่ตัว และก็ไปทำรักแปดพันเก้าก็อยู่ตัว พอพี่บอยบอกมีงานมา 1 ชิ้น ให้ทำ มันเป็นการเปิดบริษัทของซีเนริโอเป็นงานชิ้นแรก จะอยู่ได้ไม่ได้พี่ขอเอาเป็นต่อฝากไว้ที่นกด้วย ตอนรับงานวันแรก บอกตัวเองเลย โห...มันเป็นภาระที่หนักมาก อ้วกเลย เครียดจนอ้วก''
ตลอดระยะเวลาที่เป็นต่อออกอากาศสร้างเรตติ้งให้ช่อง 3 ถล่มทลาย มี ''นก-จิรศักดิ์'' นั่งเป็นผู้กำกับฯ เพียวๆ มาอย่างต่อเนื่อง โดยมีคนเขียนบทอยู่ 3 คน ในจำนวนนั้นมี ''เกลือ'' กิตติ เชี่ยววงศ์กุล หรือ ''ไอ้วอก'' รวมอยู่ด้วย ช่วงแรกดำเนินเรื่องออกแนวฝรั่งมากไปจนคนไทยเข้าถึงยาก จึงได้ปรับใหม่ทำให้ดูง่ายขึ้น พร้อมกับสอดแทรกสาระดีๆ เสริมเข้าไป จนกลายเป็นละครซิตคอมที่ได้รับความนิยมสูงสุด
''ถ้าสังเกตดูเป็นต่อแรกๆ จนออกเป็นทางฝรั่งเยอะ คือแบบว่ามุกอาจจะแบบเข้าใจยากนิดนึง ดูวันนี้ไปขำพรุ่งนี้อะไรงี้ ก็เรามาดูทิศทางเลยว่า เราจะทำแบบนั้นต่อไม่ได้ เพราะว่าคนไทยยังชอบกินส้มตำอยู่ ก็เลยปรับอ่อนลงมาหน่อย ในตอน 3 ตอน 4 ถ้าดูเป็นต่อดีๆ เรามีสอดแทรกอะไรหลายๆ อย่าง การดำเนินชีวิตว่าในทิศทางชีวิตเดินยังงี้ มันชี้ไปในทางที่ดีหรือไม่ดี หรือในแง่ของการเมือง เราได้รู้มาว่า คนไทยหลายๆ คน ไม่ได้สนใจการเมือง แต่เราสอดแทรกการเมืองมาอยู่ในเป็นต่อเพื่อให้รู้ข่าวสารการเคลื่อนไหวในการ เมืองของเมืองไทยไปตลอด ถ้าดูตามเป็นต่อมา 7 ปี จะเห็นเลยการเปลี่ยนแปลงของประเทศไทยเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไม่ว่าจะเป็นราคาไข่ น้ำมันขึ้น เกิดภาวะทางธรรมชาติ หรือ การปฏิวัติ''
สำหรับละครเป็นต่อนั้นในแต่ละสัปดาห์ใช้เวลาถ่ายทำ 2 วัน คือวันเสาร์และอาทิตย์ ที่สตูดิโอมนตรี ตัวละครหลักส่วนใหญ่อย่าง ชาคริต แย้มนาม (เป็นต่อ), ''พิม'' พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร (พอใจ), เจี๊ยบ เชิญยิ้ม (ยม), ธีระชาติ ธีระวิทยากุล (อู๊ด), ''เกลือ'' กิตติ เชี่ยววงศ์กุล (วอก), ''ปุ๊ย'' ผอูน จันทรศิริ (เจ๊หมอน), ''กิ๊ก'' มยุริญ ผุดผ่องพันธ์ (ทิพย์), ''แหม่ม'' วิชุดา พินดัม (เจ๊มิ้นท์) และ ธงธง มกจ๊ก (กอล์ฟ) ไม่มีการปรับเปลี่ยน แต่จะมีแขกรับเชิญเข้ามาสร้างสีสันในแต่ละตอน
