โสภณ องค์การณ์
ท่านพกปืนหรือยัง?
วิกฤติจากการก่อการร้ายใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กำลังสร้างความรู้สึกว่าเป็นภาวะใกล้มิคสัญญี อยู่เหนือการควบคุมของรัฐบาลนายกฯ ทักษิณโดยสิ้นเชิง หลังจากคนร้ายซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นพวกโจรคลั่งศาสนากระหน่ำยิงผู้พิพากษาใจกลางเมืองปัตตานี
หลังจากนั้นกลุ่มตุลาการใน 7 จังหวัดภาคใต้ก็มีมติของตั้งกองกำลังป้องกันตนเอง ขอมีเสื้อเกราะกันกระสุนและพกอาวุธปืน เพื่อป้องกันตัว
แถมยังบอกง่ายๆ ว่าไม่อยากพึ่งพาการคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ซึ่งจะทำให้ตกเป็นเป้าได้ง่ายกว่าที่เป็นอยู่ ก็ตำรวจระดับนายพันยังโดนลอบยิงได้ พวกโจรร้ายกลัวใครที่ไหน
อีกหน่อยคงเป็นเมืองจังโก้ คนพกปืนตุงเอวกันทั้งเมือง หรือจะให้เห็นภาพชัดๆ ก็ต้องสะพายปืนลูกซองโชว์ด้วย
ก่อนหน้านั้นกลุ่มครูในพื้นที่ก็โดนลอบทำร้ายและฆ่า นอกเหนือจากตำรวจ ทหาร ข้าราชการและชาวบ้าน จนต้องขออนุญาตพกปืนเช่นกัน
หากผู้พิพากษาต้องพกปืน คนทำมาหากินอาชีพอื่นๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนก็ต้องทยอยกันขอมีอาวุธปืนเช่นกัน ใครไม่มีเงินซื้อ ก็ถือว่าเป็นความเสี่ยงต่อการอยู่รอด หากย้ายงาน ย้ายบ้านหนีตายได้ มีทางเลือก ก็ถือว่าเป็นบุญ เพราะๆ ใครก็ไม่อยากตาย
ไม่ใช่ว่าพกปืนแล้วจะทำให้ปลอดภัย เพราะพวกจ้องทำร้ายย่อมได้เปรียบผู้ต้องระมัดระวังตัว จะทำให้ดีอย่างไร ก็รอดยาก หากคนร้ายมุ่งเอาชีวิตจริงๆ
อย่าไปโทษครู หรือผู้พิพากษาว่ากลัวตาย เพราะท่านผู้นำทำให้เห็นเป็นตัวอย่างทุกครั้ง มีหน่วยอารักขามากถึงขนาดนกบินขี้รดหัวไม่ได้ก็แล้วกัน
ก็ไม่มีใครว่าอะไร เพราะทุกชีวิตย่อมกลัวตายทั้งนั้นแหละ แม้ปากจะอ้างความเก่งกล้าสามารถให้ชาวบ้านฟังอย่างไรก็ตาม
แต่ที่ชาวบ้านเห็นกันชัดๆ ก็คือ การลอบทำร้าย สังหารในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นับวันจะหนักข้อ ก่อนหน้านี้ก็มีกลุ่มคนทั้งวัยรุ่นและวัยกลางคนออกมาอาละวาดจนโดนยิงตายไป 108 ราย
มองอย่างไรเมืองในแถบนั้นชักจะคล้ายอิรัก เพราะมีการฆ่ากันตายทุกวัน แม้กระทั่งคนมุสลิมในพื้นที่ก็ใช่ว่าจะปลอดภัย เพราะมีการแอบคิดบัญชีส่วนตัวกันเหมือนกัน
แล้วจะทำอย่างไร เพราะรัฐบาลและท่านผู้นำก็อ้างว่า 'ควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว' หลายรอบ จนชาวบ้านรู้แกวว่าเป็นคำพูดปลอบใจให้คนเชื่อเพียงไม่กี่นาที
ไม่มีวิกฤติครั้งใด ยุคใด ที่คนไทยจะสัญจรไปมาหาสู่ในแผ่นดินของตัวเองไม่ได้ แม้กระทั่งยุคผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ก็ยังไม่เป็นเช่นนี้ เพราะพระสงฆ์องคเจ้า ครูหรือผู้นำชุมชนที่ไม่เกี่ยวกับอำนาจการปกครอง ยังถูกละเว้น เพราะคอมมิวนิสต์ต้องการสร้างแนวร่วม
แต่โจรก่อการร้ายภาคใต้กลับไล่ฆ่าคนไม่รู้อีโหน่อีเหน่ เหมือนพวกนิยมการพลีชีพเพื่อฆ่าผู้อื่น ไม่คำนึงว่าเป้าหมายเป็นใคร หรือจะมีเด็กๆ โดนลูกหลง
การจับคนเป็นตัวประกันเหมือนกลุ่มกบฏเชชเนีย ยังไม่เกิด แต่ต่อไปไม่มีอะไรรับประกันว่าจะไม่เกิดขึ้น ยิ่งล่าสุดถึงกับยึดโรงเรียน เกิดการฆ่าฟันทำให้เด็กตายเป็นร้อยๆ
หากเป็นเช่นนั้น ก็นับว่าสถานการณ์อยู่นอกเหนือการควบคุมของรัฐบาล ถือว่าเป็นดินแดนมิคสัญญี และผู้บริหารบ้านเมืองจะยอมรับความผิดพลาดในการแก้ไขนโยบายหรือไม่
ปัญหาก็คือ จะทำอย่างไรกับพวกที่ไม่กลัวตาย?
ท่านอภิมหาผู้นำก็บินไปอิตาลีกับสวีเดนโน่น อ้างว่าหลังจากกลับมาวันที่ 25 จะขอไปลุยใต้อีกครั้ง ชาวบ้านก็อยากให้ท่านสัมผัสระดับอันตรายที่เป็นจริง ไม่ต้องระดมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็นร้อยๆ พันๆ คน ล้อมไว้หลายรอบ ปล่อยให้ท่านคุยว่า "มีอันตรายที่ไหน จะไปนอนให้ดู"
ท่านผู้พิพากษาทั้งหลายก็คงซึ้งจากคำพูดทหารเสนาบดีที่พูดให้เจ็บใจว่า เป็นความผิดของท่านตุลาการที่โดนฆ่าเพราะไม่ร้องขอการอารักขา
ถ้ามีเสียงย้อนว่าหากรัฐจัดหากองกำลังคุ้มกันให้ผู้พิพากษาทุกท่านได้เหมือนท่านผู้นำละก็ น่าจะทำให้อุ่นใจได้ ว่าแต่จัดการให้ได้มั้ยล่ะ?
ไม่ต้องรอคำตอบ! เดี๋ยวจะโดนมองว่าพูดจาหาเรื่องอีกนิ! อิอิอิ!!!
***** ที่มา Nation Weekend *****
http://www.nationweekend.com/