''ไม่ได้เปลี่ยนตัวละครหลักเลย มีแขกรับเชิญเข้ามาสร้างสีสัน เหมือนมีคนเข้ามาในชีวิตประจำวันของคนเรา ไปเจอใครมาบ้าง ภาวะทางหัวใจ คุณรู้สึกยังไง แต่พอมาถึงปีนี้ ตัวละครเกิดการขยับมากขึ้นมา คือพี่ยมกับเจ๊มิ้นท์เป็นเพื่อนกัน ก็เกิดมารักกัน แอบรักกัน โดยไม่ให้ใครรู้ แล้วก็ยังมีวางต่อไปหลายอย่าง อย่าง วอก ที่มีหลายๆ อย่างไม่เคลื่อนไหว ก็เริ่มแล้ว ซึ่งเราได้วางไว้เป็นสเต็ปของมันอยู่แล้ว เหมือนกับสถานการณ์ในชีวิตที่กำลังเข้ามา มันเหมือนคนแต่ละคนเรียนจบอาจจะมีแฟน อาจจะเลิกกับแฟน แล้วมาเจอแฟนที่ทำงาน คุณอาจมีปัญหากับหัวหน้างานหรือ คุณอาจสู ญเสียอะไรทางบ้าน มันเหมือนชีวิตประจำวันของคนเรา แต่ละวันมันไม่เหมือนกัน''
ตลอดระยะเวลาที่ทำ ''เป็นต่อ'' มา 7 ปี ''นก-จิรศักดิ์'' บอกว่าการได้รับรางวัล เอเชียน อวอร์ด จากประเทศ สิงคโปร์ คือสิ่งภูมิใจที่สุด เพราะเป็นรางวัลที่ทั้งเอเชียให้การยอมรับ
''เราเคยไปดูงานที่อเมริกา ดูงานที่อังกฤษ ไม่มีใครไม่รู้จัก เป็นต่อ แม้แต่คนไทยที่อยู่ในต่างประเทศ ทุกคนชื่นชอบ มีงานไทยทาวน์ที่อังกฤษ อู๊ด ยม วอก ไปโชว์ตัวที่ลอนดอน เขาบอกว่า พวกนี้ยอดเยี่ยมากแบบสุดๆ เลย''
นอกจากสร้างนักแสดงที่มีคุณภาพขึ้นมาประดับวงการมากมาย ''เป็นต่อ'' ยังชุบชีวิตใหม่ ทำให้ตลกกลายเป็นดาวขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากคาเฟ่ซบเซา จนทำให้ที่แสดงร่อยหรอจนสูญพันธุ์ไปในที่สุด รวมทั้งสร้างงานสร้างรายได้ให้กับทีมงานเป็นร้อยคน การหลุดจากผังวิก 3 ของ ''เป็นต่อ'' จึงทำให้ ''นก-จิรศักดิ์'' มีความกังวลอย่างมากว่า อนาคตของพวกเค้าเหล่านั้นจะเป็นอย่างไรต่อไป
''ช่วงหนึ่งพวกพระราม 9 หรือ คาเฟ่ ยุบลง แล้วเราจะเห็นว่า พี่ๆ ตลกหลายๆ คน เข้ามาอยู่ในแวดวงของซิตคอม แนวคิดนี้มาจากพี่บอย ตอนนั้นเริ่มที่ คู่คนละขั้ว พอพี่บอยเขาลองเอาน้ากล้วย (กล้วยเชิญยิ้ม) และ พี่จอย (จอย ชวนชื่น) เข้ามารวมกับดาราปกติ ปรากฏว่าเข้ากันได้ดี เราก็สร้างและให้โอกาสตรงนี้มาตลอด ไม่ว่าจะเป็น เฮียหมู ในบางรัก ซอย 9 แล้วก็พี่อู๊ด เมื่อถูกถอดหรือปรับเปลี่ยนเขาจะทำอะไร ทีมงานเป็นร้อยๆ คน จะเกิดไรขึ้นกับเขา การเปลี่ยนแปลงอะไรก็แล้วแต่ มันส่งผลกระทบอยู่แล้ว คนเป็นร้อย ช่างไฟ ช่างแต่งหน้า ช่างกล้อง คนพวกนี้เขาก็ขาดรายได้''
หลังจากข่าว ''เป็นต่อ'' หลุดผังช่อง 3 แพร่สะพัดเป็นวงกว้าง ''นก-จิรศักดิ์'' บอกว่า นอกจากทีมงาน และนักแสดงรู้สึกช็อกและเสียใจ โดยเฉพาะ ''พิม-พิมพ์มาดา'' ที่รับบท ''พอใจ'' ที่เสียใจมากถึงขั้นร้องไห้ออกมาระหว่าง เตรียมแสดงละครเวทีเรื่อง ''เรื่องเล่าคืนเฝ้าผี'' ที่เอสพลานาดแล้ว ยังมีแฟนละครติดต่อเข้ามาแสดงความเสียใจ และให้กำลังใจทีมงานเป็นจำนวนมากด้วย
''พิมเนี่ยร้องไห้เลย ในฐานะผู้กำกับฯ ก็ต้องปลอบใจ บอกให้เขาใจเย็นๆ อย่าเพิ่งไปคิด เราทำหน้าที่ตรงนี้ก่อน อารมณ์ทีมงานทุกคนเหมือนโดนสึนามิเข้าญี่ปุ่น อยู่ๆ ตูมมาเลย ทุกคนช็อก วันรอบกาลาดินเนอร์ของเรื่องเล่าคืนเฝ้าผี นักข่าวสัมภาษณ์ผม คือตัวนักข่าวไม่อยากให้หลุดผัง ระหว่างสัมภาษณ์น้ำตายังไหล มีคนโทร.มาหา เต็มไปหมด แฟนๆ ทุกคนไม่แฮปปี้เลย คือผมเชื่อว่าทุกอย่างในโลกนี้มันไม่เที่ยง มีเกิด มีดับ ทุกอย่าง มันเกิดขึ้น มันก็มีเวลาดับลง เหมือนชีวิตคนเราปกติ ทุกคนหลายๆ คน ยึดเป็นต่อดูเป็นเพื่อนบ้าน แล้วก็เข้าใจในความรู้สึกเหมือนเราคอยดูใครกลุ่มหนึ่งที่มันสนุก แล้วเราก็เกิดความสบายใจ แล้ววันหนึ่งแบบว่า คนทั้งบ้านนั้นตายไป มันก็คงใจหายเหมือนกัน ไม่มีอีกแล้ว มันก็คงคืนนี้ ฉันไม่ได้มานั่งดูบ้านหลังนี้แล้ว''
ต่อคำถามว่า คิดว่า ''เป็นต่อ'' มีจุดบกพร่องร้ายแรงตรงไหน จึงกระเด็นจากผังช่อง 3 ผู้กำกับฯ หนุ่มรูปหล่อบอกว่า ที่ผ่านมาตนและทีมงานตั้งใจทุ่มเททำงานออกมาให้มีคุณภาพมากที่สุด ส่วนจะมีจุดบกพร่องตรงไหนในความรู้สึกของใครนั้น ตนไม่สามารถรู้ได้
''ไม่มีใครบอกว่าตัวเองไม่ดี พี่เชื่อแน่ๆ แต่นี้เนี่ย ตัวตรงนี้ มันพูดยาก เราไม่รู้ว่า หลักบริหารงานแต่ละที่มันขึ้นอยู่กับอะไร อย่างที่บอกว่าขึ้นอยู่กับเรตติ้ง ต้องการเรตติ้งแค่ไหน มันดึกขนาดนั้น ต้องอยู่อันดับเท่าไหร่ ใครเห็นจุดบกพร่องตรงไหนก็ช่วยบอก จริงๆ แล้ว งานทุกอย่าง เรากำกับละครเนี่ย เราจะถามคนดูว่าเป็นไงบ้าง อย่างเมื่อก่อน มียามอยู่คนหนึ่ง ก็มักถามเขาว่า สนุกไหม เขาก็จะบอกว่า ตรงนี้เนี่ย มันเป็นอย่างนี้ ซึ่งบางทีในมุมมองผู้กำกับฯ เวลานั่งมองงานตัวเองเหมือนนั่งมองลูกตัวเอง มันจะบอกอย่างเดียวว่าน่ารัก แต่บางทีหัวลูกเราเปื้อนข้างหลังเราไม่เห็น แต่เวลาบอกเราก็ไปแก้ไขให้ แต่ถ้าถามจุดโดยรวม มันก็สนุกอยู่ แต่พอมาถาม สิ่งที่ไม่ชอบ มันอยู่จุดตรงไหนก็ช่วยบอกด้วย''
''นก-จิรศักดิ์'' ทิ้งท้ายว่า แม้ในสายตามองไม่เห็นความบกพร่องอันร้ายแรงของละครซิตคอม ''เป็นต่อ'' แต่เมื่อทางช่องได้สั่งให้ถอดออกจากผังแล้ว ก็ต้องยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมกับฝากถึงแฟนๆ ให้ยอมรับกับสิ่งนี้ให้ได้ด้วย
เพราะนี่คือสปิริตและวิถีของคนทำงานมืออาชีพ
http://www.siamdara.com/Variety/110326_24110.html
